บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

SICT กำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 ลดลง 22.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เหลือ 32.08 ล้านบาท แม้รายได้รวมจะลดลงเล็กน้อย 2.8% แต่หากคิดเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ กลับเติบโตถึง 7% กลุ่มผลิตภัณฑ์ IoT ในภาคอุตสาหกรรมยังคงเป็นดาวเด่น สร้างการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

ผลกระทบจากค่าเงินบาท:

ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นถึง 9.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า กลายเป็นปัจจัยลบสำคัญที่ฉุดรั้งผลประกอบการของ SICT เนื่องจากกว่า 99% ของรายได้มาจากการส่งออก การแข็งค่าของเงินบาทส่งผลกระทบต่อการรับรู้รายได้ อัตรากำไรขั้นต้น และกำไรสุทธิโดยรวม

เจาะลึกรายได้และกำไร:

• รายได้: เพิ่มขึ้น 1.4% (QoQ) แต่ลดลง 2.8% (YoY) IoT โต 48.7% (QoQ) ขณะที่ระบบกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ร่วง 56.1% (QoQ)
• ต้นทุน: ลดลง 6.0% (QoQ) และ 6.2% (YoY) จากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
• กำไรขั้นต้น: เพิ่มขึ้น 11.9% (QoQ) และ 1.7% (YoY) อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 46% จาก Product Mix ที่ดีขึ้น
• ค่าใช้จ่าย: ค่าใช้จ่ายในการขายลดลง แต่ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นจากผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน
• กำไรสุทธิ: ลดลง 5.5% (QoQ) และ 22.6% (YoY) อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 16%

สินทรัพย์และหนี้สิน:

สินทรัพย์รวมลดลงเล็กน้อย หนี้สินรวมลดลงจากการลดลงของหนี้สินหมุนเวียน ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจากกำไรสะสม อัตราส่วนทางการเงินยังคงแข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนสภาพคล่องอยู่ที่ 4.85 เท่า และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.22 เท่า

ประเด็นที่น่าสนใจ:

• ระบบลงทะเบียนสัตว์: ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่สร้างรายได้ โดยมีปัจจัยหนุนจากแผนการบังคับใช้ป้ายทะเบียนสัตว์อิเล็กทรอนิกส์ในหลายประเทศ
• ระบบกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์: ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ในปลายไตรมาส 3/2568
• ESG: SICT ได้รับ ESG100 Certificate ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

สรุป:

SICT เผชิญกับความท้าทายจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า แม้กลุ่มผลิตภัณฑ์ IoT จะเติบโตได้ดี แต่ภาพรวมกำไรยังคงลดลง อย่างไรก็ตาม ฐานะทางการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง และมีโอกาสเติบโตจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบลงทะเบียนสัตว์