CAZ
บริษัท ซี เอ แซด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

สรุป Oppday CAZ ไตรมาส 3 ปี 2568: วิเคราะห์ผลประกอบการและทิศทางธุรกิจ

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

CZ ประเทศไทยจำกัด (มหาชน) ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ซึ่งมีทั้งผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบ โดยมีรายละเอียดดังนี้:

  • พนักงาน: มีพนักงานรวม 700 คน แบ่งเป็น Staff 305 คน และคนงาน 394 คน
  • โครงการ: มีโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จและส่งมอบ 87 โครงการ และมี 5 โครงการที่กำลังดำเนินการ
  • Backlog คงเหลือ: 12,017 ล้านบาท

ถึงแม้จะมี backlog จำนวนมาก แต่บริษัทมีการรับรู้ผลขาดทุนจากการสรุปยอด Final settlement กับลูกค้ารายหนึ่ง ทำให้เกิดผลขาดทุนรวม 325 ล้านบาทในส่วนของบริษัทใหญ่ และ Net Loss อยู่ที่ -21.3 และ -47.8 ในส่วนของ Parent

รายได้รวม 9 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,445 ล้านบาท แต่ลดลง 48% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากการลดมูลค่าสัญญาจากการทำ Final settlement และการทยอยส่งมอบงานให้ลูกค้า

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

CZ ได้รับงานว่าจ้างโครงการใหม่ คือ GTP LNG Receiving Terminal Project มูลค่า 11,568 ล้านบาท ซึ่งเป็น Key Milestone ในปี 2568

บริษัทมีสำนักงานและ Shop รวม 2 แห่ง ที่ระยองและบ่อแดง มีกำลังการผลิตที่สามารถรองรับรายได้ประมาณ 15,500 ล้านบาทต่อปี

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนประมูลงาน (Target Project Bidding) ในปี 2568 อีก 5 โครงการ ซึ่งโครงการแรก GTP ได้รับ Award ไปแล้ว และคาดว่าจะทราบผลอีก 4 งานภายในไตรมาส 4 ปีนี้ และต้นปีหน้า

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

ความเสี่ยงหลักที่ CZ เผชิญคือ ผลขาดทุนจากการทำ Final settlement กับลูกค้ารายหนึ่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาส 3 และ 9 เดือนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการโยกย้ายพนักงานจากโครงการ CFP กลับมา Standby ที่สำนักงานใหญ่ และต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจากการบริหารกระแสเงินสด

บริษัทมี Net Loss อยู่ที่ -21.3 และ -47.8 ในส่วนของ Parent รวมถึง Gross Margin ติดลบอยู่ที่ 887 ล้านบาทในไตรมาส 3 และ 690 ล้านบาทใน 9 เดือน

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

บริษัทได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาโดย:

  • สรุปยอด Final settlement กับลูกค้ารายดังกล่าว
  • ควบคุมต้นทุนโครงการอย่างเข้มงวด และประเมินต้นทุนในแต่ละไตรมาส
  • ใช้ Third-party เข้ามาช่วยประเมินต้นทุนโครงการ GTP
  • ปรับปรุงการบริหารกระแสเงินสดเพื่อลดต้นทุนทางการเงิน

บริษัทได้ทำ Revalue มูลค่าที่ดิน ทำให้มูลค่าที่ดินอาคารเพิ่มขึ้น

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

CZ มี backlog คงเหลือ 12,017 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในอีก 4 ปีข้างหน้า โดยมี GTP เป็นโครงการหลัก

บริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และควบคุมต้นทุน เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร

บริษัทคาดว่าจะเริ่มเห็นการเร่งตัวของรายได้จากโครงการ GTP ในช่วงกลางปีหน้า

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 28:04]

  1. CFP ใน Backlog Q3

    คำถาม: ไม่ทราบว่าใน backlog at end Q3 มีส่วนของ CFP อยู่เท่าไหร่ เป็น SMP เท่าไหร่ Civil เท่าไหร่ EPC เท่าไหร่ และกำหนดเสร็จตอนไหน

    คำตอบ: CFP เคลียร์ผลขาดทุนไปหมดแล้วในไตรมาส 3 ทำให้ไม่มี backlog ค้างอยู่ จะมี backlog คงค้างอยู่นิดหน่อย ประมาณ 4 ล้านเศษๆ สำหรับเคลียร์การขนย้ายของระหว่าง Site

  2. Resource รับงาน CFP เพิ่ม

    คำถาม: ไม่ทราบว่าถ้า CAZ จะมี resource พอที่จะรับงาน CFP เพิ่มหรือเปล่า ถ้าทาง TO หรือ EPC ใหม่ตัดสินใจให้งาน CAZ เพิ่ม อยากทราบความเห็นของ management ในเรื่องนี้

