สรุปงบล่าสุด AGE

บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
**สรุปผลประกอบการและวิเคราะห์บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) (AGE) (อัปเดตล่าสุด)**
บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ดำเนินธุรกิจหลักเป็นผู้จัดจำหน่ายถ่านหินสะอาดทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจโลจิสติกส์ทั้งทางบกและทางน้ำ ในปี 2567 บริษัทมีการปรับโครงสร้างธุรกิจสู่ความยั่งยืนภายใต้แนวคิด ESG โดยมุ่งเน้นการเติบโตใน 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจถ่านหิน ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจพลังงานยั่งยืน และธุรกิจอื่นๆ ในไตรมาส 4 ปี 2567 บริษัทได้รับรางวัล CSR-DIW Continuous Award เป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน และจัดโครงการปลูกฝังการคัดแยกขยะในโรงเรียนรอบคลังสินค้าและท่าเรือ เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านการจัดการขยะและสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม ในส่วนของงบการเงิน ปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 14,744.20 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ที่มีรายได้ 15,546.6 ล้านบาท กำไรสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญเป็นขาดทุน 221.18 ล้านบาท เมื่อเทียบกับกำไร 285.10 ล้านบาทในปี 2566 โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจถ่านหินภายในประเทศ (88.3%) และธุรกิจถ่านหินส่งออกต่างประเทศ (11.7%)
บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 2568 ที่ 17,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจถ่านหิน 13,000 ล้านบาท ธุรกิจโลจิสติกส์ 900 ล้านบาท ธุรกิจพลังงานยั่งยืน 2,000 ล้านบาท และธุรกิจเอจีอี เวนเจอร์ส 1,000-1,500 ล้านบาท บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท เอเชีย ไบโอแมส จำกัด (มหาชน) (ABM) และทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ ABM จากผู้ถือหุ้นทั้งหมด โดยมีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจไปสู่พลังงานยั่งยืนมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทย่อยได้ลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท เอจีอี อีวี ลีมูซีน แอนด์ เซอร์วิส จำกัด เพื่อขยายธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า บริษัทมีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 9,084.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนหนี้สินต่อผู้ถือหุ้น (D/E) เพิ่มขึ้นจาก 1.62 เท่าในปี 2566 เป็น 1.75 เท่าในปี 2567
การพิจารณาว่า AGE เป็นโอกาสในการลงทุนหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งผลการดำเนินงานในอดีต แผนธุรกิจในอนาคต และสภาวะตลาดโดยรวม การที่บริษัทขาดทุนสุทธิในปี 2567 ถือเป็นสัญญาณที่ต้องระมัดระวัง แม้ว่าบริษัทจะตั้งเป้ารายได้ที่เติบโตในปี 2568 แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้จากความผันผวนของราคาถ่านหิน ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจพลังงานทางเลือก นอกจากนี้ บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลกำไร กระแสเงินสดจากการดำเนินงานลดลงอย่างมาก และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ติดลบ
โอกาส:
* การปรับโครงสร้างธุรกิจสู่ความยั่งยืนและขยายธุรกิจไปยังพลังงานยั่งยืน อาจช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของธุรกิจถ่านหินและเพิ่มโอกาสในการเติบโตในระยะยาว
* การเข้าซื้อ ABM อาจช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจพลังงานยั่งยืนและสร้าง synergy กับธุรกิจอื่นๆ ของบริษัท
* การลงทุนในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าอาจเป็นโอกาสในการเติบโตในตลาดที่กำลังเติบโต
* รายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์และพลังงานยั่งยืนมีการเติบโต ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการกระจายความเสี่ยงของบริษัท
ความเสี่ยง:
* ความผันผวนของราคาถ่านหินอาจส่งผลกระทบต่อรายได้และกำไรของบริษัท โดยเฉพาะธุรกิจถ่านหินภายในประเทศ
* การแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจพลังงานทางเลือกอาจทำให้การเติบโตของธุรกิจพลังงานยั่งยืนเป็นไปได้ยาก
* ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้ถ่านหินและบริการโลจิสติกส์
* ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
* หนี้สินระยะสั้นจากสถาบันการเงินที่เพิ่มขึ้น อาจสร้างภาระทางการเงินให้กับบริษัท
* กระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ลดลงอย่างมาก อาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของบริษัท
* อัตราส่วนหนี้สินต่อผู้ถือหุ้น (D/E) ที่สูงขึ้น แสดงถึงความเสี่ยงทางการเงินที่เพิ่มขึ้น
* ผลขาดทุนสุทธิและ ROE ที่ติดลบ บ่งชี้ถึงความท้าทายในการสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น
ข้อมูลทางการเงินเพิ่มเติมที่ควรนำมาพิจารณาในการวิเคราะห์ ได้แก่
* อัตราส่วนสภาพคล่อง เช่น อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนและอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนเร็ว เพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้น
* ระยะเวลาขายสินค้าเฉลี่ย เพื่อประเมินประสิทธิภาพในการบริหารสินค้าคงเหลือ
โดยสรุป การลงทุนใน AGE มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากผลการดำเนินงานที่ไม่ดีในปี 2567 นักลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทอย่างใกล้ชิด และประเมินความสามารถในการฟื้นตัวของธุรกิจ
(115.39%)
(88.85%)
(124.04%)
(183.40%)
(4.04%)
(50.12%)
(188.15%)
(190.39%)
(624.27%)
(13.73%)
(2,286.15%)
(351.27%)