ASIAN
บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

ASIAN Opportunity Day Q3 2567: ผลกระทบ, โอกาส, ความเสี่ยง และแนวโน้มธุรกิจอาหาร

สวัสดีครับท่านนักลงทุนและผู้ที่สนใจรับฟังรายงานผลประกอบการของบริษัท Asian Sea Corporation สำหรับไตรมาส 3 ปี 2568 เช่นเดิม Agenda ที่เราจะรายงานสำหรับไตรมาสนี้ประกอบด้วย 4 เรื่องหลักๆ และเรื่องสุดท้ายจะเป็น Q&A ผมขออนุญาตไปตัวที่เริ่มแรกก็คือตัว Overview

ในภาพของ Overview นะครับ ก็ขออนุญาตอีกครั้งนะครับสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเข้ามาสนใจและรับฟังบริษัท Asian C Corporation นะครับตัวของ Asian เองเนี่ยเราได้ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2507 นะครับ แล้วก็เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารตั้งแต่ปี 2537 Market Cap เนี่ยอยู่ประมาณ 5.8 พันล้านนะครับ จากมูลค่าเมื่อวานนะครับสำนักงานใหญ่ของเราเนี่ยอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาครนะครับ ณ ปัจจุบันเนี่ยเรายังมีโรงงานนะครับในการผลิตนะครับ ประกอบด้วย 2 Location นะครับอยู่ที่ประเทศไทยเนี่ย 4 โรงงานนะครับ แล้วก็อยู่ที่ประเทศจีนเนี่ย 1 โรงงานนะครับ จำนวนพนักงานนะครับ ณ สิ้นไตรมาส 3 เราอยู่ที่ 6,057 ท่านนะครับโดยแบ่งเป็นพนักงานที่เป็นรายวันเนี่ยประมาณ 80% ณ สิ้นไตรมาส 3 เราในปีนี้นะครับเราได้รับตัวของ ESG 100 นะครับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันนะครับจากสถาบันไทยพัฒน์นะครับ แล้วก็ตัวสำคัญอีกอันนึงก็คือเราได้ ตาสัญลักษณ์ Governance Excellence นะครับเป็น 5 ตาสัญลักษณ์ของ CGR Rating นะครับ

ผมขอไปในภาพของ Business Structure นะครับในโครงสร้างซึ่งประกอบด้วยบริษัท ย่อยๆ ภายใต้ของ Asian นะครับโดย Asian เองเนี่ยเรามีบริษัท ย่อยอยู่ทั้งหมดเนี่ย 5 บริษัทนะครับ บริษัท แรกก็คือ บริษัท Asian ถ้าดูจากในสไลด์นะครับ ก็คือบริษัท Asian Wellness Residence นะครับโดยการถือหุ้นของทาง Asian เนี่ยอยู่ที่ 100% นะครับ บริษัท นี้ก็จะเป็นการไปลงทุนในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นะครับซึ่งประกอบด้วย JV เนี่ย 4 JV ด้วยกัน โดยสัดส่วนในการถือหุ้นของเราเนี่ยอยู่ที่ร้อยละ 40% ร่วมกับพาร์ทเนอร์ก็คือกลุ่มของ Origin นะครับ บริษัท แรกก็คือตัวของ JV One Asian ศรีราชานะครับ อันนี้ก็จะเป็นบริษัทที่ใช้ในการทำพัฒนาโรงแรมนะครับที่ศรีราชานะครับ บริษัท ต่อมาก็คือ One Origin เขาใหญ่นะครับ ธนารักษ์อันนี้ก็จะเป็นบริษัทที่ใช้ในการพัฒนานะครับ ทำการพัฒนาโรงแรมนะครับที่เขาใหญ่นะครับ บริษัท ถัดมาก็คือ Origin Nationwide Asian นะครับซึ่งบริษัท นี้ก็จะทำเกี่ยวกับตัวของอาคารห้องชุดนะครับ ประกอบด้วย 2 แห่งด้วยกันก็คือที่เขาใหญ่และศรีราชานะครับ ส่วน JV สุดท้ายก็คือ Britannia Asian เขาใหญ่ อันนี้ก็จะเป็นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นะครับเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบนะครับ

บริษัท ถัดมาก็คือบริษัท Asian สุราษฎร์นะครับ หรือ Asian Seafood Cold Storage นะครับ สัดส่วนในการถือหุ้นโดยบริษัท Asian เองเนี่ย 100% ซึ่งธุรกิจหลักของบริษัท Asian สุราษฎร์ก็คือประกอบด้วยธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็งนี้เป็นหลักนะครับ โดยตลาดในการส่งออกก็จะเป็นตลาดยุโรปกับตลาดที่ญี่ปุ่นนะครับ ถัดมาก็คือบริษัท Asian Food นะครับการถือหุ้นก็อยู่ในสัดส่วน 100% เช่นกันครับ อันนี้ก็จะประกอบธุรกิจในการนำเข้านะครับ อาหารทะเลแช่เยือกแข็งนะครับจากต่างประเทศนี้เข้ามาขายและจัดจำหน่ายในประเทศไทยนะครับ บริษัท ถัดมาก็คือบริษัท Asian Nutrition นะครับอันนี้ก็เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจอาหารสัตว์น้ำนะครับ ณ ปัจจุบันเนี่ยเราผลิตอาหารกุ้งนะครับ ส่วนอีกธุรกิจหนึ่งที่เราทำก็คือรับจ้างผลิตตัวของอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ดนะครับ อยู่ภายใต้ของบริษัท นี้โดยเป็นการว่าจ้างจากบริษัทลูกของเราเช่นกันก็คือเป็นการว่าจ้างจากบริษัท AI นะครับหรือ Asian Alliance International นะครับ อันนี้ก็คือเป็นบริษัท ย่อยที่ทาง Asian เองเนี่ยได้ Spin off ออกมาโดยสัดส่วนการถือหุ้นเนี่ยนะครับ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 70% ภายใต้ของ Asian ภายใต้ของ AI นะครับ ก็จะมีบริษัท ย่อยนะครับ 1 บริษัท แล้วก็จะมีบริษัท ร่วมค้าและก็บริษัท ร่วมนะครับ ในส่วนของบริษัท ย่อยนะครับ ก็คือบริษัท Asian Pet Care Corporation นะครับ หรือเราเรียกว่า APCC นะครับ สัดส่วนในการถือหุ้นของ AI เองเนี่ยอยู่ที่ 100% นะครับ บริษัท นี้ก็จะทำหน้าที่เป็นบริษัทในการลงทุนนะครับที่ประเทศจีนกับในการจัดจำหน่ายนะครับทำการตลาดนะครับอาหารสัตว์เลี้ยงภายใต้แบรนด์ของบริษัท ก็คือ Mongchou นะครับ Hajiko แล้วก็ Pro นะครับ ในตัวของ APCC เองเนี่ยอย่างที่เรียนนะครับ เรามีการลงทุนในประเทศจีน ซึ่งเป็นบริษัท ย่อยนะครับ แล้วก็เป็นบริษัท ร่วมค้าในส่วนของบริษัท ย่อยเนี่ยก็คือบริษัท Chiah Corporation Shanghai นะครับ อันนี้ก็เป็นบริษัทที่จัดจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงนะครับ ภายใต้แบรนด์ Mongchou ณ ปัจจุบันที่ประเทศจีนนะครับ ส่วนอีกบริษัท หนึ่งนะครับที่เราไปร่วมค้าก็คือไปร่วมกับทางพาร์ทเนอร์ทางประเทศจีนนะครับ ก็คือบริษัท Shandong Chiah Mouye Seafood นะครับ อันนี้ก็จะเป็นโรงงานผลิตนะครับ รับจ้างผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ดนะครับ โดยโรงงานเนี่ยอยู่ที่ซานตงครับ ภายใต้ AI ก็จะมีบริษัท ร่วมบริษัท หนึ่งก็คือบริษัท AGE นะครับ ก็คือตัวของ Asian Group SCS ยุโรป GmbH นะครับ สัดส่วนในการถือหุ้นของเราเนี่ยอยู่ที่ 60% นะครับซึ่งบทบาทของบริษัท นี้ก็ทำหน้าที่ในการหาลูกค้านะครับที่ต้องการว่าจ้างผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกนะครับ ในประเทศยุโรปนี้เป็นหลักนะครับ ส่วนบริษัท สุดท้ายก็คือ JV เนี่ยเราไปร่วมกับ Inter Pharma ในการถือเนี่ยเราอยู่ที่ 40% นะครับ ซึ่งเรา ร่วมกับบริษัท Interpharma นะครับ ทำหน้าที่ในเรื่องของการจัดจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงนะครับภายใต้แบรนด์มาลีครับ

ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

ในส่วนของผลประกอบการโดยรวมนะครับ ถ้าเราดูจากสไลด์ ในส่วนของรายได้ ณ ไตรมาส 3 นะครับ ในกลุ่มของ Asian เองเนี่ยเรามีรายได้อยู่ที่ 2,555 ล้าน ถ้าเปรียบเทียบกันกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วเนี่ยเราลดลงเนี่ยประมาณ 7% โดยสาเหตุหลักก็จะมาจากอัตราแลกเปลี่ยนนะครับ ที่แข็งค่าขึ้นนะครับ ส่วนหนึ่งแล้วก็สัดส่วนในเรื่องของการขายนะครับ อาหารสัตว์เลี้ยง และอาหารทะเลแช่เยือกแข็งเนี่ยลดลงนะครับ จากปัจจัยในส่วนที่เป็นเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเปรียบเทียบจากปีที่แล้วก็จะมีผลทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเนี่ยลดลงนะครับ สำหรับไตรมาสนี้เรามีอัตรากำไรขั้นต้นในภาพรวมอยู่ที่ 13.2% เมื่อเปรียบเทียบจากปีที่แล้วเนี่ยอยู่ที่ 17.1 นะครับ ถ้าเป็นเม็ดเงินบาทเนี่ยเราลดลงไปถึง 28.4% นะครับจาก 470 ล้านในปีที่แล้วมาเป็น 336 ล้านนะครับ ซึ่งจากปัจจัยในตัวของกำไรขั้นต้นที่ลดลงก็มีผลทำให้ตัวของกำไรสุทธินะครับ ในไตรมาสนี้ของ Asian เองเนี่ยส่วนที่เข้ามานะครับ ก็อยู่ที่ 169 ล้านนะครับ ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อรายได้ก็อยู่ที่ 6.6% ครับ ก็ลดลงประมาณ 28% จากปีที่แล้วที่เรามีกำไรสุทธิอยู่ที่ 235 ล้านหรือ 8.5% นะครับ

ถ้ามาดูภาพ 9 เดือนสำหรับปีนี้เองนะครับ ตัวของรายได้ของเราเนี่ยอยู่ที่ 7,822 ล้านบาทนะครับ ก็ลดลงประมาณ 3% จากปีที่แล้วช่วง Peer 9 เดือนเหมือนกันนะครับที่ปีที่แล้วเนี่ยเราอยู่ที่ 8,073 ล้านบาทนะครับ โดยส่วนหลักๆ มาเนี่ยเราได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนนะครับ แล้วการลดลงนะครับในส่วนที่เป็นรายได้ในธุรกิจทูน่า อาหารสัตว์น้ำและก็อาหารทะเลแช่เยือกแข็งนะครับซึ่งก็ยังไม่สามารถที่จะชดเชยได้ในส่วนที่เพิ่มขึ้นของอาหารสัตว์เลี้ยงเมื่อเปรียบเทียบจากปีที่แล้วนะครับ จากผลกระทบนะครับ ในช่วง 9 เดือนนะครับของปีนี้เองครับ ก็ในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนเนี่ยค่าเงินบาทเนี่ยมันแข็งค่าขึ้นนะครับ ก็มีผลทำให้ตัวของอัตรากำไรขั้นต้นและกำไรขั้นต้นของปีนี้นะครับ 9 เดือนเนี่ยลดลงนะครับโดย 9 เดือนของปีนี้เนี่ยเรามีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 1,120 ล้านบาทนะครับ ถ้าเป็นอัตรากำไรขั้นต้นเนี่ยก็อยู่ที่ 14.3% ครับ ก็ลดลงจากปีที่แล้วอย่างมีนัยยะสำคัญเหมือนกันนะครับซึ่งในปีที่แล้วเนี่ยในช่วงของ 9 เดือนที่ผ่านมาเนี่ยเรามีอัตรากำไรขั้นต้นเนี่ยอยู่ถึง 18.5% ครับ ถ้าเป็นเม็ดเงินก็เรามีกำไรขั้นต้นถึง 1,497 ล้านบาทครับ จากผลกระทบที่ในส่วนของรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นนะครับ ที่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญก็มีส่วนทำให้ตัวของกำไรสุทธินะครับสำหรับปีนี้ลดลงครับ โดย 9 เดือนของปีนี้นะครับเรามีกำไรสุทธิอยู่ที่ 534 ล้านบาทนะครับ ก็ลดลงจากปีที่แล้วประมาณ 27% นะครับซึ่งในปีที่แล้วเนี่ยเราทำได้ถึง 735 ล้านบาทนะครับ ตัวหลักๆ ก็มาจากตัวของอัตรากำไรขั้นต้นที่มันลดลงนะครับ

ถ้ามาดูแบบ Waterfall นะครับ การเปลี่ยนแปลงนะครับ ในส่วนที่เป็น เทียบจากในช่วงของไตรมาส 3 ของปีที่แล้วมาเปรียบเทียบกับไตรมาส 3 ของปีนี้นะครับ ถ้าทุกท่านเห็นในสไลด์นะครับ จะเห็นได้ว่าตัวที่มีผลกดดันทำให้กำไรสุทธิในปีนี้นะครับ ในไตรมาส 3 เนี่ยลดลงนะครับ ก็จะเห็นว่าตัวหลักก็มาจากตัวของกำไรขั้นต้น ซึ่งกำไรขั้นต้นเมื่อเปรียบเทียบจากปีที่แล้วเนี่ยมันลดลงไปถึง 133 ล้านบาทนะครับ ถ้าเป็นอัตราอย่างที่ผมเรียนในสไลด์ก่อนนะครับ ซึ่งในไตรมาสนี้เราทำได้อยู่ที่ 13.2% นะครับ แม้ว่าในส่วนที่หลังจากตัวกำไรขั้นต้นเนี่ยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานนะครับ รายได้อื่นๆ อัตราแลกเปลี่ยนนะครับ หรือแม้แต่ในตัวของกำไร ในตัวของค่าใช้จ่ายทางภาษีนะครับ แล้วก็ส่วนที่เป็น non controlling interest นะครับ คือส่วนที่เป็นของบริษัทที่ของของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยนะครับ ที่อยู่ในภาพที่ดีขึ้นแต่ก็ไม่สามารถที่จะชดเชยได้นะครับ จากกำไรขั้นต้นที่ลดลงครับ

ถ้าเรามาดู Waterfall นะครับ ของกำไรสุทธินะครับ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้นะครับ เปรียบเทียบกับ 9 เดือนแรกของปีที่แล้วจะเห็นว่าจะอยู่ใน Pattern เดียวกันกับไตรมาส 3 นะครับ ตัวของกำไรขั้นต้นที่ลดลงก็เป็นตัวที่กดดันทำให้กำไรสุทธิสำหรับปีนี้เนี่ยมันลดลงนะครับ จากกราฟที่เห็นเนี่ยจะเห็นได้ว่าตัวของกำไรขั้นต้นเนี่ยลดลงไปถึง 378 ล้านบาทนะครับ แม้ว่าในส่วนของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเราดีขึ้นถึง 56 ล้านบาทก็ตามนะครับ ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะเห็นว่าดีขึ้นเนี่ยเนื่องจากว่าในปีที่แล้วเนี่ยเรามีการตั้งด้อยค่านะครับ จากเงินลงทุนในบริษัท ร่วมค้าที่ต่างประเทศนะครับ ประมาณ 30 ล้านนะครับ ก็มีผลทำให้ปีนี้เราไม่ได้มีการตั้งสำรองในตัวของการด้อยค่าของเงินลงทุนนะครับก็เลยทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของเราเนี่ยดีขึ้นนะครับ ส่วนตัวของรายได้อื่นเราก็ดีขึ้นจากปีที่แล้วนะครับ แล้วก็ที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งก็คือค่าใช้จ่ายเงินได้นะครับ เราได้ประโยชน์นะครับจากสิทธิบัตร BOI นะครับ จะมีผลทำให้การบันทึกตัวของค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ของเราเนี่ยลดลงเมื่อเปรียบเทียบจากปีที่แล้วเนี่ยถึง 34 ล้านบาทนะครับ

ถ้ามาดูนะครับ Sale Performance ตาม Line ของประเภทธุรกิจนะครับจากตารางอันนี้ก็จะเป็นสำหรับไตรมาส 3 เปรียบเทียบจากปีนี้กับปีที่แล้วนะครับ ถ้าดูตาม Line ประเภทธุรกิจในส่วนของปริมาณการขายจะเห็นได้ว่าปริมาณการขายโดยรวมนะครับ สำหรับปีนี้นะครับ ในช่วงของ 3 เดือนไตรมาส 3 นะครับ มีอัตราการเติบโตเนี่ยดีกว่าปีที่แล้วถึง 10% นะครับ โดยเรามีปริมาณการขายอยู่ที่ 2321 ตันนะครับ ก็โตกว่าปีที่แล้วเนี่ยถึง 6% นะครับ โดยอัตราการเติบโตที่มากสุดก็คือมาจากธุรกิจอาหารสัตว์น้ำนะครับ ปริมาณการขายอาหารกุ้งของเราเนี่ยเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบจากปีที่แล้วถึง 26% นะครับ เรามีปริมาณการขายอาหารกุ้งเนี่ยในไตรมาสนี้อยู่ที่ 6338 ตันนะครับ ส่วนที่รองลงมาที่มีอัตราการเติบโตเป็นบวกก็คือธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงนะครับ เรามีปริมาณการขายเนี่ยอยู่ที่ 10771 ตันนะครับ เพิ่มขึ้นประมาณ 6% กับเปรียบเทียบจากปีที่แล้วส่วนที่ลดลงนะครับ ก็คือตัวของทูน่านะครับ ทูน่าเราลดลงเนี่ยจาก 1751 ตันนะครับ ก็ลดลงมาอยู่ที่ 1204 ตันนะครับ ในปีนี้ก็ลดลงประมาณ 31% นะครับ ส่วนธุรกิจสุดท้ายที่ลดลงก็คือธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็งนะครับเราลดลงเนี่ยจากปีที่แล้วประมาณ 8% นะครับจาก 2173 ตันเนี่ยมาอยู่ที่ 2008 ตันนะครับ

ถ้ามาดูในตัวของรายได้นะครับ จะเห็นว่ารายได้ก็จะเป็น Pattern เดียวกันกับตัวที่ผมได้แสดงในสไลด์ก่อนนะครับ แต่ว่าตัวเลขของรายได้ที่ท่านเห็นในตารางนี้ก็เป็นรายได้ที่รวมรายการระหว่างกันนะครับ รายได้รวมเนี่ยเราอยู่ที่ 2,558 ล้านลดลงประมาณ 8% นะครับสำหรับ Year on Year นะครับ จะเห็นว่าตัวที่เป็น Positive นะครับ หรือมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นก็มาจากธุรกิจอาหารสัตว์น้ำนะครับ ในตัวของรายได้เนี่ยจะสอดคล้องกับปริมาณการขายนะครับ เรามีปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 26% นะครับ ตัวของรายได้ที่เป็นเงินบาทเนี่ยก็เพิ่มขึ้นถึง 25% เช่นกันนะครับ จาก 197 ล้านมาอยู่ที่ 247 ล้านนะครับ ส่วนใน 3 ธุรกิจหลักของเราเองเนี่ยลดลงนะครับที่ลดลงมากก็คือในตัวของทูน่า เราลดลงเนี่ยถึง 30% จาก 257 ล้านบาทมาอยู่ที่ 181 ล้านบาทนะครับ ลองมาก็จะเป็นตัวของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงนะครับ ลดลงประมาณ 9% ก็จาก 1,629 ล้านมาอยู่ที่ 1,483 ล้าน ก็จะเห็นได้ว่ามันจะสวนทางกับปริมาณการขายนะครับ ปริมาณการขายเราเพิ่มขึ้นแต่ว่ารายได้ที่เป็นเม็ดเงินบาทเนี่ยลดลงนะครับ ส่วนหนึ่งเนี่ยก็มาจากตัวของค่าเงินบาทที่มันแข็งขึ้นนะครับ เมื่อเปรียบเทียบจากปีที่แล้วที่อยู่ในระดับประมาณ 35-36 บาทโดยเฉลี่ยของปีนี้อยู่ประมาณ ไตรมาส 3 เองเนี่ยอยู่ประมาณ 32.5 กว่าๆ นะครับโดยเฉลี่ย ลองมาสุดท้ายก็คือธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็งนะครับ เรามีรายได้ลดลงกับประมาณ 5% จาก 683 ล้านเนี่ยมาอยู่ที่ 647 ล้านบาทนะครับ ถ้ามาดูส่วนแบ่งของรายได้นะครับ ในตัวของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงก็ยังเป็นเส้นเลือดใหญ่นะครับ ในกลุ่มของ Asian ยังมีส่วนแบ่งในตัวของรายได้รวมของ Asian เองเนี่ยถึง 58% นะครับ ในส่วนที่เป็นธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็งของเราเนี่ยอยู่ที่ 25% ลองมาก็จะเป็นตัวของธุรกิจอาหารสัตว์น้ำนะครับ อยู่ประมาณ 10% และท้ายสุดก็คือตัวของธุรกิจทูน่าครับ สัดส่วนที่เป็นส่วนแบ่งของรายได้รวมของเรานี่อยู่ที่ 7% สำหรับไตรมาสนี้

ถ้ามาดูนะครับ ในช่วง 9 เดือน ปริมาณการขายใน 9 เดือนโดยรวมทั้งหมดเนี่ยเรามีอัตราการเติบโตเนี่ยถึง 3% นะครับ เราสามารถมีสามารถมีปริมาณการขายได้ถึง 15827 ตันนะครับ ก็เพิ่มขึ้นจาก 56146 ตันใน 9 เดือนปีที่แล้วนะครับ ประมาณ 3% นะครับ Year on Year ธุรกิจที่ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอยู่ก็คือตัวของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงนะครับ ปริมาณการขายมีการเติบโตขึ้น Year on Year นะครับ 9 เดือนเนี่ยถึง 17% นะครับจาก 27675 ตันเนี่ยนะครับ เรามีปริมาณการขายนะครับ สำหรับปีนี้เองเนี่ยอยู่ถึง 32259 ตันนะครับ ส่วนที่เหลือเนี่ยก็ลดลงนะครับ ในส่วนของทูน่าเราลดลงประมาณ 8% นะครับ มาอยู่ที่ 3900 ตันครับ ตัวของอาหารสัตว์น้ำนะครับ แม้ว่าในช่วงของไตรมาส 3 เราเพิ่มขึ้นก็จริงแต่ว่าในช่วงของไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ของปีนี้เนี่ย เรามีปริมาณการขายของอาหารสัตว์น้ำเนี่ยไม่ได้มากกว่าปีที่แล้วเพราะฉะนั้น 9 เดือนเนี่ยของปีนี้เองเนี่ย เรามีปริมาณการขายตัวของอาหารกุ้งเองนะครับ ก็อยู่ที่ 15858 ตันนะครับ ก็ลดลงประมาณ 7% นะครับ ตัวของอาหารทะเลแช่เยือกแข็งนะครับ ก็ลดลงถึง 17% นะครับ อยู่ที่ 6010 ตันนะครับจาก 7219 ตันในปีที่แล้ว ในส่วนของรายได้ก็จะสวนทางกันนะครับ แม้ว่าปริมาณการขายโดยรวมเราดีขึ้นนะครับ แต่ว่ารายได้เนี่ยลดลง 4% ก็อย่างที่ผมเรียนนะครับ เราได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนนะครับ ก็มีผลทำให้การรับรู้การบันทึกรายได้ที่เป็นเงินบาทของเราเนี่ยลดลงนะครับ โดยจะเห็นว่าปริมาณการขายถ้าเป็น Year on Year ในช่วงของ 9 เดือนเนี่ยของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเราโตถึง 17% แต่เมื่อแปลงมาเป็นเงินบาทเนี่ยเรามีอัตราการเติบโตเพียงแค่ 5% นะครับ เรา รับรู้ในส่วนของรายได้นะครับ ในปีนี้อยู่ที่ 4,687 ล้านบาทนะครับ ส่วน 3 ธุรกิจหลักก็จะเป็นอยู่ใน Pattern เดียวกันนะครับ เรามีรายได้จากตัวของธุรกิจทูน่าอยู่ที่ 574 ล้านนะครับ ตัวของอาหารสัตว์น้ำนะครับ อยู่ที่ 624 ล้านแล้วก็ท้ายสุดก็คือตัวของธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็งเนี่ยอยู่ที่ 1,941 ล้านบาทนะครับ ส่วนแบ่งของรายได้อย่างที่ผมเรียนก็จะ เป็น Pattern เดียวกันสำหรับไตรมาส 3 แล้วก็ปีนี้นะครับ ตัวของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงนะครับ ก็ยังเป็นตัวส่วนแบ่งหลักของรายได้รวมของ Asian นะครับ 9 เดือนของปีนี้เนี่ยเรามีส่วนแบ่งของรายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเนี่ยถึง 60% นะครับ ลองลงมาก็คือธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็งเนี่ย 25% นะครับ เป็นตัวของอาหารสัตว์น้ำเนี่ย 8% ท้ายสุดก็คือตัวของธุรกิจทูน่าเนี่ยประมาณ 7% ครับ

สถานะทางการเงินและโครงการซื้อหุ้นคืน

ถ้ามาดูสถานะทางการเงินนะครับ สถานะทางการเงินเนี่ย ณ สิ้นไตรมาส 3 นะครับเรามีภาพของสินทรัพย์รวมเนี่ยลดลงประมาณ 4% นะครับ เมื่อเปรียบเทียบจากสิ้นปีที่แล้วครับ ถ้าเป็นเม็ดเงินบาทเนี่ยก็จะลดลงประมาณสัก 367 ล้านนะครับ โดยหลักๆ ก็เป็นการลดตัวของเงินสดและเงินสดคงเหลือนะครับ หรือเงินฝากธนาคารเนี่ยเราลดลงไปเนี่ยเกือบ 73% นะครับ หรือประมาณ 621 ล้านนะครับ โดยเป็นการลดจากกระแสเงินสดในในกิจกรรมการลงทุนนะครับ เรามีการจ่ายเงินปันผลออกไปเนี่ยประมาณ 1,103 ล้านนะครับ ในภาพรวมแล้วก็เรามีการลงทุนในตัวของโรงงานคลังสินค้า นะครับ คลังสินค้าอัตโนมัตินะครับ แห่งที่ 2 ในในส่วนของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงนะครับ แล้วก็แม้ว่าในส่วนของ Inventory เนี่ยจะเห็นว่าภาพของ Inventory เนี่ยเทียบกันเนี่ยจากสิ้นปีที่แล้วเนี่ยมีการเติบโตมากขึ้นนะครับ โดยเราเริ่มมีการสะสมนะครับ เริ่ม Stock up ตัวของ Stock นะครับ ของธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็งนะครับ มีการจัดเก็บในตัวของหมึกแช่เยือกแข็งเพื่อรองรับกับ Demand ที่จะมีในไตรมาสที่ 4 และในปีในปี 2566 นะครับ ส่วนของภาพของหนี้สินก็เช่นกันนะครับ หนี้สินเนี้ยการเปลี่ยนแปลงในส่วนของ Liability เนี่ยเปลี่ยนแปลงกันเล็กน้อยนะครับ จะถ้าถ้าดูนะครับ ในภาพของหนี้สินเนี่ยหนี้สินรวมเนี่ยมีการเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 10% นะครับ โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่นๆ กับตัวหลัก ส่วนที่ลดลงนะครับ ก็เป็นส่วนผู้ถือหุ้นเพราะว่าเรามีการจ่ายเงินปันผลออกไปนะครับ ก็จะมากกว่าตัวของกำไรจากผลประกอบการสำหรับปีนี้ครับ

มาดูในส่วนของทุนหมุนเวียนนะครับ จะเห็นว่าการบริหาร Working Cap ของเราเนี่ยก็ยังคงมีประสิทธิภาพอยู่ จํานนของลูกหนี้ นะครับจำนวนวันของลูกหนี้เนี่ย ณ ไตรมาส 3 เนี่ยเรามีจำนวนวันของลูกหนี้อยู่ที่ 46 วันนะครับ ส่วนจำนวนวันของสินค้าคงเหลือที่ At turn มาเป็น Through sales เนี่ยเรา Keep Stock อย่างที่ผมเรียนเราเริ่มมีการ Build ตั้งแต่ไตรมาสที่แล้วนะครับ เริ่มมีการจัดเก็บวัตถุดิบโดยเฉพาะหมึกนะครับ ก็เพิ่มขึ้นทำให้ตัวของ Inventory Day เนี่ยเพิ่มขึ้นมาเป็น 105 วันนะครับ ส่วนของ AP เนี่ยเราก็อยู่ที่ 26 วันนะครับ งั้นจะเห็นได้ว่าตัวของทุนหมุนเวียนสุทธิที่ Tsai เนี่ยนะครับของทั้ง Asian เองเนี่ยอยู่ที่ 125 วันนะครับ ส่วนถ้าเราดูนะครับ ในตัวของ ROA ROE นะครับ ก็ยังคงยังคงโอเคอยู่นะครับ จะเห็นได้ว่าคือมันก็จะสอดคล้องกันกับผลประกอบการนะครับ มันก็จะ Decline ครับ ผลประกอบการมันลดลงนะครับ ROA ในไตรมาส 3 เนี่ยเราอยู่ที่ 7.3% ในส่วนของ ROE นะครับ ก็จะอยู่ที่ 10.5 นะครับ Debt to Equity ratio เนี่ยก็อยู่ในระดับต่ำๆ เพราะเราไม่มีตัวที่เป็น Interest death อยู่นะครับ ก็ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 0.2 เท่าครับ Current ratio ก็ยังอยู่ในระดับสูงอยู่นะครับ ยังอยู่ที่ 4.9 เท่าครับ สไลด์นี้ก็จะเป็นความคืบหน้าของโครงการซื้อหุ้นคืนนะครับ อย่างที่ผมเรียนในไตรมาสที่แล้วเนี่ยการที่ทางคณะกรรมการบริษัท เนี่ยได้มีมติอนุมัติในเรื่องจัดโครงการการซื้อหุ้นคืนนะครับ ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภานะครับ ณ สิ้นไตรมาส 2 เนี่ยเราเริ่มเข้าไปซื้อหุ้นคืนเนี่ย โดยจำนวนทั้งหมดเนี่ย 230,000 หุ้นนะครับ ถ้าเป็นมูลค่าเงินเนี่ยก็อยู่ที่ 1.6 ล้านบาทนะครับ แล้วก็ในช่วงของสิ้นไตรมาส 3 โดยรวมทั้งหมดนะครับ เราได้มีการซื้อหุ้นคืนมาแล้วนะครับ 1,953,700 หุ้นนะครับ ถ้าเป็นมูลค่าหุ้นก็อยู่ที่ 14.1 ล้านบาทนะครับซึ่งโครงการนี้ก็จะหมดภายในสัปดาห์หน้านะครับ

