บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

SGF เผชิญความท้าทายในไตรมาส 2 ปี 2568 ขาดทุนสุทธิ 82.7 ล้านบาท จากรายได้รวมที่ลดลงและการบันทึกรายการภาษี แม้ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ แต่ยังต้องเผชิญความเสี่ยงจากตลาดสินเชื่อที่ชะลอตัว

ผลประกอบการที่น่าผิดหวัง:

ในไตรมาส 2 ปี 2568 รายได้รวมของ SGF ลดลง 25.8% เหลือ 93.1 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากสินเชื่อเช่าซื้อ, ลีสซิ่ง และจำนำทะเบียนรถ ลดลง 28.2% ขณะที่สินเชื่อ SME ลดลง 15.8% อย่างไรก็ตาม รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 13.1% แม้บริษัทจะลดค่าใช้จ่ายในการบริหาร 4.3% และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 33.2% แต่กลับมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 54.6 ล้านบาท จากการกลับรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี ส่งผลให้ผลประกอบการโดยรวมขาดทุนหนัก

สินเชื่อหดตัว-NPL ยังสูง:

พอร์ตสินเชื่อรวมของ SGF อยู่ที่ 1,691.8 ล้านบาท ลดลง 6.9% จากการคัดกรองสินเชื่อใหม่ที่เข้มงวด สัดส่วน NPL ยังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับฐานสินเชื่อที่เล็กลง บริษัทฯ บันทึกค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 147.3 ล้านบาท คิดเป็น 9.4% ของลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อ, ลีสซิ่ง และจำนำทะเบียนรถรวม อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net Debt to Equity Ratio) ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 0.38 เท่า

ความท้าทายและอนาคต:

SGF เผชิญความเสี่ยงจากภาวะตลาดสินเชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ชะลอตัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเติบโตของสินเชื่อ บริษัทฯ มุ่งเน้นการคัดกรองลูกหนี้ใหม่เพื่อยกระดับคุณภาพพอร์ตสินเชื่อ และบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์และการควบคุมความเสี่ยงด้านเครดิตจึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินของบริษัทฯ