บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ภาพรวมผลประกอบการ

บริษัท บางกอกสหประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BUI รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 กำไรสุทธิ 41.39 ล้านบาท ลดลง 43.62% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.88 บาท สาเหตุหลักมาจากผลการดำเนินงานการบริการประกันภัยที่ลดลง แม้ว่ารายได้จากการประกันภัยจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยก็ตาม

เจาะลึกผลการดำเนินงาน Q2/68

กำไรก่อนภาษีเงินได้สำหรับไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 51.96 ล้านบาท ลดลง 42.33% จากปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหลักดังนี้:

• รายได้จากการประกันภัย: เพิ่มขึ้น 2.89% เป็น 327.55 ล้านบาท
• ค่าใช้จ่ายในการบริการประกันภัย: เพิ่มขึ้น 39.08% เป็น 208.12 ล้านบาท
• ค่าใช้จ่ายสุทธิจากสัญญาประกันภัยต่อ: ลดลง 16.67% เป็น 67.28 ล้านบาท
• รายได้จากการลงทุนสุทธิ: เพิ่มขึ้น 45.27% เป็น 8.91 ล้านบาท
• ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่น: เพิ่มขึ้น 39.18% เป็น 16.75 ล้านบาท

วิเคราะห์งบครึ่งปีแรก 2568

สำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 BUI มีกำไรสุทธิ 46.41 ล้านบาท ลดลง 41.44% เมื่อเทียบกับปีก่อน กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 1.03 บาท โดยมีปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบดังนี้:

• รายได้จากการประกันภัย: ลดลง 0.44% เป็น 646.53 ล้านบาท
• ค่าใช้จ่ายในการบริการประกันภัย: เพิ่มขึ้น 20.80% เป็น 468.63 ล้านบาท
• ค่าใช้จ่ายสุทธิจากสัญญาประกันภัยต่อ: ลดลง 25.76% เป็น 122.68 ล้านบาท
• รายได้จากการลงทุนสุทธิ: เพิ่มขึ้น 81.31% เป็น 16.98 ล้านบาท
• ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่น: เพิ่มขึ้น 14.29% เป็น 28.97 ล้านบาท

สถานะทางการเงิน

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 สินทรัพย์รวมของ BUI ลดลง 2.78% จากสิ้นปี 2567 ในขณะที่หนี้สินรวมลดลง 5.91% ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงเล็กน้อย 0.87%

• สินทรัพย์: ลดลงจาก 1,840.04 ล้านบาท เป็น 1,788.82 ล้านบาท
• หนี้สิน: ลดลงจาก 699.30 ล้านบาท เป็น 658.01 ล้านบาท
• ส่วนของผู้ถือหุ้น: ลดลงจาก 1,140.73 ล้านบาท เป็น 1,130.81 ล้านบาท

ข้อสังเกตและแนวโน้ม

ปัจจัยกดดันหลัก คือ การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการบริการประกันภัย ซึ่งส่งผลให้กำไรสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าบริษัทจะสามารถเพิ่มรายได้จากการลงทุนสุทธิได้ แต่ก็ไม่สามารถชดเชยผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นได้

บทสรุป

BUI ต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริการประกันภัยเพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรในอนาคต การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายจะเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูผลกำไรของบริษัท