ASIMAR
บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุปสั้น

ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล


ผู้เขียน

สรุปด้วย AI(O) BOT

## สรุปผลประกอบการหุ้น ASIMAR ปี 2567: เติบโตโดดเด่นจากงานต่อเรือหนุนกำไร พร้อมสภาพคล่องที่แข็งแกร่งขึ้น

บทความนี้สรุปผลประกอบการของบริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR สำหรับปี 2567 โดยเน้นการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลการดำเนินงานในไตรมาสต่างๆ และภาพรวมทั้งปี เพื่อให้เห็นถึงปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ กำไร และสถานะทางการเงินของบริษัท รวมถึงการพิจารณาสภาพคล่องของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้น

**ภาพรวมผลประกอบการปี 2567**

ASIMAR รายงานรายได้รวมสำหรับปี 2567 อยู่ที่ **1,054.78 ล้านบาท** เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง **83.88%** เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้รวม 573.61 ล้านบาท ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตนี้คือการรับรู้รายได้จากโครงการต่อเรือขนาดใหญ่ของกองทัพเรือ โดยเฉพาะโครงการต่อเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ ซึ่งมีการรับรู้รายได้สะสมไปแล้ว 61.08% ของทั้งโครงการ และโครงการต่อเรืออเนกประสงค์ต้นแบบเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งมีการรับรู้รายได้สะสม 21.15%

กำไรสุทธิของ ASIMAR ในปี 2567 พุ่งสูงขึ้นอย่างโดดเด่นเช่นกัน โดยอยู่ที่ **50.88 ล้านบาท** เพิ่มขึ้นถึง **189.42%** จาก 17.58 ล้านบาทในปี 2566 การเติบโตของกำไรสุทธิเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการรับจ้าง โดยเฉพาะงานต่อเรือ ซึ่งมีมูลค่าโครงการสูง

**วิเคราะห์รายได้และกำไรตามประเภทธุรกิจ**

* **งานซ่อมเรือ:** รายได้จากงานซ่อมเรืออยู่ที่ 482.54 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 2.26% จากปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการปรับปรุงพื้นที่ท่าเทียบเรือของสาขาสมุทรปราการในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งส่งผลกระทบต่อปริมาณงาน อย่างไรก็ตาม ธุรกิจซ่อมเรือยังคงเป็นแหล่งรายได้หลักของ ASIMAR โดยเฉพาะจากกลุ่มธุรกิจเดินเรือขนส่งน้ำมันและเรือโดยสาร
* **งานต่อเรือ:** รายได้จากงานต่อเรือเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยอยู่ที่ 503.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 2,323.36% จากปีก่อน การเติบโตนี้มาจากการรับรู้รายได้ของโครงการต่อเรือของกองทัพเรือ ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่และมีมูลค่าสูง
* **งานจัดหาเรือ:** รายได้จากการจัดหาเรืออยู่ที่ 4.10 ล้านบาท ลดลง 53.78% จากปีก่อน รายได้ส่วนนี้มาจากการขายเรือเก็บขยะให้แก่บริษัท พรีเชียส ชิพปิง จำกัด (มหาชน)

**วิเคราะห์ต้นทุนและค่าใช้จ่าย**

ต้นทุนในการรับจ้างของ ASIMAR เพิ่มขึ้น 104.36% สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของรายได้ โดยมีต้นทุนค่าแรงและค่าวัสดุที่ปรับสูงขึ้น รวมถึงการรับรู้ต้นทุนของงานโครงสร้างตัวเรือและระบบเครื่องจักรของโครงการต่อเรือที่มีมูลค่าสูง ค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 25.71% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 14.88% ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและสวัสดิการที่เพิ่มขึ้น รวมถึงค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในอุปกรณ์และเครื่องมือ

อย่างไรก็ตาม ต้นทุนทางการเงินของ ASIMAR ลดลง 53.61% เนื่องจากบริษัทฯ มีเงินกู้ยืมระยะสั้นและระยะยาวจากสถาบันการเงินลดลง และสถาบันการเงินมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง

**วิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน**

* **อัตรากำไรขั้นต้น:** ลดลงจาก 26.37% ในปี 2566 เป็น 19.82% ในปี 2567 แม้ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนในการรับจ้างก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามสัดส่วน โดยเฉพาะต้นทุนในการต่อเรือที่สูงกว่าต้นทุนในการซ่อมเรือ
* **อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE):** เพิ่มขึ้นจาก 4.08% ในปี 2566 เป็น 11.02% ในปี 2567 แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ มีความสามารถในการทำกำไรได้สูงขึ้น
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio):** เพิ่มขึ้นจาก 0.93 เท่า ในปี 2566 เป็น 1.09 เท่า ในปี 2567 เนื่องจากบริษัทฯ มีเงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น เพื่อใช้ในการลงทุนในโครงการต่อเรือ
* **อัตราส่วนสภาพคล่อง (Current Ratio):** ปรับตัวดีขึ้น โดยเพิ่มขึ้นจาก 0.96 เท่า ณ สิ้นปี 2566 เป็น 1.03 เท่า ณ สิ้นปี 2567 แสดงให้เห็นถึงสภาพคล่องที่แข็งแกร่งขึ้นของบริษัท ถึงแม้ว่าหนี้สินหมุนเวียนจะเพิ่มขึ้น 32.88% แต่สินทรัพย์หมุนเวียนเพิ่มขึ้นมากกว่าถึง 42.40%

**วิเคราะห์กระแสเงินสด**

(ข้อมูลนี้ไม่ได้ระบุไว้ในข้อมูลที่ให้มา)

**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน**

* **ความเสี่ยง:** ความผันผวนของราคาวัสดุและค่าแรง, ความเสี่ยงจากความล่าช้าในการดำเนินโครงการ, การแข่งขันในอุตสาหกรรม
* **โอกาส:** การเติบโตของอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ, การขยายตัวของธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ, การได้รับงานโครงการขนาดใหญ่จากภาครัฐและเอกชน

**สรุป**

ปี 2567 เป็นปีที่ ASIMAR ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่น โดยมีรายได้และกำไรสุทธิเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากการรับรู้รายได้ของโครงการต่อเรือขนาดใหญ่ของกองทัพเรือ นอกจากนี้ สภาพคล่องของบริษัทก็ปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงเนื่องจากต้นทุนในการต่อเรือสูงกว่าต้นทุนในการซ่อมเรือ และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพิ่มขึ้นเนื่องจากการกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนในโครงการต่อเรือ

โดยรวมแล้ว ASIMAR ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ รวมถึงการได้รับงานโครงการขนาดใหญ่จากภาครัฐและเอกชน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาถึงปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทฯ ด้วย

**หมายเหตุ:** บทความนี้เป็นการสรุปและวิเคราะห์ผลประกอบการของ ASIMAR โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่ให้มาเท่านั้น นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน


รายได้รวม
491.57 ล้านบาท
283.58ล้านบาท
(136.34%)
ไตรมาสก่อนหน้า
349.51ล้านบาท
(246.03%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรขั้นต้น
61.13 ล้านบาท
6.76ล้านบาท
(12.44%)
ไตรมาสก่อนหน้า
15.35ล้านบาท
(33.53%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรขั้นต้น(%)
12.44 ล้านบาท
13.70ล้านบาท
(52.41%)
ไตรมาสก่อนหน้า
19.79ล้านบาท
(61.40%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
ค่าใช้จ่ายรวม
31.95 ล้านบาท
0.14ล้านบาท
(0.45%)
ไตรมาสก่อนหน้า
8.83ล้านบาท
(38.19%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตราค่าใช้จ่าย(%)
6.50 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรสุทธิ
18.77 ล้านบาท
4.80ล้านบาท
(34.35%)
ไตรมาสก่อนหน้า
4.40ล้านบาท
(30.62%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรสุทธิ(%)
3.82 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
D/E
1.09 เท่า
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กระแสเงินสด
-134.33 ล้านบาท
163.79ล้านบาท
(555.97%)
ไตรมาสก่อนหน้า
254.04ล้านบาท
(212.21%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล