บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

SCGP รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2568 กำไรสุทธิ 1,010 ล้านบาท สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้จะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่มีสัญญาณการเติบโตที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โบรกเกอร์ บัวหลวง (BLS) มองว่าแนวโน้มกำไรจะเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 3/2568 จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจร

ไฮไลท์สำคัญ: กำไร Q2/68 เหนือความคาดหมาย

SCGP ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 ที่ 1,010 ล้านบาท ลดลง 31% YoY แต่เพิ่มขึ้น 12% QoQ หากไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน กำไรหลักจะอยู่ที่ 1,074 ล้านบาท สูงกว่าที่ BLS คาดการณ์ไว้ 11% นอกจากนี้ SCGP ยังประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2568 ที่ 0.25 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 1.3%

ผลกระทบต่อผลประกอบการ: ธุรกิจบรรจุภัณฑ์หนุนการเติบโต

ปัจจัยที่กดดันกำไรหลัก YoY ได้แก่ กำไรที่ลดลงของธุรกิจเยื่อและกระดาษ, ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจร และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น QoQ จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจร (รวมถึง Fajar) และธุรกิจรีไซเคิล ช่วยหนุนการเติบโตของกำไรหลัก โดยเฉพาะ EBITDA margin ของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจรอยู่ที่ 16% เพิ่มขึ้นจาก 14% ทั้งในไตรมาส 2/2567 และไตรมาส 1/2568

แนวโน้มในอนาคต: คาดกำไร Q3/68 เติบโต YoY

BLS คาดการณ์ว่ากำไรหลักของ SCGP จะ เติบโต YoY ในไตรมาส 3/2568 โดยมีปัจจัยหนุนจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจร (รวมถึง Fajar) ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น, ต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่ลดลง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง จะส่งผลให้ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจรมีอัตรากำไรที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม กำไรจากธุรกิจเยื่อและกระดาษมีแนวโน้มลดลง YoY ตามราคาเยื่อกระดาษที่ลดลง

คำแนะนำและการลงทุน: Let Profit Run

BLS แนะนำ "Let Profit Run" สำหรับ SCGP และทยอยสะสมในกรณีที่ตลาดปรับตัวลง โดยมองว่าการเติบโตของกำไรหลัก YoY ในครึ่งหลังของปี 2568 จะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นต่อไป ทั้งนี้ BLS ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ไว้ไม่เปลี่ยนแปลง แต่เปิดโอกาสสำหรับอัพไซด์จากการลงทุนใหม่และการเข้าซื้อกิจการ