    คำตอบ: Capacity รวมของ CAZ รองรับรายได้ประมาณ 15,500 ล้านต่อปี ณ วันนี้มี backlog 12,017 ล้าน ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ยาวไป 4 ปี ยังมี Gap ที่จะรองรับงานโครงการใหม่เข้ามาได้อีก

  3. Average Gross Margin ใน Backlog

    คำถาม: ไม่ทราบว่า average gross margin ของ backlog ที่มีอยู่ประมาณเท่าไหร่ ถ้าไม่นับงาน graph

    คำตอบ: Average GP ของ backlog จะอยู่ที่ประมาณ 5-8%

  4. รายได้อื่น Q3 จากเศษโลหะและนั่งร้าน

    คำถาม: เหตุใด Q3 จึงมีรายได้อื่นจาก การจำหน่ายเศษโลหะและนั่งร้านจำนวนมาก เป็นชิ้นส่วนจากโครงการ CFP หรือไม่

    คำตอบ: มีการขายนั่งร้านของงานโครงการที่อยู่ใน CFP ให้กับผู้รับเหมา รายอื่น จึงมีการบันทึกรายได้จากการจำหน่ายนั่งร้านเข้ามาในไตรมาส 3

  5. Gross Margin เฉลี่ยหลังปรับปรุงต้นทุน

    คำถาม: หลังการปรับปรุงต้นทุนงบประมาณสำหรับงานคงเหลือใน backlog แล้วจะมี gross margin เฉลี่ยกี่เปอร์เซ็นต์

    คำตอบ: Average GP จะอยู่ที่ 5-8%

  6. ภาษีจ่ายสูงใน Q3

    คำถาม: ทำไมงวด Q3 จึงมีภาษีจ่ายสูงถึง 87 ล้านบาท ทั้งที่มีขาดทุนก่อนภาษี 322 ล้านบาท

    คำตอบ: ปีที่แล้วมีการบันทึก ECL (Expected Credit Loss) อยู่ที่ 550 ล้าน ซึ่งใน 550 ล้านมีการบันทึก deferred tax assets ไปด้วยอยู่ที่ 109 ล้าน ซึ่งอันนั้นจะเป็นเรื่องของความแตกต่างทางด้านเวลา พอมาวันนี้มีการทำ final settlement เรียบร้อยแล้ว เกิดผลขาดทุนจริงแล้ว ดังนั้นในตัว deferred tax assets ตรงนั้นก็ จะมีการ Reverse และก็ตัว ECL ตัวนั้นก็จะมีการ Reverse เข้ามาในไตรมาส 3 ซึ่งตัวนี้มันก็จะเกิดส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายทางภาษีในไตรมาส 3 ที่ 109 ล้าน รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายทาง ภาษีบางตัวที่จำเป็นจะต้องบวกกลับมันก็เลยส่งผลให้มีการบันทึกตัวค่าใช้จ่ายภาษีเข้ามาในไตรมาส 3 9 เดือนอยู่ที่ 87 ล้าน

  7. ประมาณการรายได้ Q4 และการรับรู้รายได้ GTP

    คำถาม: งวด Q4 2568 ประมาณการรายได้ไว้เท่าใด และงานของ graph จะเริ่มรับรู้เมื่อใด โดยประมาณโดยประเมินอัตรา gross margin งวด Q4 น่าจะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่

    คำตอบ: งานของ graph มีระยะเวลาการรับรู้รายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 4 ปี อันนี้ก็จะทยอยรับรู้รายได้ไป โดยที่ GP จะอยู่ที่ Average อยู่ที่ประมาณ 5-8% ก็จะเป็นในภาพของ ไตรมาส 4 เป็นไปตาม Average

  8. การรับรู้รายได้จาก backlog ในปี 2569

    คำถาม: จาก backlog ที่มีในปัจจุบัน จะมีการรับรู้รายได้ในปี 2569 เท่าใด โดยจะเริ่มเห็นการเร่งตัวของรายได้ขึ้นในไตรมาสใด

    คำตอบ: งานโครงการ GTP ช่วงนี้มีการทยอยรับรู้รายได้ไปบ้างแล้ว แต่ว่าจะเป็นใน ในภาพของงาน preparing ของพื้นที่งาน และก็ส่วนของ construction จริงๆ น่าจะเริ่มประมาณกลางปีหน้า

  9. โครงการ CFP ที่อยู่ในฝั่งสินทรัพย์

    คำถาม: โครงการ CFP ที่อยู่ในฝั่งสินทรัพย์ ทั้ง AR และ unbill ของ CAZ สิ้น Q3 คงเหลืออีกเท่าใด และมีความเสี่ยงที่จะต้องตั้งสำรองด้วยค่าหรือไม่ อย่างไร

    คำตอบ: ณ วันนี้ในภาพของ AR ที่คงเหลือ ก็จะเป็นตัว Long outstanding ที่มีการทำ final settlement กับตัวลูกค้าราย รายที่ทำ final settlement ไป แต่ว่าในภาพของตัว unbill ที่เป็น contact asset กับ contact liability ตัวนี้มีการ เคลียร์รายการออกไปหมดแล้ว ดังนั้นโดยสรุปก็คือการตั้งสำรองมีการตั้งสำรองรวมเข้าไปในไตรมาส 3 ไปแล้วทั้งจำนวนซึ่ง ซึ่งต่อไปก็จะไม่มีเรื่องของการตั้งสำรองของตัวโครงการ CFP แล้ว

  10. สถานะโครงการที่อยู่ระหว่างประมูล

    คำถาม: โครงการที่อยู่ระหว่างประมูลในหน้า 22 โครงการที่ 5 ปิโตรเคมีคอลมูลค่า 1,200 ล้านบาท อยู่ในสถานะ weighting LOI แปลว่าผู้ว่าจ้างเลือก CAZ แล้วใช่ไหมครับ แต่รอหนังสือ จ้างงานอย่างเป็นทางการเท่านั้น

    คำตอบ: งานที่ยังอยู่ในระหว่าง bidding process มีโอกาสในการที่จะได้รับการคัดเลือกจากทางผู้ว่าจ้าง ถ้าตาม timing ก็อย่างที่เรียนก็คือภายในไตรมาส 4 ก็จะทราบผล

  11. Breakdown Q3 Revenue

    คำถาม: ขอเซลล์ของ Q3 Break down เป็น EPC, SMP, Civil, General Construction and Fabrication

    คำถามต่อเนื่อง: Revenue Break down ที่ขอไปไม่นำส่วน final settlement ขอ Break down ของยอด 598 ล้าน

    คำตอบ: เดี๋ยวขออนุญาตสอบถามมาทางอีเมลทาง เลขาของบริษัท ได้ไหมคะ เดี๋ยวขออนุญาตตอบไปทาง ทางอีเมล แต่ว่าในภาพของ revenue ที่ อยู่ใน backlog ณ วันนี้ ก็จะมีในส่วนของโครงการ GTP แล้วก็ โครงการ และก็ มีส่วนของตัว suku อีกนิดหน่อย ซึ่งตัวของ เมทริน เนี่ยจะทยอยรับรู้รายได้ยาวไปจนถึงประมาณกลางปีหน้า ส่วนของตัว GTP นี้จะยาวไป 4 ปี

  12. การรับชำระจาก Clean Fuel Project

    คำถาม: ตอนนี้เราได้รับการชำระจาก clean fuel project เท่าไหร่แล้ว ยอดรับตอนสิ้น Q3

    คำตอบ: ตอน Q3 ได้รับมาแล้วประมาณ 50%

  13. Target GPM ของ Backlog ใหม่

    คำถาม: โปรเจคใหม่ Backlog 12,000 ล้าน target GPM เท่าไหร่ และมีกลไกในการควบคุมความเสี่ยงอย่างไร

    คำตอบ: ของตัวงาน GTP มีการบริหารความเสี่ยงโดยการที่ 1 เริ่มเดิมทีเดียวมีการควบคุมตัวต้นทุนของโครงการ ในลักษณะของการประมูล อัพเดทตัวต้นทุนใน ไตรมาสอยู่แล้วโดยปกติ ถ้ามีลักษณะของตัวต้นทุนที่จะต้อง เปลี่ยนแปลงหรืออัพเดทเนี่ยค่ะก็ จะมีการประเมินและก็มีการบันทึกเข้าไป ทีนี้ ณ ปัจจุบันนี้เรามี ตัวการควบคุมเพิ่มขึ้นมาโดยการที่จะมี Ter Party มาช่วยประเมินในเรื่องของ ตัวต้นทุนของ CAZ อยู่ด้วยของตัวโครงการ GTP

สรุป

ถึงแม้ CZ จะมีผลขาดทุนจากการทำ Final settlement ในไตรมาส 3 แต่บริษัทยังคงมี backlog จำนวนมาก และมีโอกาสในการเติบโตจากโครงการใหม่ GTP รวมถึงแผนการประมูลงานในอนาคต บริษัทมีมาตรการในการควบคุมต้นทุนและความเสี่ยง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และสร้างผลกำไรในระยะยาว