บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
SCGP กำไร Q2/25 พุ่ง! หยวนต้าชี้เป้า 19 บาท มองครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง
P/E 23.56 YIELD 3.57 ราคา 15.40 (0.00%)
SCGP โชว์ผลงาน Q2/25 กำไรปกติโต 8% QoQ จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น บวกกับการปรับโครงสร้างหนี้ Fajar หนุนกำไรครึ่งปีหลัง บล.หยวนต้าคงคำแนะนำ "TRADING" ราคาเป้าหมาย 19 บาท
ผลประกอบการ Q2/25 ดีกว่าคาด
SCGP รายงานกำไรสุทธิ Q2/25 ที่ 1,010 ล้านบาท (+12% QoQ, -31% YoY) หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติอยู่ที่ 993 ล้านบาท (+8% QoQ, -33% YoY) ดีกว่าที่หยวนต้าคาดการณ์ไว้ 7% สาเหตุหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาดถึง 90 bps
แม้ปริมาณขาย Packaging Paper จะอยู่ที่ 1.0 ล้านตัน (-1% QoQ, +2% YoY) แต่กำไรปกติยังเติบโตได้ QoQ จากอัตรากำไรขั้นต้นรวมที่เพิ่มขึ้นเป็น 18.2% (จาก 18.0% ใน Q1/25) เนื่องจากผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ในอินโดนีเซียลดการใช้กลยุทธ์ด้านราคา ทำให้ SCGP สามารถปรับราคาขายขึ้นเพื่อสะท้อนต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ค่าใช้จ่าย SG&A ก็ลดลงมาอยู่ที่ 3,950 ล้านบาท (-2% QoQ, -4% YoY)
SCGP ประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 1H25 จำนวน 0.25 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield 1.3% โดยจะขึ้น XD วันที่ 8 ส.ค.
แนวโน้มครึ่งปีหลังเติบโต HoH
หยวนต้าคาดการณ์กำไรปกติในช่วง 2H25 ที่ 1,800-2,000 ล้านบาท (ราว 900-1,000 ล้านบาท/ไตรมาส) เติบโต HoH แม้ผ่านช่วงเร่งส่งออกก่อนสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้า เพราะได้แรงหนุนจากการบริโภคในเวียดนามและอินโดนีเซียที่ยังเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาลจีน
นอกจากนี้ ต้นทุนทางการเงินรวมมีแนวโน้มลดลง หลัง SCGP ปรับโครงสร้างหนี้ของ Fajar (ทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลงราว 250-300 ล้านบาท/ปี โดยมีผลตั้งแต่ช่วงกลาง ก.ค. 25 เป็นต้นไป) ปัจจุบัน Fajar มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 ในอินโดนีเซียที่ 32% เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 31% ใน Q1/25 และ 29% ในปี 2024
คงคำแนะนำ "TRADING"
หยวนต้าคงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2025 ที่ 19.00 บาท/หุ้น โดยมองว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้น 71% นับตั้งแต่สหรัฐฯ ชะลอการขึ้นภาษีนำเข้าเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 25 ได้สะท้อนแนวโน้มผลประกอบการที่ฟื้นตัวไปมากแล้ว จึงคงคำแนะนำ "TRADING" นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจใช้จังหวะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมาที่แนวรับ 18.30-18.40 บาท เป็นจังหวะในการเข้าเก็งกำไร