สรุปงบล่าสุด BYD

สรุปด้วย AI(O) BOT

## สรุปผลประกอบการของ หุ้น BYD บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ไตรมาส 3 ปี 2568

**สรุปสั้น:**
บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) (BYD) มีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 3 ปี 2568 จำนวน 157.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.98 ล้านบาท หรือ 32.94% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (หน้า 1) กำไรที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากกำไรจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนในหลักทรัพย์ "THAI" (หน้า 2) อย่างไรก็ตาม สำหรับงวด 9 เดือน บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 2,511.16 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 2,629.47 ล้านบาท หรือ 2,222.53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (หน้า 1) สาเหตุหลักมาจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากเงินให้กู้ยืมแก่ TSB (หน้า 4-5)

**เศรษฐกิจ:**
(ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในเอกสาร)

**การเปลี่ยนแปลงของกำไร:**
รายได้รวมในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 53.66% (151.33 ล้านบาท) จาก 282.03 ล้านบาท เป็น 433.36 ล้านบาท (หน้า 1, 2) โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ (เพิ่มขึ้น 56.10%) และกำไรจากเครื่องมือทางการเงิน (เพิ่มขึ้น 1,692.75%) (หน้า 2) อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 65.22% (88.13 ล้านบาท) จาก 135.13 ล้านบาท เป็น 223.26 ล้านบาท (หน้า 1, 2) เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่านายหน้าจ่าย ค่าตอบแทนทีมการตลาด และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (หน้า 2)

สำหรับงวด 9 เดือน รายได้รวมเพิ่มขึ้น 39.51% (285.87 ล้านบาท) จาก 723.60 ล้านบาท เป็น 1,009.47 ล้านบาท (หน้า 1, 3) โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่านายหน้า, รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ, และกำไรจากเครื่องมือทางการเงิน (หน้า 3) อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 536.40% (2,886.24 ล้านบาท) จาก 538.08 ล้านบาท เป็น 3,424.32 ล้านบาท (หน้า 1, 4) เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงาน, ค่าธรรมเนียมและบริการจ่าย, และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (หน้า 4-5)

**สินเชื่อและสัดส่วน:**
บริษัทมีการให้กู้ยืมแก่ TSB และ ACE (หน้า 2, 5) อย่างไรก็ตาม เอกสารฉบับนี้ไม่ได้ระบุข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อรวม, สัดส่วนสินเชื่อสูงสุด, NIM, NPL, และ Coverage Ratio

**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสการลงทุน:**
* **ความเสี่ยง:** ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากเงินให้กู้ยืมแก่ TSB เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ (หน้า 2, 4-5) นอกจากนี้ การที่ TSB มีจำนวนผู้โดยสารต่ำกว่าเป้าหมาย และการแข่งขันจากผู้ประกอบการรายเดิม ยังคงเป็นความท้าทาย (หน้า 4)
* **โอกาส:** การเพิ่มขึ้นของรายได้ค่านายหน้าและค่าธรรมเนียม แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการเติบโตของธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจวาณิชธนกิจ (หน้า 3) นอกจากนี้ การปรับปรุงเส้นทางการเดินรถของ TSB และการขยายบริการให้เช่าระบบบริหารจัดการยานพาหนะ อาจสร้างรายได้เพิ่มเติม (หน้า 4)

**สรุปสั้นท้ายสุด:**
ผลประกอบการของ BYD ในไตรมาส 3 ปี 2568 ได้รับผลกระทบอย่างมากจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากเงินให้กู้ยืมแก่ TSB แม้ว่ารายได้จะเติบโตขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้ผลประกอบการโดยรวมยังคงน่ากังวล การจัดการความเสี่ยงด้านสินเชื่อ และการควบคุมค่าใช้จ่าย จะเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นฟูผลกำไรของบริษัทในอนาคต