สรุปงบล่าสุด BEM

บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทสรุปผลประกอบการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ประจำปี 2567 (สรุปรวมข้อมูล)
**ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567:**
บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM สามารถสร้างรายได้รวมอยู่ที่ 17,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 16,375 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณรถบนทางพิเศษและผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทอยู่ที่ 3,768 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จาก 3,479 ล้านบาทในปีก่อนหน้า คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 22.16% (เพิ่มขึ้นจาก 20.48% ในปี 2566) และมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.25 บาท (เพิ่มขึ้นจาก 0.23 บาท ในปี 2566)
**ปัจจัยสนับสนุนการเติบโต:**
* **การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว:** ส่งผลให้ปริมาณผู้ใช้บริการทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
* **การปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร:** โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารตามเงื่อนไขสัมปทาน เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567
* **รายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์:** การเติบโตของรายได้จากการให้เช่าพื้นที่โฆษณาและจัดกิจกรรมในสถานี
**สถานการณ์เศรษฐกิจและผลกระทบ:**
แม้ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว แต่บริษัทฯ ก็ยังคงต้องเผชิญกับปัจจัยท้าทายต่างๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อที่ส่งผลต่อต้นทุนการดำเนินงาน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในนโยบายการเงินที่อาจส่งผลต่อต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม BEM ยังคงสามารถบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถรักษาการเติบโตของกำไรได้
**การวิเคราะห์รายได้และกำไร:**
* **รายได้รวม:** เพิ่มขึ้น 4% เป็น 17,004 ล้านบาท จากการเติบโตของรายได้ค่าโดยสารและรายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์
* **รายได้จากธุรกิจทางพิเศษ:** 8,941 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.2% จากปีที่แล้ว ปริมาณรถเฉลี่ย 1.12 ล้านเที่ยว/วัน
* **รายได้จากธุรกิจระบบราง:** 6,830 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากปีที่แล้ว ผู้โดยสารเฉลี่ย 427,000 เที่ยว/วัน
* **รายได้จากธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์:** 1,233 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีที่แล้ว
* **ต้นทุนการให้บริการ:** เพิ่มขึ้น 2% เป็น 9,497 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ไม่มีตัวตนภายใต้สัญญาสัมปทานที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณผู้โดยสาร
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร:** เพิ่มขึ้น 2% เป็น 1,261 ล้านบาท จากค่าโฆษณาและประชาสัมพันธ์
* **ต้นทุนทางการเงิน:** เพิ่มขึ้น 5% เป็น 2,348 ล้านบาท จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 44.15% (คำนวณจากกำไรขั้นต้น 7,507 ล้านบาท หารด้วยรายได้จากการให้บริการ 17,004 ล้านบาท)
* **อัตรากำไรสุทธิ:** ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 22.16% (คำนวณจากกำไรสุทธิ 3,768 ล้านบาท หารด้วยรายได้จากการให้บริการ 17,004 ล้านบาท)
**สินทรัพย์ หนี้สิน และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E):**
* **สินทรัพย์รวม:** ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 มีจำนวน 132,773 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากปี 2566 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของลูกหนี้ รฟม. ค่าก่อสร้างงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงตะวันตก และสินทรัพย์ภายใต้สัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
* **หนี้สินรวม:** จำนวน 96,213 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากปี 2566 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินกู้ยืมเพื่อลงทุนในงานก่อสร้างและจัดหาระบบรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และเงินกู้ยืมเพื่อจ่ายค่าตอบแทนแก่ รฟม. ตามสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
* **ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม:** จำนวน 36,560 ล้านบาท ลดลง 3% จากปี 2566 สาเหตุหลักจากการซื้อหุ้นคืน จ่ายเงินปันผล และการปรับมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ทางการเงิน
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio):** 2.63 เท่า (คำนวณจาก หนี้สินรวม 96,213 ล้านบาท หาร ส่วนของผู้ถือหุ้น 36,560 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจาก 1.88 เท่า ในปี 2566 อย่างไรก็ตามยังต่ำกว่าเงื่อนไขตามสัญญาสินเชื่อและหุ้นกู้ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 2.5 เท่า
* **อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net D/E):** 1.95 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 1.64 เท่า ในปี 2566 แต่ยังคงต่ำกว่าเงื่อนไขตามสัญญาสินเชื่อและหุ้นกู้ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 2.5 เท่า
**กระแสเงินสด:**
* **กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน:** ติดลบ 4,294 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการบันทึกลูกหนี้ภายใต้สัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม หากไม่รวมรายการดังกล่าว จะมีกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน 7,947 ล้านบาท
* **กระแสเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน:** 7,075 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการจ่ายลงทุนในงานระหว่างก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และการจ่ายลงทุนสำหรับอุปกรณ์งานระบบโครงการรถไฟฟ้าสีน้ำเงินและปรับปรุงทางพิเศษ
* **กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมจัดหาเงิน:** 11,795 ล้านบาท เป็นผลมาจากการรับเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินและการออกหุ้นกู้ หักลบกับการจ่ายซื้อคืนหุ้นทุน จ่ายเงินปันผล และจ่ายดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมทางการเงิน
* **เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดปลายงวด:** 1,672 ล้านบาท
**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาส:**
* **ความเสี่ยง:** ความผันผวนของเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาครัฐ และความเสี่ยงจากการดำเนินงานโครงการใหม่ๆ
* **โอกาส:** การเติบโตของเมือง การขยายตัวของระบบขนส่งมวลชน การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ และการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ
**แนวโน้มอนาคต:**
BEM มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว จากการขยายโครงข่ายระบบขนส่งมวลชน การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้บริการ และการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะต้องบริหารจัดการความเสี่ยงต่างๆ อย่างรอบคอบ เพื่อรักษาการเติบโตอย่างยั่งยืน
**สรุปความสัมพันธ์ระหว่างรายได้ กำไร และอัตราส่วนทางการเงิน:**
BEM แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและต้นทุนที่สูงขึ้น การบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเพิ่มรายได้จากธุรกิจหลัก ส่งผลให้ BEM สามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิในระดับที่น่าพอใจได้ ถึงแม้ว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) จะเพิ่มขึ้น แต่ยังคงอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้และต่ำกว่าเงื่อนไขที่กำหนดไว้
**โดยรวมแล้ว ผลประกอบการของ BEM ในปี 2567 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตและความสามารถในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน และยังคงรักษาระดับความสามารถในการทำกำไรและผลตอบแทนที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า**
(0.00%)
(217.09%)
(89.64%)
(89.72%)
(0.00%)
(40.18%)
(112.28%)
(105.21%)
(0.00%)
(240.05%)
(94.11%)
(132.64%)