บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

text-primary ไฮไลท์สำคัญ

BH หรือ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) โชว์ผลงาน Q2/25 กำไรสุทธิ 1,858 ล้านบาท ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง 11% จากการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 1H25 ที่ 2.00 บาทต่อหุ้น (yield 1.2%)

text-primary ผลประกอบการที่น่าจับตา

KSS หรือ บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มองว่าผลประกอบการ Q2/25 ของ BH อยู่ในเกณฑ์ "กลาง" โดยมีกำไรสุทธิ 1,858 ล้านบาท (-4% y-y, +7% q-q) สูงกว่าที่ KSS และ Consensus คาดการณ์ไว้ 11% และ 9% ตามลำดับ ปัจจัยหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้น (Gross margin) ที่ 52.3% และอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA margin) ที่ 40.6% ซึ่งดีขึ้นทั้ง y-y และ q-q แม้ว่ารายได้จากการรักษาพยาบาลจะลดลง (-4% y-y, -2% q-q) สอดคล้องกับการคาดการณ์

สำหรับแนวโน้ม 3Q25F KSS คาดว่ากำไรสุทธิจะลดลง y-y แต่จะเติบโต q-q เนื่องจากรายได้จากการรักษาพยาบาลที่ลดลงเล็กน้อย y-y จาก Intensity ค่ารักษาโรคในกลุ่มต่างชาติ แต่จะกลับมาเติบโต q-q จากปัจจัยฤดูกาลและการปรับฐานรายได้คูเวตที่มีผลกระทบน้อยลง รวมถึงการกลับมาใช้บริการตามปกติของลูกค้าชาวพม่าและการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง

text-primary ข้อสังเกตและมุมมอง

KSS ประเมินมูลค่าหุ้น BH ด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) โดยใช้ WACC ที่ 7.1% และให้ราคาเป้าหมาย 200 บาท มองว่า BH มีความน่าสนใจจาก:

• ศักยภาพในการรักษาโรคที่มีความซับซ้อนด้วยนวัตกรรมขั้นสูง ทำให้มีตลาดเฉพาะเจาะจงและมีความอ่อนไหวต่อราคาน้อย
• ความโดดเด่นในการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่าย ส่งผลให้ EBIT margin และ EBITDA margin สูงกว่าช่วงก่อน COVID-19 และสูงกว่ากลุ่มฯ
• ราคาหุ้น BH ซื้อขายที่ PE ปี 25F ที่ 18 เท่า หรือต่ำกว่า Forward PE -2.0SD

text-primary สรุปคำแนะนำ

KSS แนะนำ "ซื้อ" หุ้น BH โดยให้ราคาเป้าหมาย 200 บาท ด้วยมุมมองที่เป็นบวกต่อศักยภาพในการเติบโตและประสิทธิภาพในการทำกำไรของบริษัทฯ