สรุปงบล่าสุด BANPU
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการของ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (BANPU) ไตรมาส 3 ปี 2568
**1. สรุปรายได้รวม:**
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (BANPU) รายงานรายได้จากการขายรวมในไตรมาส 3 ปี 2568 จำนวน 1,358 ล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบเท่า 43,878 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 33 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 57 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 238% เมื่อเทียบกับปีก่อน (หน้า 4, 7, 8)
ปัจจัยที่ส่งผลให้รายได้รวมเพิ่มขึ้นมาจาก:
* ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ: รายได้เพิ่มขึ้น 40 ล้านเหรียญสหรัฐ
* ธุรกิจไฟฟ้าและไอน้ำ: รายได้เพิ่มขึ้น 33 ล้านเหรียญสหรัฐ
* ธุรกิจอื่นๆ: รายได้เพิ่มขึ้น 92 ล้านเหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม รายได้จากธุรกิจถ่านหินลดลง 145 ล้านเหรียญสหรัฐ (หน้า 8)
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
ราคาก๊าซธรรมชาติ Henry Hub เริ่มมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับกว่า 4 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู (MMBtu) ได้รับแรงหนุนจากปริมาณก๊าซสำรองในประเทศที่ลดลง ประกอบกับความต้องการพลังงานและไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากเทคโนโลยี AI และธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Centers) รวมถึงการขยายตัวของการส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ซึ่งช่วยกระตุ้นความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติโดยรวม (หน้า 5)
**การปรับโครงสร้างกลุ่มบ้านปูและการควบรวมกิจการ (Amalgamation) ระหว่าง BANPU และ BPP**
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 บริษัทบ้านปูจํากัด (มหาชน) (“BANPU”) โดยคณะกรรมการมีมติอนุมัติการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัท เพื่อขับเคลืÉอนการดำเนินงานสู่เฟสใหม่ (Next Phase) โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการดําเนินกลยุทธ์ Energy Symphonics เพื่อปลดล็อกมูลค่าในระยะยาว ให้มีการสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างเต็มศักยภาพ และเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างกลุ่มธุรกิจ (หน้า 3)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **ธุรกิจถ่านหิน:** รายได้ลดลง 17% เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยถ่านหินลดลง 23% แม้ว่าปริมาณการขายถ่านหินจะเพิ่มขึ้น 7% ต้นทุนขายเฉลี่ยลดลง 15% (หน้า 9)
* **ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ:** รายได้เพิ่มขึ้น 22% เนื่องจากปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 9% และราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 35% (หน้า 11)
* **ธุรกิจไฟฟ้า:** รายได้เพิ่มขึ้น 22% จากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา (Temple I&II) เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 16% แม้ว่าปริมาณการขายจะลดลง 5% (หน้า 14)
* **ค่าใช้จ่ายในการบริหาร:** เพิ่มขึ้น 2% จากการขยายธุรกิจในสหรัฐอเมริกา (หน้า 14)
* **ค่าภาคหลวง:** ลดลง 23% จากปริมาณขายและราคาขายถ่านหินที่ลดลง (หน้า 14)
* **ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุน:** ลดลง 32% จากโรงไฟฟ้า BLCP และเหมืองถ่านหินในจีน (หน้า 15)
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* **สินทรัพย์รวม:** เพิ่มขึ้น 8% เป็น 13,394 ล้านเหรียญสหรัฐ (หน้า 17)
* **หนี้สินรวม:** เพิ่มขึ้น 10% เป็น 8,467 ล้านเหรียญสหรัฐ (หน้า 21)
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** เพิ่มขึ้น 5% เป็น 4,927 ล้านเหรียญสหรัฐ (หน้า 23)
* **อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net debt to equity):** เพิ่มขึ้นเป็น 0.93 เท่า (จาก 0.79 เท่า ณ สิ้นปี 2567) (หน้า 23)
**ประเด็นสำคัญเพิ่มเติม:**
* BANPU มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพอร์ตธุรกิจ และจัดระเบียบกลุ่มธุรกิจหลักภายใต้กลยุทธ์ 'Energy Symphonics' ใหม่ เป็น 4 เสาธุรกิจ (หน้า 4)
* บริษัทฯ ยังคงดำเนินมาตรการในการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุม (หน้า 7)
* บริษัทฯ รับรู้ผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการแข็งค่าของเงินบาท (หน้า 7)
* มีการลงทุนเพิ่มในบริษัทร่วมในประเทศไทยและญี่ปุ่น (หน้า 18)
* มีการออกหุ้นกู้เพิ่มขึ้น (หน้า 22)
**คำอธิบายเพิ่มเติม:**
* **EBITDA:** ในไตรมาส 3 BANPU รายงาน EBITDA รวม 296 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบด้วย EBITDA จากธุรกิจเหมืองถ่านหิน 142 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง 9% จากไตรมาสก่อนหน้า), ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 66 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อนหน้า), ธุรกิจไฟฟ้า 84 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง 3% จากไตรมาสก่อนหน้า) และธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน 4 ล้านเหรียญสหรัฐ (หน้า 4)
* **ธุรกิจเหมืองยุคใหม่ (Next-Gen Mining Business):** ธุรกิจเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียมีปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่ธุรกิจเหมืองถ่านหินในออสเตรเลียมีปริมาณการขายลดลง 9% จากไตรมาสก่อนหน้า (หน้า 5)
* **ธุรกิจก๊าซธรรมชาติครบวงจรในสหรัฐฯ (US Closed-Loop Gas Business):** เริ่มรับรู้ผลประกอบการจากแหล่งก๊าซธรรมชาติ Bedrock (หน้า 5)
* **ธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง (Power+ Business):** มีความคืบหน้าในการพัฒนาโครงการระบบกักเก็บพลังงาน (Battery Energy Storage System: BESS) (หน้า 6)
* **ธุรกิจเทคโนโลยีแห่งอนาคต (Future Tech Business):** ยังคงเดินหน้าศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายการลงทุนในประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตสูง (หน้า 6)
(7.13%)
(5.84%)
(7.93%)
(23.22%)
(0.78%)
(18.44%)
(0.79%)
(4.49%)
(211.56%)
(227.08%)
(77.97%)
(48.26%)