สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) BLC : ผลประกอบการไตรมาส 2/2567

บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 ด้วยรายได้รวม 735.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8% จากงวดเดียวกันในปี 2566 ซึ่งเป็นผลจากการจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับคู่ค้าเพิ่มขึ้น การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ การเพิ่มขึ้นของความต้องการใช้ยาเพื่อรักษาโรค และใช้กลยุทธ์ทางการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการจัดโปรโมชั่น การออกบูธแสดงสินค้า และการสื่อสารทางการตลาดผ่านทุกช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ สำหรับผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน มีการเติบโตของรายได้ 9.8% สนับสนุนโดยเทรนด์การดูแลรักษาสุขภาพ การเข้าถึงข้อมูลยาผ่านเทคโนโลยี และการกลับมาของนักท่องเที่ยวและผู้ป่วยต่างชาติ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรและเสริมอาหาร มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 22.5% และ 22.7% ตามลำดับ เนื่องจากการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าโรงพยาบาลและร้านขายยาเพิ่มขึ้น

แผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตของ BLC ยังคงมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริษัทวางแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการผลิตและการบริการ การตั้งเป้ารายได้หรือยอดขาย (outlook) ในช่วงที่เหลือของปี 2567 ยังคงอยู่ในระดับที่ดี BLC คาดการณ์ว่ารายได้จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค

จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง บริษัท BLC นับเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ รายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง อัตรากำไรสุทธิ 10.6% แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของธุรกิจ อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ที่ 0.3 แสดงให้เห็นถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีความสามารถในการชำระหนี้ได้ดี อัตราส่วนสภาพคล่องและสภาพคล่องหมุนเร็ว เท่ากับ 4.4 เท่า และ 3.3 เท่า ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจากสินปี 2566 ผลตอบแทนจากสินทรัพย์และผลตอบแทนผู้ถือหุ้น เพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 วงจรเงินสดเท่ากับ 236.1 วัน ลดลงจากสินปี 2566 เนื่องมาจากการลดลงของระยะเวลาเก็บหนีเฉลี่ยจาก 84.2 วัน ณ สินปี 2566 เป็น 76.4 วัน ในขณะที่ระยะเวลาชำระหนี้เฉลียและระยะเวลาขายสินค้าเฉลียไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากปีก่อนอย่างมีสาระสําคัญ หนี่สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.3 เท่า ลดลงเล็กน้อยจากสินปี 2566 สัดส่วนเงินกู้ยืมจากสถาบัน การเงินต่อหนีสินลดลงจาก 43.5% เป็น 26.5% ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 สาเหตุหลักมาจากการจ่ายชําระคืนเงินกู้ยืม ให้สถาบันการเงินในระหว่างปี

แม้ว่าราคาหุ้นเฉลี่ยในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 4.97 บาท P/E ล่าสุดอยู่ที่ 18.21 และ P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 1.81 แสดงให้เห็นว่าราคาหุ้นยังคงอยู่ในระดับที่น่าสนใจ แม้ว่าผลตอบแทนจากเงินปันผล (YIELD) ล่าสุดอยู่ที่ 2.06% อาจไม่สูงมาก แต่ BLC ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตของกำไรในอนาคต

**โอกาส**

* การเติบโตของตลาดยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ
* การขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
* การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตรงกับความต้องการของตลาด
* ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
* อัตราส่วนสภาพคล่องและสภาพคล่องหมุนเร็วที่ดีขึ้น
* ผลตอบแทนจากสินทรัพย์และผลตอบแทนผู้ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้น

**ความเสี่ยง**

* การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่สูงขึ้น
* ค่าใช้จ่ายในการผลิตที่เพิ่มขึ้น
* ความผันผวนของราคาสินค้าวัตถุดิบ
* ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

โดยรวมแล้ว BLC ถือเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่มีความมั่นคงและมีแนวโน้มการเติบโตในอนาคต บริษัทมีความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีกลยุทธ์การเติบโตที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการแข่งขันที่สูงขึ้น และความผันผวนของเศรษฐกิจ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการถือหุ้นยาวเพื่อรอการเติบโต และนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล