สรุปงบล่าสุด AGE
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการของ บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) ไตรมาส 3 ปี 2568
**1. สรุปรายได้รวม:**
ในไตรมาส 3 ปี 2568, AGE รายงานรายได้จากการดำเนินงานรวม 3,727.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567 (3,189.2 ล้านบาท) แต่ลดลง 7.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2568 (4,019.3 ล้านบาท) กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 95.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 1,041.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567 ที่ขาดทุน 10.1 ล้านบาท แต่ลดลง 10.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2568 (หน้า 2)
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจขายยานยนต์มลพิษต่ำและการขายถ่านหินส่งออกต่างประเทศ (หน้า 2) ในขณะที่การลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) มีสาเหตุหลักมาจากปริมาณขายถ่านหินในประเทศที่ลดลง (หน้า 2)
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
บริษัทคาดการณ์ว่าแนวโน้มราคาถ่านหินจะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นจนถึงสิ้นปี เนื่องจากการเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น และสภาพอากาศที่มีฝนตกหนักส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตถ่านหิน (หน้า 3)
AGE มีการปรับโครงสร้างธุรกิจสู่ความยั่งยืนภายใต้แนวคิด ESG โดยมุ่งเน้น 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจถ่านหิน, ธุรกิจโลจิสติกส์, ธุรกิจพลังงานยั่งยืน และธุรกิจ Human Solutions โดยตั้งเป้าหมายว่าในปี 2573 สัดส่วนรายได้จากธุรกิจถ่านหินจะปรับเป็น 50% และสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Non-Coal จะเพิ่มขึ้นเป็น 50% (หน้า 3)
นอกจากนี้ บริษัทย่อย AAG เดินหน้าขยายธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ EV และ Hybrid ผ่านพันธมิตรหลายแบรนด์ พร้อมขยายและปรับปรุงโชว์รูมและศูนย์บริการ (หน้า 3)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **รายได้:** รายได้จากการขายถ่านหินภายในประเทศลดลง 28.9% (YoY) และ 38.2% (QoQ) เนื่องจากปริมาณขายและราคาขายเฉลี่ยถ่านหินลดลงตามราคาตลาดโลก (หน้า 5) ในขณะที่รายได้จากการขายถ่านหินส่งออกต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 651.7% (YoY) และ 148.7% (QoQ) จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการขายไปยังประเทศกัมพูชา (หน้า 5) ธุรกิจยานยนต์มลพิษต่ำมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 15,912.2% (YoY) และ 80.4% (QoQ) (หน้า 5)
* **กำไรขั้นต้น:** กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 13.0% (YoY) แต่ลดลง 15.5% (QoQ) (หน้า 6) อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 12.0% ลดลงจาก 12.4% ในไตรมาส 3 ปี 2567 และ 13.1% ในไตรมาส 2 ปี 2568 (หน้า 6)
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่าย:** ลดลง 7.4% (YoY) และ 15.7% (QoQ) (หน้า 7) อัตราค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายต่อรายได้รวมอยู่ที่ 5.6% ลดลงจาก 7.4% ในไตรมาส 3 ปี 2567 และ 7.1% ในไตรมาส 2 ปี 2568 (หน้า 7)
* **ค่าใช้จ่ายในการบริหาร:** เพิ่มขึ้น 0.8% (YoY) แต่ลดลง 0.7% (QoQ) (หน้า 8) อัตราค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้รวมอยู่ที่ 2.6% ลดลงจาก 3.0% ในไตรมาส 3 ปี 2567 แต่เพิ่มขึ้นจาก 2.4% ในไตรมาส 2 ปี 2568 (หน้า 8)
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
ณ วันที่ 30 กันยายน 2568, กลุ่มบริษัทมีสินทรัพย์รวม 8,597.5 ล้านบาท ลดลง 5.4% จากสิ้นปี 2567 (หน้า 10) หนี้สินรวม 5,053.7 ล้านบาท ลดลง 12.7% จากสิ้นปี 2567 (หน้า 10) ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 3,543.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.4% จากสิ้นปี 2567 (หน้า 10) อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) อยู่ที่ 1.43 เท่า ลดลงจาก 1.82 เท่า ณ สิ้นปี 2567 (หน้า 12)
**ภาพรวม 9 เดือนแรกปี 2568:**
* รายได้จากการดำเนินงาน 11,335.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (หน้า 2)
* กำไรขั้นต้น 1,412.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (หน้า 2)
* กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 243.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 188.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (หน้า 2)
* ธุรกิจยานยนต์มลพิษต่ำมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยมียอดขายรวม 1,811.1 ล้านบาท (หน้า 6)
(8.19%)
(50.28%)
(5.77%)
(44.27%)
(2.68%)
(3.96%)
(11.54%)
(43.68%)
(10.23%)
(1,041.82%)
(55.72%)
(1,077.14%)