https://aio.panphol.com/assets/images/community/9929_DCA5FD.png

THANI: FSSIA ปรับลดราคาเป้าหมาย แม้ NPL ลด แต่ Loan Growth ยังน่ากังวล

P/E 11.34 YIELD 4.02 ราคา 1.74 (0.00%)

FSSIA คงคำแนะนำ "ถือ" สำหรับ THANI แต่ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 1.41 บาท มอง Loan Growth ยังเป็นแรงกดดัน

ภาพรวมสำคัญ text-primary

FSSIA มีมุมมอง เชิงลบ text-danger ต่อการประชุมนักวิเคราะห์ (Opportunity Day) ของ THANI เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 โดยประเด็นหลักที่หารือกันคือ 1) ยอดขายรถบรรทุกและทรัพย์สินรอการขาย 2) การกลับรายการผลขาดทุนจากการด้อยค่า 3) แนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อ และ 4) ต้นทุนทางการเงิน

รายละเอียดการวิเคราะห์ text-primary

FSSIA คงคำแนะนำ "ถือ" (HOLD) สำหรับ THANI โดยมีราคาเป้าหมายที่ 1.41 บาท สะท้อนถึงความเสี่ยงที่รออยู่ข้างหน้า รวมถึง 1) แรงกดดันอย่างต่อเนื่องต่อการเติบโตของสินเชื่อ และ 2) โอกาสที่ต้นทุนเครดิตจะเพิ่มขึ้นในสภาพแวดล้อมที่การเติบโตชะลอตัว เนื่องจากลูกหนี้เช่าซื้อรถบรรทุก (HP) เผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในการชำระหนี้

อย่างไรก็ตาม FSSIA มีมุมมอง เชิงบวก text-primary ต่อคุณภาพสินทรัพย์ของ THANI โดยเห็นจากการลดลงอย่างต่อเนื่องของ NPLs (Gross Non-Performing Loans) และอัตราส่วน NPLs ควบคู่ไปกับอัตราส่วน Coverage Ratio ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อการเติบโตของสินเชื่อกลับมา FSSIA เชื่อว่า THANI จะอยู่ในตำแหน่งที่ดีสำหรับการเติบโต เนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์ไม่น่าจะเป็นข้อจำกัดในการฟื้นตัว

ยอดขายรถบรรทุกใหม่ยังคงอยู่ในระดับที่อ่อนแอที่สุด text-danger นับตั้งแต่ THANI เริ่มดำเนินการ โดยมียอดขายเพียง 7,000 คันใน 1H25 ซึ่งต่ำที่สุดในรอบหลายสิบปี ผู้บริหารคาดว่าจะมีการฟื้นตัวบ้างใน 2H25 อย่างไรก็ตาม ปริมาณยังไม่น่าจะเกินระดับที่ตกต่ำอยู่แล้วของปีที่แล้ว FSSIA เห็นด้วยกับมุมมองที่ระมัดระวังของผู้บริหาร เนื่องจากทางเลือกที่มีมูลค่าดีกว่า เช่น รถบรรทุกมือสอง ยังคงดึงดูดความต้องการที่แข็งแกร่งกว่า

ความต้องการรถบรรทุกมือสองที่แข็งแกร่งขึ้นได้ลดสินค้าคงคลังทรัพย์สินรอการขายของ THANI จากประมาณ 1,000 คันเมื่อต้นปี เหลือประมาณ 300 คันในเดือนสิงหาคม โดยผู้บริหารตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 200 คันภายในสิ้นไตรมาส 3 ปี 2568 FSSIA มองว่าสิ่งนี้สามารถทำได้ แม้ว่าจะมี ความเสี่ยง text-danger ที่คุณภาพสินทรัพย์อาจอ่อนแอลงใน 2H25 ซึ่งนำไปสู่การยึดสังหาริมทรัพย์มากขึ้นท่ามกลางการเติบโตที่ช้าลง

การกลับรายการผลขาดทุนจากการด้อยค่ารวมประมาณ 120 ล้านบาทใน 1H25 เกิดจากการขายทรัพย์สินรอการขายที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางความต้องการรถบรรทุกมือสองที่เพิ่มขึ้น รถบรรทุกเก่าที่ด้อยค่าในอัตราที่สูงกว่าก่อนหน้านี้ถูกขายออกไป ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการกลับรายการ FSSIA ยังคงเป็นกลางต่อการกลับรายการผลขาดทุนจากการด้อยค่า สินค้าคงคลังทรัพย์สินรอการขายของ THANI ได้ลดลงเหลือประมาณ 300 คันจากประมาณ 1,000 คันเมื่อต้นปี แม้ว่าการกลับรายการเพิ่มเติมอาจเกิดขึ้นกับการขายรถบรรทุกมือสองเพิ่มเติม แต่ FSSIA มองว่าสิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเวลาและไม่ใช่ตัวขับเคลื่อนการเติบโตของกำไรที่ยั่งยืน

สำหรับแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อ THANI ได้ปรับเป้าหมายการเบิกจ่ายสินเชื่อใหม่ปี 2568 เป็นประมาณ 15.9 พันล้านบาท (-4% จาก 16.5 พันล้านบาท) โดยมีประมาณ 6.7 พันล้านบาทที่ทำได้ใน 1H25 (42% ของเป้าหมายใหม่) โดยอ้างถึงจุดยืนที่ระมัดระวังท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ บริษัทตั้งเป้าที่จะรักษาสินเชื่อรวมไว้ที่ประมาณ 40 พันล้านบาท (-15% y-y) ภายในสิ้นปี ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายสินเชื่อรวมปี 2568 ของ FSSIA

ผู้บริหารคาดว่าต้นทุนทางการเงินจะคงที่ตลอดปี 2568 เนื่องจากหุ้นกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่รุ่นเก่าจำกัดประโยชน์ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยล่าสุด ผลกระทบเชิงบวกของอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าคาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2569

ข้อสังเกตเพิ่มเติม text-primary

จากผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 พบว่า THANI มีกำไรสุทธิ 279 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% QoQ และ 9% YoY โดยมี EPS (กำไรต่อหุ้น) อยู่ที่ 0.04 บาท

สินเชื่อรวม (Gross Loans) อยู่ที่ 42,928 ล้านบาท ลดลง 5% QoQ และ 16% YoY ในขณะที่ NPLs (Gross Non-Performing Loans) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ 1,089 ล้านบาท ลดลง 18% QoQ และ 37% YoY ทำให้อัตราส่วน NPL ลดลงมาอยู่ที่ 2.5%

อัตราส่วน Coverage Ratio เพิ่มขึ้นเป็น 139.5% แสดงถึงความสามารถในการรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

สรุป text-primary

FSSIA ยังคงคำแนะนำ "ถือ" สำหรับ THANI โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 1.41 บาท แม้ว่าคุณภาพสินทรัพย์จะดีขึ้น แต่การเติบโตของสินเชื่อยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตามอง

โพสต์ล่าสุด