บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เตรียมรับรู้กำไรพิเศษจากการเข้าซื้อโรงกลั่น CAP ในสิงคโปร์ หนุนผลประกอบการ Q2/25 แต่แนวโน้ม Q3/25 อาจชะลอตัวเนื่องจากแผนซ่อมบำรุงใหญ่

ไฮไลท์สำคัญ

บมจ.ไทยออยล์ (TOP) คาดการณ์ผลประกอบการ Q2/25 เติบโตจากกำไรพิเศษจากการซื้อโรงกลั่น Chandra Asri (CAP) ในสิงคโปร์ แต่ธุรกิจหลักยังถูกกดดันจากขาดทุนสต็อกน้ำมัน

ส่วนเนื้อหา

บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์กำไรสุทธิ Q2/25 ของ TOP อยู่ที่ 5.6 พันล้านบาท ทรงตัว YoY แต่ +59% QoQ จากส่วนแบ่งกำไรพิเศษจาก CAP จำนวน 5.5 พันล้านบาท ซึ่งชดเชยผลกระทบจากธุรกิจอื่นที่กำไรเพียงเล็กน้อยเนื่องจากขาดทุนสต็อกน้ำมันจำนวนมาก

หยวนต้าประเมิน Market GIM ที่ US$7/bbl (vs US$5.4/bbl ใน 1Q25) หนุนจากค่าการกลั่นที่เร่งตัวขึ้นตามทิศทาง Crack Spread น้ำมันสำเร็จรูปทุกชนิด โดยเฉพาะน้ำมันเบนซินและน้ำมันเตา

นอกจากนี้ ยังมีกำไรจากธุรกรรมซื้อคืนหุ้นกู้ 1.5 พันล้านบาท แต่ถูกหักล้างด้วยขาดทุน FX และ Hedging ราว 540 ล้านบาท และขาดทุนสต็อกน้ำมันรวม NRV ราว 4 พันล้านบาท

ข้อสังเกตุ

แนวโน้ม Q3/25 คาดว่าจะชะลอตัว QoQ เนื่องจากเป็นช่วงปิดซ่อมบำรุงใหญ่ของหน่วยกลั่นที่ 3 ในเดือนกรกฎาคม ทำให้อัตราการกลั่นลดลงเหลือ 80-90% จากระดับ 113% และค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้น

การกลับมาเปิดใช้งานท่อ SBM-2 ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม หากล่าช้าจะกระทบกำไร 120 ล้านบาท/เดือน

สรุป

หยวนต้าคงคำแนะนำ "TRADING" สำหรับ TOP โดยให้ราคาเหมาะสม 29.00 บาท เนื่องจากกำไรพิเศษดังกล่าวเป็น Non-cash และแนวโน้ม Q3/25 ไม่เด่นเท่าคู่แข่ง นักลงทุนอาจรอจังหวะเก็งกำไรเงินปันผล 1H25 ซึ่งคาดว่าจะประกาศหลังรายงานงบการเงินวันที่ 13 ส.ค.

ประเมิน Yield 2-3%