บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
OSP กำไร New High! โบรกฯ ปรับเป้าขึ้นเป็น 22 บาท
P/E 13.40 YIELD 3.80 ราคา 15.80 (0.00%)
text-primary OSP โชว์ผลงาน Q2/25 กำไรปกติ New High หนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น แม้รายได้จะลดลงเล็กน้อย
บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (BYD) วิเคราะห์หุ้น บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP โดยคงคำแนะนำ "ซื้อ" และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 22.00 บาท จากเดิม 18.60 บาท เนื่องจากผลประกอบการที่ฟื้นตัวแข็งแกร่งและอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจระดับ 6%
text-primary ผลประกอบการ Q2/25 โดดเด่น หนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น
แม้รายได้ใน Q2/25 จะหดตัวลง 7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากการชะลอตัวของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในประเทศและการลดลงของการให้บริการผลิตขวดแก้ว (OEM) ตามแผนงานที่เน้นธุรกิจหลัก แต่อัตรากำไรขั้นต้นใน Q2/25 ปรับตัวดีขึ้นจาก 38.2% ใน Q2/24 เป็น 41.9% ใน Q2/25 หนุนโดยการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลที่มีอัตรากำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ย รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่ลดลง ส่งผลให้กำไรปกติ Q2/25 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1,010 ล้านบาท (+4% q-q, +10% y-y)
text-primary แนวโน้ม Q3/25 ชะลอตัวตามฤดูกาล แต่ยังเติบโตได้เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
โบรกเกอร์คาดการณ์ว่ากำไรใน Q3/25 อาจชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากยอดขายเครื่องดื่มในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเมียนมาร์ มีแนวโน้มชะลอตัวลงตามฤดูกาล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทั้งยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้น อย่างไรก็ตาม ด้วยต้นทุนวัตถุดิบ (เศษแก้ว) และพลังงานที่ยังทรงตัวในระดับต่ำ คาดว่ากำไรใน Q3/25 ยังสามารถเติบโตได้เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรใน Q4/25 มีแนวโน้มกลับมาเติบโตดีทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและปีก่อนหน้า อันเป็นผลมาจากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลซึ่งมีอัตรากำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นมากในฤดูหนาว
text-primary เน้นบริหารต้นทุน รักษาอัตรากำไร และขยายตลาดต่างประเทศ
OSP เริ่มเห็นความต้องการบริโภคในหลาย Segments ชะลอตัวลง จึงหันมาเน้นการรักษาอัตรากำไรไว้มากกว่าการเพิ่มส่วนแบ่งตลาด นอกจากนี้ บริษัทจะเน้นตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล (Personal Cares) เนื่องจากประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอย่างเวียดนามและอินโดนีเซียยังมีอัตราการเกิดอยู่ในระดับสูงและมีจำนวนประชากรมากกว่าประเทศไทย ช่วยให้การแข่งขันไม่มากเท่ากับตลาดในประเทศ บริษัทมีกลยุทธ์ออกผลิตภัณฑ์สุขภาพด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในต่างประเทศให้มากขึ้น