ตาม Line ประเภทของธุรกิจ

ไปตาม Line ประเภทของธุรกิจนะครับ โดยธุรกิจแรกก็คือธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงนะครับ ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเนี่ยเราแบ่งกำลังการผลิตมีอยู่ 2 ส่วนนะครับ กำลังการผลิตที่เป็นอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกเนี่ยนะครับ อยู่ที่ 59,000 ตันต่อปีนะครับ และกำลังการผลิตของอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ดเนี่ยอยู่ที่ 36,000 ตันต่อปีนะครับ และก็สุดท้ายก็จะเป็นการกำลังการผลิตปรับปรุงนะครับ ปรับปรุงก็จะเป็น By Product นี้ก็อยู่ที่ 6,000 ตันเนี่ยต่อปีนะครับ โดยธุรกิจนี้ก็อยู่ภายใต้การจัดการเนี่ยในการขายนะครับ และก็ผลิตนะครับ ก็คือจากบริษัทลูกนะครับก็คือบริษัท AI เรามีแบรนด์นะครับ ของอาหารสัตว์เลี้ยงของเราเองนะครับ จะเห็นจากที่แสดงในสไลด์นะครับ ก็จะเป็นแบรนด์ Mongchou แบรนด์ Malee Hajiko นะครับ แล้วก็แบรนด์ Pro ที่เป็นแบรนด์ราคาประหยัดสำหรับอาหารสัตว์เลี้ยงนะครับ ทั้งอาหารสุนัขและก็อาหารแมวครับ ถ้าดูนะครับ ในภาพจะเห็นว่าระดับที่เราประมาณการนะครับ สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ครับ เราคาดว่าปริมาณการขายเนี่ย Q on Q นะครับ น่าจะมีการเติบโตขึ้นนะครับ แล้วก็ถ้าเราดู Year on Year เองก็น่าจะมีแนวโน้มที่เติบโตที่เช่นกันนะครับ เราจะเห็นได้ว่าความต้องการนะครับ ในตลาดหลักไม่ว่าจะเป็นตลาดที่อเมริกาหรือตลาดที่ยุโรปเนี่ยก็ยังให้ความสนใจในการว่าจ้างผลิตนะครับ ที่เป็นอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกที่เป็นพรีเมี่ยมครับ ส่วนที่เราผลิตและจัดจำหน่ายนะครับ ภายใต้แบรนด์ของเราเองนะครับ โดยเฉพาะในตลาดของในประเทศไทยนะครับ ก็มีอัตราการเติบโตที่น่าพอใจนะครับ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Mongchou Hajiko หรือตัวของแบรนด์ Pro เองนะครับ เรามีการขยายในการเพิ่มจำนวนนะครับ ในช่องทางการจัดจำหน่ายที่เป็นร้าน Pet Shop เนี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญเมื่อเปรียบเทียบจากปีที่แล้วก็มีผลทำให้ตัวของรายได้ที่เกิดขึ้นนะครับ จากอาหารสัตว์เลี้ยงที่เรามีการขายภายใต้แบรนด์ของเราเองเนี่ยในปีนี้ค่อนข้างดีทีเดียวนะครับ

ธุรกิจถัดมาก็จะเป็นธุรกิจทูน่านะครับ ทูน่าเนี่ยอัตรากำลังการผลิตเนี่ยไม่ได้เปลี่ยนแปลงนะครับ ก็อยู่ที่ 17,500 ตันต่อปีนะครับ เราก็จะมี การผลิตโดยตลาดหลักเนี่ยของเราก็ยังเป็นตลาดที่ Middle East นะครับ แล้วก็จะ เป็นหลักเลยครับ ก็จะมีตลาดที่ญี่ปุ่นบ้างเล็กน้อยนะครับ โดยตัวของ Product ของเราหลักๆ เนี่ยก็จะเป็นทูน่าที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์แบบกระป๋องแล้วก็แบบ Pouches นะครับ แล้วก็มีส่วนที่เป็นผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่านะครับ ไม่ว่าจะเป็นทูน่า อยู่ในข้าวผัดนะครับ หรืออยู่ใน Vegetable Pasta ต่างๆ นะครับ เราไม่มีแบรนด์ของเราเองนะครับ อันนี้เป็นการรับจ้างผลิตทั้งหมดนะครับ ถ้าดูนะครับ ตัวของ Overview นะครับ ของธุรกิจนี้สิ่งที่ทางฝ่ายบริหารนะครับ มองว่ารายได้ที่จะเกิดขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ก็น่าจะอยู่ในระดับเดียวกันกับรายได้ของที่เกิดขึ้นในไตรมาส 3 นะครับ ซึ่งเรา แม้ว่าตัวของต้นทุนของทูน่าเนี่ยนะครับ มีแนวโน้มที่สูงขึ้นนะครับ เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วโดยเฉลี่ย 9 เดือนนะครับ ซึ่งทำให้เนื่องจากว่าในโรงงานเนี่ยนะครับ เราทำการผลิตตัวของอาหารสัตว์เลี้ยงและทูน่าเนี่ยประกอบกันในกรณีที่มี Demand หรือคำสั่งซื้อของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเนี่ยเพิ่มมากขึ้นการรับคำสั่งซื้อของทูน่าก็จะลดลงเนื่องจากว่าเราใช้ Facility เนี่ยร่วมกันครับ ส่วน Key Market อย่างที่ผมเรียนนะครับ ก็ยังคงเป็น Middle East นะครับ เรามีการส่งไปที่ซาอุดีอาระเบีย เยเมน แล้วก็อิสราเอลเช่นกัน

ธุรกิจถัดมาจะเป็นธุรกิจอาหารสัตว์น้ำนะครับ ธุรกิจอาหารสัตว์น้ำเนี่ยปัจจุบันเนี่ยเราผลิตตัวของอาหารกุ้งนะครับ เป็นหลักครับ ส่วนอาหารปลาเนี่ยเราได้หยุดอย่างที่ผมได้เรียนในปีก่อนนะครับ ไม่ว่าจะเป็นสภาพของตลาดนะครับ การแข่งขันนะครับ แล้วก็ลูกค้าเองนะครับ ในธุรกิจนี้ความสามารถในการชำระหนี้นะครับ เรามีการปรับในเรื่องของกลยุทธ์วิธีการขายแนวทางในการขายนะครับ ทำให้ทางบริษัท เนี่ยมามุ่งเน้นในการขายในตัวของอาหารกุ้งเนี่ยเป็นหลักนะครับ ประกอบกับ การพิจารณานะครับ กลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพในการชำระเงินนะครับ แล้วก็เป็นกลุ่มลูกค้าใหญ่ๆ นะครับ เพื่อให้ไม่ได้มีประเด็นในเรื่องของการจัดเก็บเงินนะครับ กำลังการผลิต ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 60,000 ตันต่อปีนะครับ โรงงานของเราเนี่ยอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรีครับ นอกจาากว่าในเรื่องของการขายอาหารกุ้งแล้วเนี่ย เรายังมีทีมงานในการที่จะให้คำแนะนำนะครับ ในการช่วยจัดทำเกษตรกรในการดูแลเพื่อให้ได้ผลผลิตหรือผลตอบแทนในอัตราแรกเนื้อเนี่ยที่ดีขึ้นนะครับ ซึ่งอันนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นจุดแข็งของธุรกิจนี้นะครับ ถ้าเราดูภาพนะครับ ใน Performance เองจะเห็นว่าเราคาดการณ์ในตัวของรายได้ที่จะเกิดขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ก็น่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันกับไตรมาส 3 นะครับ แล้วก็ตลาดอย่างที่ผมเรียนว่าเราเน้นในเรื่องของของกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพหรือมีความสามารถในการชำระเงินเนี่ยเป็นหลักนะครับ หลังจากที่เราได้มีการปรับปรุงนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้วัตถุดิบนะครับ การปรับปรุงในเรื่องของสูตรนะครับงั้นการได้รับผลตอบแทนหรือส่วนแบ่งจะเห็นได้ว่ารายได้เรามีการเติบโตเนี่ย ถ้าเทียบกันจริงๆ เนี่ยเป็นรายได้ที่มีการเติบโตที่ดีขึ้น และก็โดยเฉพาะผลกำไรนะครับ อัตรากำไรขั้นต้นในธุรกิจนี้ก็ได้มีการปรับปรุงได้อย่างดีขึ้นนะครับ ในช่วงของ 2 ปีที่ผ่านมาครับ

ธุรกิจสุดท้ายจะเป็นธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็งนะครับ เรามีโรงงานอยู่ 2 ที่นะครับ โรงงานที่มหาชัยเนี่ยจะเป็นโรงงานที่ใช้ผลิตผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าในธุรกิจนี้นะครับ หรือ VIP อัตรากำลังการผลิตของเราเนี่ยอยู่ที่ 8,600 ตันต่อปีนะครับ ส่วนอีกที่หนึ่งนะครับ ก็อยู่ภายใต้ของบริษัท ย่อยที่ผมเรียนในสไลด์ก่อนๆ นะครับ ก็จะเป็นการทำที่เป็นกุ้งต้มนะครับ หรือกุ้งดิบแช่เยือกแข็งนะครับ หมึกนะครับ แช่เยือกแข็งนะครับ อัตรากำลังการผลิตของเราเนี่ยอยู่ที่ 7,800 ตันต่อปีนะครับ ซึ่งในตัวของธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็งเนี่ยตลาดของเราเนี่ยก็จะแบ่งเป็น 2 ส่วนที่ตรงเป็น Commodity เองเนี่ยเราก็จะ มีตลาดที่ยุโรปนะครับ แล้วก็ตลาดที่ออสเตรเลียที่ญี่ปุ่นนะครับ ส่วนผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่านะครับ ที่เป็น VIP ไม่ว่าจะเป็นกุ้งชุบแป้งทอดบูมบูมนะครับ พวกนี้สปริงโรลนะครับ พวกนี้นะครับ พวกนี้ก็ตลาดหลักๆ ของเราก็คือตลาดที่อเมริกานะครับ โดยเราส่งไปก็จะ เป็นส่งเข้า Food Service นะครับ ที่เป็นหลัก ถ้าดู Performance นะครับ หลังจากที่ ในช่วงของระหว่างปี ถ้าถ้าท่านที่ได้มีการติดตามนะครับ การรายงานผลประกอบการ Asian เองเนี่ย เราผมได้มีการรายงานในเรื่องของผลกระทบในส่วนที่เป็นอัตราภาษีตอบโต้นะครับ Tax เนี่ยที่ทางอเมริกาได้เริ่มมีการประกาศตั้งแต่เมษายนนะครับ แล้วก็มาสรุปสุดท้ายอยู่ที่ประมาณเดือนสิงหาคมนะครับ ที่ผ่านมาทำให้คำสั่งซื้อนะครับ แล้วก็ปริมาณการส่งเนี่ยของเราเนี่ยมีการชะลอในส่วนของ Importer เนี่ยก็มีการดูว่าอัตราสุดท้ายแล้วก็โดยสภาวะของตลาดที่อเมริกาเนี่ยเป็นอย่างไร เลยทำให้ปริมาณการขายผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่านะครับ ในช่วงของปีนี้นะครับ ในช่วงของ 9 เดือนนี้ก็ลดลงเมื่อเปรียบเทียบจากปีที่แล้วแต่เรายังมีคำสั่งซื้อที่เป็นหมึกแช่เยือกแข็งนะครับ ในตลาดยุโรปเนี่ยที่เพิ่มขึ้นนะครับ แต่ว่าไม่สามารถชดเชยได้มากเมื่อเปรียบเทียบจากปีที่แล้วนะครับ สำหรับไตรมาสสุดท้ายเนี่ยเราเห็นว่าจากภาวะตลาดที่ค่อนข้างคงที่อัตราภาษีตอบโต้ที่ค่อนข้างแน่นอนนะครับ เพราะฉะนั้นตัวของ Product VIP นะครับ ที่เราจะส่งในอเมริกาเนี่ยในไตรมาสสุดท้ายเนี่ยน่าจะมีการเติบโตเนี่ยเพิ่มมากขึ้นนะครับ ก็ทางฝ่ายบริหารมองว่าในตัวของธุรกิจนี้เนี่ยรายได้น่าจะมีการเติบโตขึ้นทั้ง Q on Q แล้วก็ Year on Year นะครับ ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้นะครับ

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และแนวโน้ม

ส่วนอีกธุรกิจสุดท้ายนะครับ อันนี้เป็นธุรกิจที่เราไปร่วมลงทุนนะครับ เป็นธุรกิจใหม่ครับ โดยสัดส่วนที่ผมที่ทาง Asian เข้าไปถือเนี่ยอยู่ที่ 40% อย่างที่ผมได้แสดงในสไลด์ก่อนนะครับ โดยเป็นการโครงการในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใน 2 Location นะครับ ก็คือที่เขาใหญ่แล้วก็ที่ศรีราชานะครับ ณ ปัจจุบันเนี้ยโดยภาวะทางการตลาดและก็สภาพและเงื่อนไขนะครับ ทำให้ทางพาร์ทเนอร์ของเรานะครับ ก็ชะลอเรื่องของการที่จะลงทุนนะครับ เนื่องจากว่าความไม่เอื้ออำนวยนะครับ เพราะงั้นก็ยังไม่มีความคืบหน้าในทั้ง 2 โครงการนะครับ ทั้งที่เขาใหญ่แล้วก็ที่ศรีราชานะครับ ในส่วนของ Outlook ของปีนี้นะครับ ภาพจากที่ผมได้มีการรายงานในไตรมาสที่แล้วนะครับ สำหรับเป้าที่นำมี revise นะครับ ที่เป็น Target ใหม่เนี่ยคาดว่าทั้งปีของ Asian เองเนี่ย ในส่วนของรายได้น่าจะอยู่ที่ 12,215 ล้านนะครับ อัตรากำไรขั้นต้นของ Asian เองน่าจะอยู่ในกรอบประมาณ 14-15% นะครับ ซึ่งทางฝ่ายบริหารก็ยังคงในตัวของเป้านะครับ ที่คาดการณ์ว่าในรายได้รวมของ Asian น่าจะอยู่ในระดับนี้นะครับ จะเห็นว่าในช่วงของ 9 เดือนเนี่ยเราสามารถทำได้ถึง 77% นะครับ ของ Target ใหม่ที่ที่เราคาดการณ์นะครับ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นก็ยังคงอยู่ในกรอบนะครับ ก็คืออยู่ในกรอบประมาณ 14-15% เพราะเราทำได้ในช่วงของ 9 เดือนเนี่ยอยู่ที่ 14.14.3% นะครับ โดยตัวหลักๆ มันก็ยังคงเป็นตัวของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงนะครับที่อย่างที่ผมเรียนนะครับ ตามประเภทธุรกิจนะครับว่าเรามองภาพอย่างไรในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้นะครับ ส่วนสัดส่วนของรายได้ที่ผมเรียนนะครับ ตัวของอาหารสัตว์เลี้ยงนะครับ ภาพที่เรามองทั้งปีเนี่ยส่วนแบ่งน่าจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 62% นะครับ รองมาก็จะเป็นตัวของอาหารทะเลแช่เยือกแข็งนะครับ แล้วก็ตัวของอาหารสัตว์น้ำและทูน่าครับ

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 52:52]

อันนี้ก็เป็นรายงานผลประกอบการสำหรับไตรมาส 3 ปีนี้แล้วก็งวด 9 เดือนของปีนี้เช่นกันนะครับ ผมขอไปที่คำถามนะครับพอดีมีคำถามเข้ามาว่า ตลาด Frozen ในอเมริกาเนี่ยเรายังแข่งขันได้ไหมหรือต้องหาตลาดใหม่นะครับอย่างที่ผมเรียนว่าเราเห็นการฟื้นตัวนะครับ ในเรื่องของความต้องการนะครับ โดยเฉพาะในตัวของผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าในไตรมาสสุดท้ายเพราะงั้นเราคาดว่าเราน่าจะส่งมอบนะครับ แล้วมีปริมาณในการส่งออกเนี่ยเพิ่มขึ้นนะครับ ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ถามว่ายังแข่งขันได้ไหมนะครับ โดยอัตราภาษีตอบโต้เนี่ยเรายังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านนะครับ ที่เป็นคู่แข่งงั้นเราคิดว่าความสามารถนะครับ และประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนเราเองนะครับ ก็ น่าจะแข่งขันในตลาดอเมริกาได้ครับ ส่วนที่ถามก็จะมีคำถามก็คือเรื่องของโครงการอสังหาริมทรัพย์นะครับ เนื่องจากว่าเรามีการชะลอนะครับ ในเรื่องของการพัฒนานะครับ เนื่องจากว่าตลาดไม่เอื้ออำนวยครับ ซึ่งในภาพเนี่ย ถ้าดูตัวของ Asian เองนะครับ ที่เป็นงบการเงินรวมของ เราก็จะมีการรับรู้นะครับ ผลขาดทุนนะครับ ตั้งแต่ที่เรามีการลงทุนมานะครับ จนถึงปัจจุบันเข้ามาแล้วเนี่ยนะครับ ก็ที่อยู่ในงบก็ ในระดับที่ถ้าเทียบกันเนี่ยก็ไม่ได้มีสาระสำคัญมากในภาพรวมนะครับ ส่วนการที่จะพิจารณาว่าเราจะมีการการที่จะตั้งด้อยค่าในเงินลงทุนนะครับ ในโครงการนี้ด้วยหรือไม่นะครับ ก็ตอนนี้ ก็เรายังยังยังดูนะครับว่าภาพของตลาดของปีหน้าเนี่ยมีแนวโน้มอย่างไร และก็มูลค่าหรือผลตอบแทนถ้าเรามีเริ่มการพัฒนาต่อเนี่ยผลตอบแทนที่ได้ใน