ASK
บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567

สรุปสั้น

กำไรสุทธิ 82.41 ล้านบาท ลดลง 75.52% YoY จาก 336.58 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการลดลงของคุณภาพลูกหนี้และอัตราดอกเบี้ยจ่ายที่ยังคงสูง สินทรัพย์รวมลดลงเล็กน้อย โดยรายได้รวมลดลงเพียง 0.14% YoY มาอยู่ที่ 1,634.54 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว

รายได้จากดอกเบี้ยในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อและเงินให้กู้ยืมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่รายได้ค่าบริการจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยลดลงถึง 46.12% YoY ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 7.10% YoY แต่ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกลับเพิ่มขึ้น 58.94% YoY เป็นผลจากการตั้งสำรองและการด้อยค่าของสินทรัพย์รอการขายที่เพิ่มขึ้นตามการยึดรถที่มากขึ้น ต้นทุนทางการเงินก็เพิ่มขึ้น 21.44% YoY จากการกู้ยืมเงินและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

บริษัทฯ เผชิญกับความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ส่งผลต่อกำไรสุทธิที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แผนในอนาคตอาจรวมถึงการปรับปรุงการบริหารจัดการและการควบคุมต้นทุน เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและตลาดการเงินในระยะยาว


ผู้เขียน อจน. นุ้ย

สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ASK รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 82.41 ล้านบาท ลดลง 75.52% จากไตรมาส 2 ปี 2566 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 336.58 ล้านบาท โดยรายได้รวมอยู่ที่ 1,634.54 ล้านบาท ลดลง 0.14% จากไตรมาส 2 ปี 2566 ที่มีรายได้รวม 1,636.76 ล้านบาท แม้ว่าพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อจะเพิ่มขึ้น แต่การตั้งสำรองหนี้สูญที่มากขึ้นจากคุณภาพลูกหนี้ที่ลดลงและอัตราดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้นส่งผลต่อกำไรสุทธิในไตรมาสนี้

แผนธุรกิจในอนาคต บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อส่วนบุคคลให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการให้บริการสินเชื่อแก่กลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพและมีเครดิตที่ดี รวมทั้งบริหารจัดการสินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดอัตรา NPL บริษัทฯ วางแผนที่จะขยายช่องทางการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ และเพิ่มความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น

การวิเคราะห์โอกาสการลงทุน บริษัท ASK มี P/E ล่าสุดอยู่ที่ 5.39 P/BV อยู่ที่ 0.49 และ YIELD ล่าสุดอยู่ที่ 11.49 ราคาหุ้น 52 สัปดาห์ สูงสุด/ต่ำสุด คือ 45.64 / 12.28 และราคาล่าสุดอยู่ที่ 12.28 โดยผลประกอบการไตรมาสล่าสุดมีกำไรสุทธิที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ YIELD ที่สูงกว่า 11% สะท้อนถึงความสามารถในการจ่ายเงินปันผลที่ค่อนข้างสูง จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่เน้นการรับเงินปันผล อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามผลประกอบการและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เนื่องจากบริษัทฯ มีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) สูง และมีการตั้งสำรองหนี้สูญที่มากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อผลประกอบการในอนาคต


รายได้รวม
1,634.54 ล้านบาท
28.68ล้านบาท
(1.72%)
ไตรมาสก่อนหน้า
2.22ล้านบาท
(0.14%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรขั้นต้น
143.46 ล้านบาท
24.63ล้านบาท
(14.65%)
ไตรมาสก่อนหน้า
68.71ล้านบาท
(32.38%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรขั้นต้น(%)
8.78 ล้านบาท
1.33ล้านบาท
(13.16%)
ไตรมาสก่อนหน้า
4.18ล้านบาท
(32.25%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
ค่าใช้จ่ายรวม
313.16 ล้านบาท
26.40ล้านบาท
(7.77%)
ไตรมาสก่อนหน้า
23.95ล้านบาท
(7.11%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตราค่าใช้จ่าย(%)
19.16 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรสุทธิ
82.41 ล้านบาท
91.41ล้านบาท
(52.59%)
ไตรมาสก่อนหน้า
254.17ล้านบาท
(75.51%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรสุทธิ(%)
5.04 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กระแสเงินสด
1,023.39 ล้านบาท
1,587.23ล้านบาท
(281.50%)
ไตรมาสก่อนหน้า
4,280.18ล้านบาท
(131.42%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล