ASK
บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

ASK ฝ่าวิกฤตปี 2568: แนวโน้มและกลยุทธ์สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) นำเสนอผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 ปี 2568 โดยมีผู้บริหารเข้าร่วมให้ข้อมูล ได้แก่ คุณอนุฤทธิ์ วงศ์อุดม ผู้จัดการทั่วไป และคุณนัย ลาภาวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
  1. ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ลดลง: ไตรมาส 3 อยู่ที่ 3,711 ล้านบาท ลดลง 28% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีก่อนหน้า และ 9 เดือนแรกลดลง 38% เหลือ 11,747 ล้านบาท
  2. รายได้รวมลดลง: ไตรมาส 3 อยู่ที่ 1,354 ล้านบาท ลดลง 14% และ 9 เดือนแรกลดลง 15% เหลือ 4,159 ล้านบาท
  3. ค่าใช้จ่ายรวมลดลง: ไตรมาส 3 อยู่ที่ 1,225 ล้านบาท ลดลง 18% และ 9 เดือนแรกลดลง 18% เหลือ 3,691 ล้านบาท
  4. กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น: ไตรมาส 3 อยู่ที่ 104 ล้านบาท สูงขึ้น 77% และ 9 เดือนแรกอยู่ที่ 371 ล้านบาท สูงขึ้น 18%
  5. สัดส่วนรายได้: รายได้หลักยังคงมาจาก Interest Income ประมาณ 89%, Service Income 5%, โดยมี Hire Purchase Income 76%, Loan 11% และ Insurance 4%
  6. สินทรัพย์รวมลดลง: อยู่ที่ 63,901 ล้านบาท ลดลง 18% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีก่อนหน้า
  7. หนี้สินรวมลดลง: อยู่ที่ 52,215 ล้านบาท ลดลง 19%

ธุรกิจได้รับผลกระทบจากการลดลงของการผลิตรถบรรทุก ซึ่งเป็นสินเชื่อหลักของบริษัท รวมถึงการเปลี่ยนแปลงโมเดลการให้สินเชื่อเพื่อควบคุมคุณภาพ

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
  1. การฟื้นตัวของการผลิตรถบรรทุก Euro 5: คาดว่าจะช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้นตามความต้องการของลูกค้า
  2. การขยายตลาดไปยังรถประเภทอื่น: เช่น รถ UD, รถบรรทุกไฟฟ้า, รถตู้โดยสาร, และ Passenger Car
  3. สินเชื่อประเภทใหม่: เช่น สินเชื่อจำนำทะเบียน
  4. กลุ่มลูกค้าใหม่: เช่น ลูกค้ารถเช่า (Range a car)

บริษัทกำลังมองหาโอกาสในการขยายตลาดไปยังผลิตภัณฑ์ใหม่และกลุ่มลูกค้าใหม่ เพื่อชดเชยการลดลงของตลาดรถบรรทุก

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
  1. สภาพเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน: อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า
  2. การแข่งขันสูง: ในอุตสาหกรรมรถบรรทุกมือสอง
  3. NPL ที่สูงขึ้น: เนื่องจากการหดตัวของ Portfolio

บริษัทกำลังเผชิญกับความเสี่ยงจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน, การแข่งขันสูง, และปัญหา NPL ที่สูงขึ้น

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
  1. การปรับโครงสร้างหนี้: เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่างๆ
  2. การเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามหนี้: เพื่อลด NPL
  3. การควบคุมคุณภาพสินเชื่อ: โดยการลด LTV และ Term
  4. การขยายช่องทางการขาย: โดยการเพิ่ม Hub ในภาคอีสานและขายเองมากขึ้น

บริษัทกำลังใช้มาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหา NPL, ควบคุมคุณภาพสินเชื่อ, และขยายช่องทางการขาย

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
  1. แนวโน้มดอกเบี้ย: คาดว่าจะลดลง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อต้นทุนของบริษัท
  2. เป้าหมายปี 2569: รักษา Portfolio ให้ได้, ลด NPL, และเพิ่ม Market Share กลับไปที่เดิม (20%+)
  3. การเติบโตในอนาคต: มุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ใหม่ (รถบรรทุกไฟฟ้า, โซลาร์เซลล์) และตลาดใหม่ (รถตู้ Private, Passenger Car)

บริษัทคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในอนาคตจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ, การลดลงของดอกเบี้ย, และการขยายตลาดไปยังผลิตภัณฑ์ใหม่

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 31:25]
  1. ภาพรวมอุตสาหกรรมรถบรรทุกปี 2569: การผลิตเริ่มฟื้นตัวปลายปี 2568 คาดว่าปี 2569 จะผลิต Euro 5 ได้เต็มที่ ยอดขายอาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหรือทรงตัว
  2. รถ Euro 3 ในตลาด: เหลือ 2-3 พันคัน (รุ่นเล็ก 6 ล้อ) คาดว่าต้นปีหน้าจะหมด
  3. การผลิต Euro 5 ปีหน้า: เริ่มผลิตแล้ว แต่ยอดขายยังไม่เต็มที่ อาจไม่สูงเท่าปี 2564-2566
  4. ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ ต.ค. และแนวโน้ม พ.ย.: ต.ค. เพิ่มขึ้น พันกว่าล้านบาท คาดว่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
  5. ปลายปีอุตสาหกรรมรถบรรทุก: ยอดขายเริ่มดีขึ้น Q4 สินเชื่อกระเตื้องขึ้น
  6. รถมือสอง: ปีนี้ราคาดีขึ้น เป็นบาง Segment ที่รถใหม่ขาด
  7. การเก็บเงินดีขึ้น แต่ทำไม NPL สูงขึ้น: NPL กระโดดจาก 3.5 พัน เป็น 4.9 พันล้าน ปี 2567 เพิ่ม 1.2 พันล้าน ปีนี้เพิ่ม 200 ล้าน ทรงตัวแต่% สูงขึ้นเพราะพอร์ตเล็กลง
  8. ปรับปรุง Cost to Income: พยายามลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้
  9. ผลิตภัณฑ์ใหม่: รถ UD, รถบรรทุกไฟฟ้า (ESG), รถตู้โดยสาร, Passenger Car และ สินเชื่อจํานําทะเบียน
  10. แนวโน้มการตั้งสำรอง Q4: น่าจะลดลง
  11. สถานการณ์น้ำท่วม: มีผลกระทบต่อลูกหนี้ในพื้นที่น้ำท่วม 5-600 ล้านบาท แต่ผลกระทบจํากัด
  12. ตลาดรถบรรทุกมือสองปีหน้า: ขยับขึ้นมา ราคาดีขึ้น เป็นบาง Segment
  13. เป้าหมาย Market Share: กลับไปที่เดิม (20%+)
  14. รถยึดคงค้าง: เริ่มทรงตัวและลดลง ครึ่งปีหลัง ขายเพิ่มขึ้น ยึดน้อยลง
  15. ขาดทุนจากการขายรถยึด: ราว 30%
  16. ปัญหาจากรถยึดจํานวนมาก: คาดว่าปีหน้าจะดีขึ้น Q4, ปีต่อไปกลับสู่จุดเดิม
  17. ขั้นตอนการยึดรถ: เกิน 3 เดือนติดตามรถ ให้เวลาไถ่ถอน ขายทอดตลาดหรือขายเอง
  18. สัดส่วนลูกหนี้รายเล็ก-ใหญ่: 2 ปีก่อนเน้นรายย่อย อัตราดอกเบี้ยดี แต่ปีนี้เน้นรายใหญ่สภาพคล่องดีกว่า
  19. คุณภาพลูกหนี้: รายใหญ่ดีกว่า รายย่อยมีปัญหาสภาพคล่อง
  20. Fitch Rating ปรับแนวโน้มเป็นลบ: ยังไม่ส่งผลกระทบ
  21. สภาพคล่อง: เหลือเยอะ เก็บเงินค่างวดได้มากกว่าปล่อยสินเชื่อ ไม่ต้องออกหุ้นกู้ ใช้เงินค่างวดและเงินกู้จากแบงก์
  22. กลยุทธ์ปีหน้า: Maintain พอร์ตสินเชื่อ รักษ์ษาคุณภาพลูกค้า ดูเศรษฐกิจภาพรวม หาผลิตภัณฑ์และโอกาสใหม่ๆ
หัวข้อที่ถามและคำตอบที่ผู้บริหารตอบในคลิป
  1. ภาพรวมอุตสาหกรรมรถบรรทุกปี 2569
  2. รถ Euro 3 ในตลาด
  3. การผลิต Euro 5 ปีหน้า
  4. ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ ต.ค. และแนวโน้ม พ.ย.
  5. ปลายปีอุตสาหกรรมรถบรรทุก
  6. รถมือสอง
  7. การเก็บเงินดีขึ้น แต่ทำไม NPL สูงขึ้น
  8. ปรับปรุง Cost to Income
  9. ผลิตภัณฑ์ใหม่
  10. แนวโน้มการตั้งสำรอง Q4
  11. สถานการณ์น้ำท่วม
  12. ตลาดรถบรรทุกมือสองปีหน้า
  13. เป้าหมาย Market Share
  14. รถยึดคงค้าง
  15. ขาดทุนจากการขายรถยึด
  16. ปัญหาจากรถยึดจํานวนมาก
  17. ขั้นตอนการยึดรถ
  18. สัดส่วนลูกหนี้รายเล็ก-ใหญ่
  19. คุณภาพลูกหนี้
  20. Fitch Rating ปรับแนวโน้มเป็นลบ
  21. สภาพคล่อง
  22. กลยุทธ์ปีหน้า

โดยสรุป ASK เผชิญความท้าทายในปี 2568 แต่มีแผนการที่ชัดเจนในการปรับตัวและเติบโตในอนาคต โดยมุ่งเน้นการควบคุมคุณภาพสินเชื่อ, การขยายตลาด, และการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน