สรุป OPPDAY หุ้น AH
Oppday
สรุป OPPDAY
AH สรุปผลประกอบการ Q3/2568: โอกาสและความท้าทายในโลกยานยนต์ยุคใหม่
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 มีรายได้รวมลดลง 5.9% อยู่ที่ 6,222 ล้านบาท และรายได้จากการขายและบริการลดลง 6.3% แม้ว่ารายได้จากธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จะทรงตัว แต่รายได้จากธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลดลงประมาณ 20% กำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อย 2% อยู่ที่ 573.2 ล้านบาท แต่ Gross Profit Margin ปรับตัวดีขึ้นจาก 8.8% เป็น 9.2% เนื่องจากสัดส่วนรายได้จากธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มี Gross Profit Margin สูงกว่าธุรกิจดีลเลอร์ชิพเพิ่มขึ้นจาก 69% เป็น 73% ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารลดลง 3.9% อยู่ที่ 425 ล้านบาท กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 0.4 ล้านบาท เทียบกับผลขาดทุน 7.2 ล้านบาทในปีก่อนหน้า Profit Sharing จากเงินลงทุนในบริษัทร่วมลดลงเนื่องจากกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์พิเศษในปีก่อนหน้าไม่มีแล้ว กำไรสุทธิที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 211.6 ล้านบาท เทียบกับ 204.8 ล้านบาทในปีก่อนหน้า Net Profit Margin ปรับตัวดีขึ้นจาก 3.1% เป็น 3.4%
ผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี รายได้รวมลดลง 4.8% อยู่ที่ 19,681 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ลดลงเล็กน้อย แต่ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และศูนย์บริการมียอดขายลดลง 15% กำไรขั้นต้นลดลง 7% แต่ Gross Profit Margin ลดลงเพียงเล็กน้อยจาก 9% เป็น 8.8% เนื่องจากเหตุการณ์ไฟฟ้าดับในโปรตุเกส Ebit และ Ebitda Margin ในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 4.7% และ 9.6% ตามลำดับ กำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้น โดย Net Profit Margin อยู่ที่ 3.4% และ 3.2% สำหรับไตรมาสที่ 3 และ 9 เดือนตามลำดับ รายได้จากธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์คงที่อยู่ที่ 4,480 ล้านบาทในไตรมาสที่ 3 ยอดขายสูงขึ้นในโปรตุเกสและมาเลเซีย แต่รายได้ในไทยลดลง 6.7% Ebit Margin อยู่ที่ 5.5% ในไตรมาสที่ 3 และ 5.1% สำหรับ 9 เดือน
รายได้จากธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และศูนย์บริการลดลง 20.3% อยู่ที่ 1,633 ล้านบาท ยอดขายในมาเลเซียลดลง 29% จากยอดขายรถยนต์ Honda ที่ลดลง การแข่งขันจากแบรนด์จีนที่ใช้กลยุทธ์ด้านราคาเชิงรุก รายได้ในไทยลดลง 2.1% แม้ว่ายอดขายในประเทศจะเพิ่มขึ้น 11.1% เนื่องจากการปรับราคา EV ของแบรนด์จีน Ebit Margin ปรับตัวดีขึ้นจาก 1.3% เป็น 1.5% ในไตรมาสที่ 3 และ 1.2% เป็น 1.5% ในระยะเวลา 9 เดือนจากการปรับโครงสร้างธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในไทย อัตราส่วนผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ที่ 7% และอัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) อยู่ที่ 3.3% ICR ยังคงอยู่ในระดับที่ดีที่ 3.2 เท่า และอัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อ Ebitda อยู่ที่ 2.2 เท่า มีหนี้สินที่มีดอกเบี้ยประมาณ 5,800 ล้านบาท แต่มีเงินสดและเงินฝากประจำกว่า 2,180 ล้านบาท ระดับ Leverage ยังคงแข็งแกร่ง Interest Bearing Debt to Equity อยู่ที่ 0.5 เท่า และ Total Liabilities to Equity อยู่ที่ 1 เท่า
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
บริษัทมีเป้าหมายเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ระดับโลก โดยมีฐานการดำเนินงานในไทย, มาเลเซีย, จีน, โปรตุเกส, และสหรัฐอเมริกา ยังคงหาโอกาสเติบโตในญี่ปุ่นซึ่งเป็นหนึ่งในฐานลูกค้าหลัก บริษัทไม่ได้มองแค่โอกาสในไทย แต่ยังมองโอกาสในตลาดโลก มีการขยายธุรกิจและตั้งบริษัทร่วมทุนต่างๆ ในช่วงปี 2567-2568 รวมถึงกิจการร่วมค้าในสหรัฐอเมริกา
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
อุตสาหกรรมยานยนต์ในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา ยอดการผลิตภาพรวมลดลง 4.3% แม้ว่ายอดขายในประเทศจะเพิ่มขึ้น 11.1% จากความต้องการรถ EV ที่เพิ่มขึ้นจากราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่ในส่วนของยอดขายรถกระบะก็อาจจะยังชะลอตัวสำหรับในประเทศ ยอดการผลิตเพื่อการส่งออกลดลง 8.1% เนื่องจากสาเหตุหลักก็คือการส่งออกรถยนต์ที่เป็นรถยนต์เครื่องสันดาปภายใน (ICE) ลดลง
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
บริษัทมุ่งเน้นประสิทธิภาพในการดำเนินงาน, ควบคุมต้นทุน, และหาโอกาสเพิ่มรายได้ใหม่ๆ แม้ว่ารายได้ในไตรมาสที่ 3 จะลดลง แต่ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ยังคงรักษาระดับไว้ได้ ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น Net Profit Margin ดีขึ้นต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3 ไตรมาสแล้ว มีสัดส่วนรายได้จากยานยนต์ไฟฟ้าประมาณ 5% ของยอดขายธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ สถานะทางการเงินยังคงแข็งแกร่ง มีเงินสดและเงินฝากประจำกว่า 2,180 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นยังอยู่ในระดับต่ำที่ 0.5 เท่า
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
อายุการใช้งานรถยนต์เฉลี่ยอยู่ที่ 5 ปี แต่รถกระบะซึ่งเป็นลูกค้าหลักมีอายุเฉลี่ย 10-12 ปี ชิ้นส่วนที่ผลิตในรถยนต์แต่ละรุ่นมักมีผู้ผลิตเพียงรายเดียว ทำให้บริษัทได้รับออเดอร์ต่อเนื่อง ผลกระทบจากยานยนต์ไฟฟ้าไม่มากนัก เนื่องจาก 95% ของชิ้นส่วนสามารถใช้ใน EV ได้ แต่จำนวนชิ้นส่วนใน EV น้อยกว่ารถยนต์สันดาป บริษัทคาดการณ์รายได้ในปี 2568 ใกล้เคียงกับปีก่อน แต่เชื่อว่าการเติบโตในระยะกลางถึงยาวจะดีขึ้น บริษัทมุ่งมั่นขยายธุรกิจสู่ระดับโลก, ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ, พัฒนาชิ้นส่วนสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและระบบอัตโนมัติ, และเพิ่มประสิทธิภาพในการลดต้นทุน
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) เริ่ม นาทีที่ 48:53
คำถาม: บริษัทมีแนวโน้มที่จะเพิ่ม Pay Out Ratio บ้างหรือไม่
