บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

text-primary ไฮไลท์สำคัญ

บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ยังคงคำแนะนำ "ขาย" สำหรับหุ้น DELTA โดยมีราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 66.00 บาท แม้ว่าบริษัทฯ อาจเป็นผู้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants) ที่อ้างอิงหลักทรัพย์ DELTA

text-primary ผลประกอบการ Q2/25 ต่ำกว่าคาด

DELTA รายงานกำไรสุทธิ Q2/25 ที่ 4.6 พันล้านบาท ลดลง 16% QoQ และ 29% YoY หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติอยู่ที่ 4.5 พันล้านบาท ลดลง 9.2% QoQ และ 23.7% YoY ซึ่งต่ำกว่าที่หยวนต้าและตลาดคาดการณ์ไว้ 13.5% และ 14.7% ตามลำดับ สาเหตุหลักมาจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า และค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงขึ้นจากผลกระทบของสงครามการค้า

รายได้หลักอยู่ที่ 4.45 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% QoQ และ 6.5% YoY โดยรายได้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทำได้ 1.334 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 7.1% QoQ และ 18.3% YoY กลุ่มสินค้า Power Electronics เติบโตเด่น แต่กลุ่ม Mobility (EV) ลดลง YoY ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สอง ขณะที่กลุ่ม Infrastructure เติบโตดีจาก Data Center Infrastructure

อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อยู่ที่ 25.0% ลดลง 60bps QoQ และ 190bps YoY จากค่าเงินบาทที่แข็งค่า ค่าใช้จ่าย SG&A อยู่ที่ 6.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.0% QoQ และ 11.3% YoY จากการสนับสนุนการตลาดให้ลูกค้า และการตั้งสำรองลูกค้ากลุ่มพัดลมและระบบระบายความร้อนสำหรับรถยนต์ที่เข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ

text-primary ข้อสังเกตและประมาณการ

กำไร 1H25 คิดเป็น 44% ของประมาณการทั้งปี 2568 ของหยวนต้าที่ 2.17 หมื่นล้านบาท (+20.7% YoY) คาดว่ายอดขายและกำไรปกติจะฟื้นตัว HoH ใน 2H25 หลังความชัดเจนด้านภาษี แต่ค่าใช้จ่ายที่ยังสูงทำให้คงประมาณการเดิม

หยวนต้าคงราคาเหมาะสมสิ้นปี 2568 ที่ 66.00 บาท อิง PER 37.9x หรือ -0.75SD มองว่าราคาหุ้น DELTA แพงมากในแง่ P/E และแพงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต

ปัจจัยสำคัญที่ตลาดจะจับตาคือผลการเจรจาภาษีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ หากตัวเลขถูกเก็บต่ำกว่า 18% หุ้นจะมีแรงหนุนเชิงจิตวิทยา

text-primary สรุป

หยวนต้ายังคงคำแนะนำ "ขาย" DELTA โดยให้เหตุผลว่าราคาหุ้นแพงเกินไปเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน และผลประกอบการ Q2/25 ที่ต่ำกว่าคาดเป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติม นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินบาท สงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น และภาวะเศรษฐกิจถดถอย