บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

DELTA รายงานผลประกอบการ 2Q68 กำไรสุทธิลดลงจากไตรมาสก่อนและปีก่อนหน้า แม้ยอดขายจะเติบโต แต่ถูกกดดันจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม บล.เอเซียพลัส (ASPS) ยังคงราคาเป้าหมายเดิมที่ 87 บาท โดยคาดการณ์ว่ากำไรจะฟื้นตัวใน 3Q68 จากปัจจัยฤดูกาลและค่าใช้จ่ายทางกฎหมายที่ลดลง

ผลประกอบการ 2Q68: กำไรลดลงจากปัจจัยกดดันหลายด้าน

DELTA รายงานกำไรสุทธิ 2Q68 ที่ 4.6 พันล้านบาท ลดลง 16% QoQ และ 30% YoY แม้ยอดขายจะทำสถิติสูงสุดที่ 4.4 หมื่นล้านบาท (+4% QoQ, +7% YoY) จากการเติบโตของสินค้าเพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับ AI และดาต้าเซ็นเตอร์ แต่กำไรถูกกดดันจาก อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง เหลือ 25.0% จาก 25.6% ใน 1Q68 และ 26.9% ใน 2Q67 เนื่องจากเงินบาทแข็งค่าและการตั้งด้อยค่าสินค้าล้าสมัย นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร/ยอดขายที่สูงขึ้น เป็น 13.5% จาก 12.2% ใน 1Q68 และ 12.9% ใน 2Q67 เนื่องจากการตั้งสำรองหนี้และค่าใช้จ่ายยุติคดีในสหรัฐ รวมถึง อัตราภาษีจ่ายที่สูงขึ้น เป็น 14.2%

แนวโน้ม 3Q68: คาดกำไรฟื้นตัวเป็นจุดสูงสุดของปี

ASPS คาดการณ์ว่ากำไรใน 3Q68 จะฟื้นตัวดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY เนื่องจาก ยอดขายจะได้รับผลบวกจากฤดูกาล ซึ่งปกติแล้วไตรมาส 3 เป็นช่วง High season ของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนฯ นอกจากนี้ คาดว่าจะ ยังไม่ได้รับผลกระทบจากภาษีตอบโต้จากสหรัฐ เนื่องจากยอดขายส่วนใหญ่เป็นการสั่งซื้อก่อนหมดช่วงผ่อนผัน และ ไม่มีค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย ที่เกี่ยวกับคดีความในสหรัฐอีกหลังได้ไกล่เกลี่ยและจ่ายเงินชดเชยยุติคดี

ASPS คงราคาเป้าหมาย 87 บาท อิง PER 52.1 เท่า

ASPS ยังคงประมาณการกำไรทั้งปี 2568 ที่ 2 หมื่นล้านบาท (+10% YoY) และราคาเป้าหมายเดิมที่ 87 บาท (อิง PER 52.1 เท่า, -1.0 S.D) โดยเชื่อว่ากำไรของ DELTA จะฟื้นตัวดีขึ้นและแตะจุดสูงสุดของปีใน 3Q68 ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายมี upside หากประเด็นเรื่องภาษีตอบโต้จากสหรัฐออกมาในเชิงบวก (หากอัตราภาษีของไทยต่ำกว่า 36% และอยู่ในระดับที่แข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้)

ข้อสังเกตและปัจจัยเสี่ยง

ASPS ให้ข้อสังเกตว่า DELTA อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและต้องปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ ยอดขายส่วนใหญ่เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

สรุป

DELTA กำไร 2Q68 ลดลงจากหลายปัจจัยกดดัน แต่ ASPS ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มใน 3Q68 และคงราคาเป้าหมายเดิมที่ 87 บาท โดยมีปัจจัยบวกจากฤดูกาล ค่าใช้จ่ายทางกฎหมายที่ลดลง และโอกาสจากประเด็นภาษีตอบโต้จากสหรัฐ