คำตอบ: มีการปรับนโยบายการจ่ายเงินปันผลไปเมื่อสิงหาคม 2567 จากเดิม 10% ของกำไรสุทธิ เป็น 30% ของกำไรสุทธิ และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีการจ่ายมากกว่า 30% มาตลอด แต่การจ่ายเงินปันผลขึ้นอยู่กับ Board และแผนการใช้เงิน รวมถึงการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น
คำถาม: เหตุใดในประเทศโปรตุเกสจึงมีรายได้สูงขึ้นมากเมื่อเทียบ Year on Year
คำตอบ: มีการ Put Effort ค่อนข้างมากในส่วนของ Marketing ที่ประเทศโปรตุเกส เพื่อที่จะให้เราได้งานใหม่เพิ่มเข้ามา และลูกค้าในประเทศโปรตุเกสก็มีความเชื่อมั่นในกลุ่ม Apico
คำถาม: บริษัทมีแผนจะซื้อหุ้นคืนอีกหรือไม่
คำตอบ: ในส่วนของแผนการซื้อหุ้นคืนอาจจะต้องเป็นการพิจารณาของ Board คณะกรรมการบริษัท
คำถาม: บริษัทมีการผลิตชิ้นส่วนใดบ้างสำหรับรถกระบะ Ford รุ่น Super Duty
คำตอบ: เราได้งานซึ่ง Part ก็จะเหมือนรถที่เป็นรถกระบะของ Ford รุ่นทั่วไป จะเป็นรุ่น Ranger ก็จะเป็น Part ค่อนข้าง Part เดียวๆกัน
คำถาม: โรงงานที่สร้างขึ้นใหม่จะผลิตชิ้นส่วนส่งให้ค่ายรถใด และเป็นชิ้นส่วนรถยนต์รุ่นใด
คำตอบ: โรงงานใหม่ของเราที่จะเริ่ม Operate ในปี 2569 ก็จะเป็นการผลิต Axle ให้กับค่ายญี่ปุ่นค่ายหนึ่ง และโรงงานใหม่ก็จะมีในส่วนของตัว EDP ที่เป็น Process ที่เราเคย Outsource อยู่ข้างนอกแล้วก็จะเอาการเข้ามาทำข้างใน
คำถาม: โมเดลใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Toyota Land Cruiser Mitsubishi ว่าเราได้ Part ไหน
คำตอบ: อันนี้อาจจะไม่ได้สามารถบอก Part ได้ แต่เราก็ได้รับงาน
คำถาม: ค่ายจีน supply ชิ้นส่วนใดบ้างให้ค่ายฉางอันหรือว่า Great Wall
คำตอบ: หลักๆ อาจจะบอกได้แค่ประเภท Part ก็คือประเภท Part ที่ supply ก็จะมีพวก Stamping Part หรือว่าเป็นพวกการ Part ที่เป็นแบบการเชื่อม Assembly อย่างเงี้ย
คำถาม: ขอประมาณการรายได้ไตรมาสที่ 4 ปีนี้เทียบกับไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้ว
คำตอบ: ถ้าเทียบทั้ง Q on Q แล้วก็ Year on Year ก็อาจจะเห็นภาพที่ Soft ลงเล็กน้อย
คำถาม: เรามีผลิตชิ้นส่วนใดบ้างให้กับรถกระบะ Isuzu D-Max ที่เป็น EV
คำตอบ: เราเรามีผลิตชิ้นส่วนให้กับ Isuzu EV เหมือนกัน ซึ่งชิ้นส่วนหลักๆ ที่เราผลิตให้กับ Isuzu ก็อย่างที่ได้เรียนไปตอนแรกก็จะเป็นเฟรมของรถกระบะ อันนี้ก็จะเป็นเหมือนชิ้นส่วนชิ้นส่วนเดิม แต่ว่าอันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการส่งออกไปต่างประเทศ ในประเทศไทยอาจจะยังไม่ได้มี
คำถาม: บริษัท Apico RV ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ประเภทใดบ้าง ให้กับค่ายรถ Proton แล้วก็มีค่ายอื่นในมาเลเซียด้วยหรือไม่
คำตอบ: ลูกค้าหลักของ Apico RV ก็จะเป็น Proton เป็นหลัก แต่ว่าก็จะมี Perodua ซึ่งก็จะเป็นแบบ National Brand อีกแบรนด์นึงของของที่มาเลเซีย แต่ว่าก็อาจจะไม่ได้เยอะ อาจจะเป็นพวก tooling และในส่วนของว่าเราผลิตอะไรบ้าง อาจจะบอกได้แค่เป็นประเภท ก็คือประเภทที่เราทำก็จะเป็นพวกชิ้นส่วนที่เป็น Hot Press Forming แล้วก็ Assembly แล้วก็ tooling อย่างเงี้ย ก็จะเป็นพวกนี้เป็นหลัก แล้วก็เราก็กำลังหางานของลูกค้ารายอื่นด้วย เนื่องจากว่าถ้าบริษัท Apico RV เดิมจะเป