บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

บมจ. คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ (CGD) เผชิญความท้าทายในไตรมาส 2 ปี 2568 โดยมีผลขาดทุนสุทธิ 51.6 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ลดลง แม้โครงการโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ จะมีราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรเพิ่มขึ้นถึง 36% ในช่วง 4 ปี แต่มิอาจชดเชยปริมาณการขายที่ลดลงได้

ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568:

CGD รายงานรายได้รวม 402.7 ล้านบาท ลดลง 39.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์และการปรับกลยุทธ์ด้านราคา ส่งผลให้ปริมาณการขายลดลง แม้ต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการบริหารจะลดลง แต่กำไรจากการดำเนินงานยังคงลดลง 46.0% เหลือ 80.3 ล้านบาท นอกจากนี้ ต้นทุนทางการเงินยังคงเป็นภาระสำคัญ แม้จะลดลง 6.6% จากการชำระคืนหุ้นกู้และเงินกู้ยืมระยะสั้น

สำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2568 กลุ่มบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 148.4 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 40.5 ล้านบาท โดยมีรายได้รวมลดลง 55.0% เหลือ 710.6 ล้านบาท

โครงการสำคัญและกลยุทธ์:

CGD ยังคงมุ่งเน้นการสร้างผลกำไรจากสินทรัพย์ที่มีอยู่ โดยเฉพาะโครงการโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ ซึ่งมียอดโอนกรรมสิทธิ์เกือบสมบูรณ์และมีราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรสูงถึง 585,000 บาท นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการบอนส์ พระราม 3 คอนโดมิเนียมระดับ Ultra-Luxury และโครงการโรงเรียนนานาชาติพระราม 3 ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2569

บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการควบคุมอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นให้อยู่ในระดับต่ำ โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 1.1 เท่า

สรุป:

CGD เผชิญกับความท้าทายจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัว ส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาส 2 และงวด 6 เดือนแรกของปีลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการใหม่ และสร้างรายได้ประจำจากธุรกิจการศึกษา เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว