บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

บมจ. ไทย โคโคนัท (COCOCO) รายได้รวมไตรมาส 2 ปี 2568 เติบโต 13.58% แต่กำไรสุทธิ ลดลง 65.87% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เหตุต้นทุนวัตถุดิบพุ่งสูงจากผลกระทบเอลนีโญ

ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568:

COCOCO ทำรายได้รวม 1,803.69 ล้านบาท ในไตรมาส 2/68 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าและไตรมาสก่อนหน้า โดยมีแรงหนุนจากยอดขายน้ำมะพร้าวในตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น สำหรับครึ่งปีแรก บริษัทมีรายได้รวม 3,353.82 ล้านบาท เติบโต 12.61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายตัวของตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในจีน เอเชีย และสหรัฐฯ รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง

อย่างไรก็ตาม ต้นทุนขายและบริการเพิ่มขึ้น 30.45% ในไตรมาส 2/68 และ 27.78% ในครึ่งปีแรก เนื่องจากยอดขายกะทิที่โตเร็วกว่าคาด ทำให้ต้องจัดหาวัตถุดิบเพิ่มในขณะที่ราคามะพร้าวสูงขึ้นจากเอลนีโญ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 27.59% เหลือ 17.10% ในไตรมาส 2/68 และจาก 27.16% เหลือ 17.51% ในครึ่งปีแรก

นอกจากนี้ ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 78.10% ในไตรมาส 2/68 และ 76.38% ในครึ่งปีแรก จากการใช้วงเงินทุนหมุนเวียนและเงินกู้ยืมเพื่อรองรับการขยายตัวของรายได้และการลงทุน ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 77.80 ล้านบาท ลดลง 65.87% จากปีก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 19.94% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิ 142.23 ล้านบาท ลดลง 67.18% จากปีก่อนหน้า

ข้อสังเกต:

สินทรัพย์รวมของ COCOCO เพิ่มขึ้น 20.78% จากสิ้นปี 2567 เป็น 7,928.73 ล้านบาท ในขณะที่หนี้สินรวมเพิ่มขึ้นถึง 57.50% เป็น 4,559.41 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) เพิ่มขึ้นจาก 0.79 เป็น 1.35

บริษัทได้อนุมัติโครงการลงทุนในฟิลิปปินส์มูลค่า 430 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตกะทิและน้ำมะพร้าว โดยจัดตั้งบริษัทย่อยชื่อ "NOVOCOCONUT INC." นอกจากนี้ COCOCO ยังมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG และสนับสนุนเป้าหมาย SDGs

สรุป:

COCOCO ยังคงเติบโตด้านรายได้ แต่เผชิญความท้าทายจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นและภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิ การลงทุนในฟิลิปปินส์และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว