บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) เผชิญไตรมาสที่ท้าทาย ขาดทุนอ่วมจากอัตราแลกเปลี่ยนและด้อยค่าสินทรัพย์

ไฮไลท์สำคัญ: ขาดทุนบานปลาย

EP รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ขาดทุนสุทธิ 572.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 256.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวนมหาศาลถึง 390.22 ล้านบาท และการบันทึกค่าเผื่อการด้อยค่าของสินทรัพย์อีก 245.08 ล้านบาท

รายได้หดตัว ต้นทุนพุ่ง

รายได้รวมของ EP ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 186.14 ล้านบาท ลดลง 29.26% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยรายได้จากธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ลดลง 19.92% และรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าลดลงอย่างมากถึง 42.77% แม้ว่าต้นทุนขายและบริการจะลดลง 30.76% แต่ก็ไม่สามารถชดเชยผลกระทบจากรายได้ที่ลดลงได้ อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) เพิ่มขึ้นเป็น 19.30% จาก 2.38% ในปีก่อน

วิกฤตค่าเงิน ฉุดโครงการเวียดนาม

ผลกระทบจากการอ่อนค่าของเงินดองเวียดนาม ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อ EP ทำให้ต้องบันทึกค่าเผื่อการด้อยค่าของสินทรัพย์สำหรับโครงการพลังงานลมในเวียดนามถึง 245.08 ล้านบาท นอกจากนี้ การปรับเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อยในสกุลเงิน USD ยังส่งผลให้เกิดผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นถึง 271.28%

อนาคตและความท้าทาย

แม้ว่า EP จะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการ HL3 ในเวียดนามตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 และมีโครงการพลังงานลมในจังหวัด Gia Lai จำนวน 2 โครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตามเงื่อนไขบังคับก่อน แต่ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดในอนาคต