บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

FSSIA ปรับลดราคาเป้าหมาย BAM ลง แม้คาดการณ์กำไร Q2/25 เติบโตโดดเด่น เหตุเศรษฐกิจไทยยังผันผวน หนี้ครัวเรือนสูง กดดันการเติบโตระยะยาว

ประเด็นสำคัญ

FSSIA (FSS International Investment Advisory Securities Co Ltd) ปรับลดคำแนะนำสำหรับหุ้น บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) เป็น "ถือ" (HOLD) พร้อมปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 6.85 บาท จากเดิม 9.00 บาท

รายละเอียดการวิเคราะห์

นักวิเคราะห์จาก FSSIA คาดการณ์ว่า BAM จะรายงานกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 2,932 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยได้แรงหนุนจากการจัดเก็บหนี้รายใหญ่ (large-ticket collections) ในไตรมาส 2/25 อย่างไรก็ตาม FSSIA มองว่าการเติบโตในระยะถัดไปมีความไม่แน่นอน เนื่องจากเศรษฐกิจไทยที่ซบเซาและระดับหนี้ครัวเรือนที่สูง

ถึงแม้ BAM จะมีการปรับตัวภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ (ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร) โดยมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านการปรับโครงสร้างหนี้และการปรับปรุงทรัพย์สินรอการขาย (NPAs) แต่ FSSIA ยังคงระมัดระวังในระยะสั้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงเป็นอุปสรรคต่อการจัดเก็บหนี้

FSSIA คาดการณ์ว่า BAM จะยังคงระมัดระวังในการลงทุนซื้อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) เพิ่มเติม โดยจะรักษาระดับการลงทุน NPLs ให้คงที่ที่ประมาณ 9.0-9.3% เนื่องจากข้อจำกัดทางการเงินจากอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E ratio)

ข้อสังเกต

ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 6.85 บาท อ้างอิงจาก Gordon Growth Model (GGM) โดยมีสมมติฐาน ROE (Return on Equity) ที่ยั่งยืนที่ 6.5% และ COE (Cost of Equity) ที่ 12.2% ซึ่งส่งผลให้ได้ P/BV (Price to Book Value) ที่ 0.48 เท่า

FSSIA ประเมินว่า BAM อาจเผชิญกับแรงกดดันจากการจัดเก็บหนี้ที่ลดลง เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง แม้ว่า BAM จะมีกลยุทธ์ในการปรับโครงสร้างหนี้และปรับปรุง NPAs เพื่อเพิ่มมูลค่า แต่ผลลัพธ์อาจต้องใช้เวลาในการเห็นผล

สรุป

FSSIA คงคำแนะนำ "ถือ" สำหรับ BAM โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 6.85 บาท แม้คาดการณ์ผลประกอบการปี 2568 จะเติบโตดี แต่ยังคงกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยและผลกระทบต่อการดำเนินงานของ BAM ในระยะยาว นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและผลการดำเนินงานของ BAM อย่างใกล้ชิดเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน