บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

BCPG รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2568 กำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติโต 32.5% แม้รายได้รวมลดลง 28.0% เหตุโรงไฟฟ้าพลังงานลมในไทย, โครงการคลังน้ำมัน, และโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป.ลาว หนุน

รายได้และกำไร:

BCPG ทำรายได้รวม 780.3 ล้านบาท ลดลง 28.0% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2567 แต่เพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2568 กำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 131.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.5% จากไตรมาส 2/2567 แต่ลดลง 33.5% จากไตรมาส 1/2568 ปัจจัยบวกมาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทย, โครงการคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือ, และโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป.ลาว รวมถึงค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง ปัจจัยลบมาจากผลกระทบจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยและญี่ปุ่น, ส่วนแบ่งกำไรที่ลดลงจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมในฟิลิปปินส์และโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา, ค่าความเข้มแสงที่ลดลงในประเทศไทย, กำลังลมที่ลดลงตามฤดูกาลในฟิลิปปินส์, และอัตราการทำกำไรต่อหน่วยที่ลดลงตามฤดูกาลในสหรัฐอเมริกา

การลงทุนและพัฒนา:

BCPG ขยายการลงทุนในไต้หวันด้วยโครงการโซลาร์ฟาร์ม 108 เมกะวัตต์ และลงนามความร่วมมือกับ NT เพื่อพัฒนา Data Center ในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเข้าซื้อโครงการพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาในประเทศไทยกำลังการผลิตรวม 17.5 เมกะวัตต์ ตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรี (PJM) ในสหรัฐฯ ประกาศค่าความพร้อมจ่ายที่อัตรา $329/MW-Day สำหรับรอบปี 2026/2027

สินทรัพย์และหนี้สิน:

สินทรัพย์รวมของ BCPG อยู่ที่ 59,474.2 ล้านบาท ลดลง 4.1% จากสิ้นปี 2567 หนี้สินรวมอยู่ที่ 31,058.1 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2567 ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 28,159.9 ล้านบาท ลดลง 8.3% จากสิ้นปี 2567 อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 1.0 เท่า ลดลงจากสิ้นไตรมาส 2/2567

สรุป:

BCPG มีผลประกอบการที่ผสมผสานในไตรมาส 2/2568 โดยมี กำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติเพิ่มขึ้น แต่มีรายได้รวมและกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ลดลง การลงทุนใหม่ในไต้หวันและประเทศไทยแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจพลังงานสะอาด แม้ว่าผลประกอบการจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น การสิ้นสุด Adder ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และการลดลงของส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมในต่างประเทศ