DOHOME สรุป Oppday ไตรมาส 2 ปี 2568: ฝ่าพายุเศรษฐกิจ มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

P/E 19.05 YIELD 0.14 ราคา 3.74 (0.00%)

DOHOME สรุป Oppday ไตรมาส 2 ปี 2568: ฝ่าพายุเศรษฐกิจ มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

สรุปผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2568 ของ DOHOME โดยนางสาวมยุรี ศรีธา ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับดูแลกิจการ เลขานุการบริษัท และนักลงทุนสัมพันธ์

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

  • รายได้: 7,283 ล้านบาท
  • Same Store Sales Growth (SSSG): ติดลบ 9.3%

SSSG ติดลบเนื่องจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงฤดูฝนที่มาเร็วกว่าปกติ ลูกค้า End User เป็นกลุ่มที่ SSSG ติดลบมากที่สุด ในขณะที่ลูกค้า Back Office ยังคงเติบโตได้ดี ภาคใต้เป็นภูมิภาคเดียวที่ SSSG ยังเป็นบวกต่อเนื่อง

  • Gross Profit: 1,311 ล้านบาท คิดเป็น 18%

บริษัทสามารถบริหารต้นทุนได้ดีขึ้นในทุกกลุ่มสินค้า (ก่อสร้าง, ซ่อมแซม, ตกแต่ง, Private Brand, เหล็ก) ส่งผลให้ Gross Profit ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ของปีก่อน

  • SG&A: เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากค่าใช้จ่าย New Store ที่เตรียมเปิดสาขาขนาดใหญ่ 2 สาขา

อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถ Maintain และลดค่าใช้จ่ายหลายรายการได้

  • EBITDA: 555 ล้านบาท คิดเป็น 7.6%
  • Net Profit: 157 ล้านบาท คิดเป็น 2.1%

Net Profit ลดลงจากปีก่อน เนื่องจากผลกระทบจาก Top Line (รายได้จากการขาย) ที่ยัง Impact จากภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยอื่นๆ

  • AR Day: 20 วัน (ไม่แตกต่างจากปีก่อนมากนัก)
  • AP Day: 41 วัน (ปรับลดลงเล็กน้อย)
  • Inventory Day: 171 วัน

มูลค่าสต็อกลดลง 580 ล้านบาท แม้จะมีการเปิด New Store 2 สาขา หากรวมสต็อกสาขาใหม่ สามารถลดสต็อกได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท

  • Cash Cycle: 150 วัน
  • D/E Ratio: 1.55 เท่า (ยังมี Room เนื่องจาก Covenant ที่แบงก์กำหนดคือ 2.5 เท่า)
  • Interest Bearing Debt: 1.2 เท่า (ยังมี Room ในการบริหาร Cash Flow หรือขยายสาขา)

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

  • แผนขยายสาขาขนาดใหญ่:
    1. เป้าหมาย: ครบ 32 สาขาภายในปี 2570
    2. ปัจจุบัน: เปิดแล้ว 2 สาขา (เทพารักษ์, นครสวรรค์)
    3. แผน: เปิดเพิ่มอีก 1 สาขาในไตรมาส 4
  • DoHome To Go:
    1. เป้าหมาย: ครบ 50 สาขาภายในปี 2570
    2. ปัจจุบัน: เปิดแล้ว 16 สาขา
    3. แผน: เปิดเพิ่มอีก 10 สาขาในครึ่งปีหลัง

สาขาอัจฉริยประสิทธิ์ได้รับ Feedback ที่ดีและเป็นไปตาม Target

  • นายช่าง:
    1. บริการครอบคลุม: ติดตั้ง, ซ่อมแซม, บำรุงรักษา, สร้างบ้าน
    2. Feedback ดี: บริการสร้างบ้านเป็นหลัก
    3. ยอดเติบโต: ต่อเนื่อง

บริการ Furniture Fit-in ได้รับ Feedback ที่ดีจากลูกค้า

  • Online Channel:
    1. โปรโมชั่น: ร่วมกับ Marketplace ต่างๆ (Lazada, Shopee)
    2. การเติบโต: ช่องทาง 2 ช่าง
    3. ยอดเติบโต: NocNoc, TikTok
    4. E-Commerce: โปรโมชั่น, สินค้าหลากหลาย, ยอดเติบโตต่อเนื่อง

ช่องทาง Chat & Shop ยังมีการเติบโตที่ดี

เว็บไซต์มีการ Go Live และคาดว่าจะมียอดเติบโตได้มากขึ้น

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

  • ภาวะเศรษฐกิจ:
    1. ผลกระทบ: ต่อกำลังซื้อลูกค้า End User
    2. ความเสี่ยง: การชะลอตัวของการก่อสร้าง (จากฝน)
  • การแข่งขัน:
    1. การแข่งขัน: รุนแรงในธุรกิจ Modern Trade
    2. ความเสี่ยง: สินค้าจีนทะลักเข้ามา (ราคาถูก)

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

  • ผลักดันการขาย: สินค้ากลุ่มอื่นๆ (เกษตร, สวน)
  • บริหาร GP: ให้ดีขึ้นต่อเนื่อง
  • Control SG&A: Lean Process, นำระบบมาใช้
  • คัดเลือกสินค้า: ตาม มอก. ทุกอย่าง
  • เพิ่มความเข้มข้น: ขอใบเซอร์, ตรวจสอบสินค้า

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

บริษัทคาดว่า:

  • ไตรมาส 3: SSSG จะเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น
  • ไตรมาส 4: SSSG จะเริ่มดีขึ้น (ภาคการก่อสร้างฟื้นตัว, กำลังซื้อ End User ฟื้นตัว)
  • ปี 2569: งบประมาณภาครัฐจะได้รับการอนุมัติ, ภาคการก่อสร้างจะฟื้นตัว

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้น นาทีที่ 30:02

  1. สาขาอุบลฯ ได้รับผลกระทบจากสงครามชายแดนหรือไม่?

    ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีอำเภอน้ำยืนติดชายแดน และจังหวัดใกล้เคียง (ศรีสะเกษ) ได้รับผลกระทบ ทำให้ยอดขายและ Traffic ลูกค้าลดลง

  2. เป้ารายได้ปีนี้โต 5-6% ยังคงเป้าเดิมหรือไม่?

    เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ SSSG อาจไม่ถึงเป้า 5-6% แต่บริษัทพยายามผลักดันการขายสินค้ากลุ่มอื่นๆ และคาดว่า SSSG จะดีขึ้นในไตรมาส 3 และ 4

  3. แนวโน้มผลการดำเนินงานและ SSSG ในไตรมาส 3 และ 4 จะเป็นอย่างไร? ผลการดำเนินงานทั้งปีจะทรงตัวหรือไม่?

    สอดคล้องกับที่ชี้แจงไปก่อนหน้า (SSSG ไตรมาส 3 ดีขึ้น, ไตรมาส 4 เริ่มฟื้นตัว)

  4. หุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนกันยายน จะชำระหรือออกหุ้นกู้ใหม่?

    บริษัทมีแผนที่จะชำระหุ้นกู้ครบจำนวน โดยไม่มีแผนออกหุ้นกู้ใหม่

  5. Gross Profit ในปัจจุบันเป็นอย่างไร?

    GP ไม่ได้แตกต่างจากไตรมาส 2 และคาดว่าจะ Maintain GP ได้ที่ 18% ในไตรมาส 3 เนื่องจากมี Room ในหลายกลุ่มสินค้า (Private Brand, เหล็ก) และบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น

  6. มั่นใจหรือไม่ว่า SSSG ปีนี้จะไม่ติดลบ?

    หาก SSSG ไตรมาส 4 กลับมาเป็นบวกได้ SSSG ทั้งปีอาจจะยังติดลบในระดับ Low Single Digit เนื่องจากไตรมาส 2 และ 3 ยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ

  7. SG&A จะเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงไร?

    SG&A จะเพิ่มขึ้นจาก New Store เป็นหลัก ไตรมาส 3 จะมีค่าใช้จ่ายของสาขาเทพารักษ์และนครสวรรค์เต็มไตรมาส ไตรมาส 4 จะมีค่าใช้จ่ายของสาขาใหม่ที่เปิดเพิ่มอีก 1 สาขา

  8. Private Brand ปีนี้ Target 21% จะเป็นไปตามเป้าหรือไม่?

    อาจไม่เป็นไปตาม Target เนื่องจากฝนมาเร็วทำให้ Traffic ลูกค้าลดลง แต่คาดว่าใน Second Half หากไม่มีฝนและเป็นช่วง High Season จะช่วยผลักดันยอดขาย Private Brand ได้มากขึ้น

  9. ปัจจัยลบที่กระทบต่อบริษัทมีอะไรบ้าง?

    ภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ชะลอตัว, ฝนที่มาเร็วกว่าปกติ

  10. เรื่องดอกเบี้ย?

    การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของแบงก์ชาติส่งผลกระทบต่อบริษัท แต่การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงในช่วงปลายปีที่ผ่านมาทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดลง และบริษัทยังมี Room ที่จะลดสต็อกเพื่อลดภาระดอกเบี้ย

  11. SG&A จะลดลงได้อย่างไรเมื่อจำนวนสาขาเพิ่มขึ้น?

    บริษัทจะ Lean Process, ปรับกระบวนการทำงาน, นำระบบมาใช้เพื่อลด SG&A

  12. ช่องทาง E-Commerce ยังมี Room ในการเติบโตหรือไม่?

    มี Room ในการเติบโต โดยเฉพาะหลังจาก Go Live เว็บไซต์ และจากการ Join กับ TikTok

  13. GP ของสินค้า House Brand ยังมี Room ที่จะ Improve ขึ้นได้หรือไม่?

    มี Room ที่จะ Improve ขึ้นได้ จาก New Product และการบริหาร Product Mix

  14. สาขาขนาดใหญ่และ To Go ปกติ Break Even กี่เดือน?

    สาขาขนาดใหญ่และ To Go ปกติ Break Even ใน 1-2 เดือนที่เปิดเต็มเดือน

  15. การขยายสาขาของ DoHome To Go?

    บริษัทตั้ง Target ขยายสาขา To Go ให้ครบ 50 สาขาภายในปี 2570 และในอนาคตอาจขยายได้มากกว่านี้

  16. การเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้ากลุ่มซ่อมแซมตกแต่ง?

    บริษัทจะขยายสาขาขนาดใหญ่ (ซึ่งมีสัดส่วนสินค้ากลุ่มซ่อมแซมตกแต่งมาก) และส่งเสริมการขายสินค้ากลุ่มนี้ผ่านช่องทาง To Go และ Online

  17. มาตรการดูแลสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานตามข่าว?

    บริษัทมีขั้นตอนในการคัดเลือกสินค้าให้เป็นไปตาม มอก. ทุกอย่าง และจะเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบสินค้าในอนาคต

  18. การแข่งขันในอุตสาหกรรมและคู่แข่งสินค้าจากจีน?

    บริษัทจะคัดเลือกสินค้าและเปรียบเทียบราคาเพื่อให้ได้ต้นทุนที่ต่ำกว่า และเน้นการขายสินค้าที่ผลิตในประเทศเป็นหลัก และบริษัทจะผลักดันช่องทาง E-Commerce และสินค้า Private Brand ของตนเองต่อไป

  19. สิ้นปีบริษัทมองว่า Net Profit จะดีขึ้นกว่าปีที่แล้วหรือไม่?

    คาดว่า Net Profit จะยังเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วได้เล็กน้อย หากช่วง Second Half ไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยอะไรมากนัก

โดยสรุป DOHOME เผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขัน แต่บริษัทมีแผนการที่ชัดเจนในการขยายธุรกิจ, บริหารต้นทุน, และพัฒนาช่องทางการขายต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน

โพสต์ล่าสุด