สรุปงบล่าสุด ASW
บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 มีรายได้จากการขายและบริการ 2,765.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 121.13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 597.17 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 20.70% แรงขับเคลื่อนหลักมาจากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดมิเนียมและแนวราบ เช่น โครงการ ธงอ โอพ๓ |!818ก๕ โครงการ [ธงอ ปพ.งอเธร โครงการ Kave 00๒ ธลเลษล และโครงการ เหล1๐1 รวมถึงโครงการแนวราบอย่าง The Honor Yothinpattana และ Esta Serenity 3๐แอทพร1๐ทลอทอททรพ| บริษัทฯ ยังคงปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านการตลาดให้สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้า ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายและการโอนกรรมสิทธิ์
ในอนาคต บริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบ โดยวางแผนเปิดขายโครงการใหม่ในปี 2567 รวม 12 โครงการ เช่น Kave Luminous - Bangmod, Kave Genesis Nakhon Pathom และ The Title Serenity Naiyang เป็นต้น บริษัทฯ คาดการณ์ว่ารายได้จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการเปิดขายโครงการใหม่และการโอนกรรมสิทธิ์โครงการเดิม นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะต้นทุนค่าก่อสร้าง เพื่อรักษาระดับความสามารถในการทำกำไร
จากผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัท ASW มีกำไรสุทธิเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และอัตราส่วนทางการเงินก็สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจ เช่น P/E อยู่ที่ 6.29 , P/BV อยู่ที่ 0.98 และ D/E อยู่ที่ 2.26 แสดงให้เห็นว่าราคาหุ้นยังคงอยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับผลประกอบการและมูลค่าทางบัญชี แต่ถึงแม้ว่า YIELD จะอยู่ที่ 3.35% ซึ่งต่ำกว่า 4% ถือว่าไม่น่าสนใจลงทุนเพื่อรับเงินปันผล อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีวงจรเงินสดที่ 1217.89 ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานติดลบที่ -2615.135501 ล้านบาท สะท้อนถึงการนำเงินไปลงทุนในโครงการใหม่ และเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนติดลบที่ -2168.963904 ล้านบาท แสดงถึงการลงทุนต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
โดยรวม บริษัท ASW มีโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่เน้นการลงทุนระยะยาวเพื่อรอการเติบโตของธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนที่มองหาบริษัทที่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีการลงทุนต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามการดำเนินงานของบริษัทฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น การชะลอตัวของเศรษฐกิจ การแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ หรือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายรัฐ เป็นต้น
(64.01%)
(129.49%)
(61.81%)
(128.24%)
(1.33%)
(0.54%)
(7.84%)
(37.03%)
(131.38%)
(278.20%)
(553.27%)
(237.46%)