บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

มายแบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MST) ปรับลดคำแนะนำสำหรับหุ้น PTTGC เป็น "ขาย" พร้อมปรับราคาเป้าหมายเป็น 17 บาท จากเดิม 16 บาท มองว่าราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมาเร็วๆ นี้ไม่มีเหตุผลรองรับ และแนวโน้มในอนาคตจะไม่สดใสเหมือนเคย

อัตราการใช้กำลังการผลิตยังไม่ถึงจุดต่ำสุด

MST คาดการณ์ว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตเอทิลีนทั่วโลกจะลดลงจาก 80% ในปี 2568 เหลือ 77-78% ในปี 2570-71 เนื่องจากกำลังการผลิตใหม่จำนวนมาก หากต้องการให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ (spreads) ฟื้นตัว จำเป็นต้องมีการปิดกำลังการผลิตเอทิลีนรวมอย่างน้อย 25 ล้านตันต่อปีภายในปี 2571 ขณะที่ปัจจุบันมีแผนปิดโรงงานในเกาหลีใต้และจีนเพียง 8.7 ล้านตัน

ขาดทุนต่อเนื่อง กระแสเงินสดเป็นลบ

MST คาดว่า PTTGC จะมีผลขาดทุนหลักต่อเนื่องจนถึงปี 2572 และกระแสเงินสดจะยังคงลดลง โดยกระแสเงินสดที่ปรับแล้วติดลบ 1.8 พันล้านบาทใน 1H68 เทียบกับที่เป็นบวกในปี 2566 และ 2567 การถูกปรับลดอันดับเครดิตล่าสุดอาจจำกัดทางเลือกในการระดมทุนของ PTTGC และ/หรือเพิ่มต้นทุนการกู้ยืม

ความเสี่ยงจากการด้อยค่า Allnex

MST มองเห็นความเสี่ยงจากการด้อยค่าของค่าความนิยมสำหรับ Allnex ซึ่งมีผลขาดทุนปีละราว 4,000–6,000 ล้านบาท หากปรับลดสมมติฐานการเติบโตลงมาเหลือ 4% จะทำให้เกิด impairment ราว 5.7 หมื่นล้านบาท หรือ 13 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ EBITDA ของ Allnex ใน 1H68 ลดลงจริง 16% YoY

สรุป

มายแบงก์ฯ แนะนำ "ขาย" หุ้น PTTGC โดยให้ราคาเป้าหมาย 17 บาท เนื่องจากมองว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตเอทิลีนของโลกยังไม่ถึงจุดต่ำสุด คาดว่าจะขาดทุนต่อเนื่องถึงปี 2572 กระแสเงินสดเป็นลบ และมีความเสี่ยงจากการด้อยค่า Allnex นอกจากนี้ Valuation ที่ P/BV 0.5 เท่า ยังสูงกว่าหลายบริษัทในกลุ่ม