https://aio.panphol.com/assets/images/community/7672_794F7F.png

AOT กำไร Q3/68 ลดลง KGI ปรับราคาเป้าหมายเป็น 34 บาท

P/E 41.77 YIELD 1.53 ราคา 53.00 (0.00%)

text-primary KGI ยังคงคำแนะนำ "Neutral" สำหรับ AOT โดยปรับราคาเป้าหมายเป็น 34 บาท มองผลกระทบจากการเปลี่ยนเป็นระบบแบ่งรายได้

text-primary คาดการณ์กำไรที่ลดลง

KGI คาดการณ์ว่า AOT จะรายงานกำไรสุทธิสำหรับ FY3Q25F ที่ 3.83 พันล้านบาท (-16.1% YoY, -24.3% QoQ) คิดเป็น 20.1% ของประมาณการทั้งปีที่ 19.0 พันล้านบาท (-0.7% YoY) โดยกำไรสุทธิ FY9M25F คิดเป็น 74.7% ของประมาณการทั้งปี

text-primary การเปลี่ยนแปลงสู่ระบบแบ่งรายได้

KGI คาดการณ์การเปลี่ยนแปลงจากระบบประกันรายได้ขั้นต่ำ (minimum guarantee) ไปสู่ระบบแบ่งรายได้ที่ 20% ยังคงคำแนะนำ "Neutral" โดยปรับราคาเป้าหมายด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) เป็น 34.00 บาท (จากราคาเป้าหมายเดิมที่ 29.00 บาท)

text-primary ข้อสังเกตและปัจจัยที่ต้องจับตา

  • ผลสรุปจากที่ปรึกษาอิสระ: King Power ได้ร้องขอให้แก้ไขข้อตกลงสัมปทานปลอดภาษี AOT จึงได้ว่าจ้างที่ปรึกษามาศึกษาประเด็นนี้ และคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนกันยายนหรือตุลาคม ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายอาจดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ (เช่น การจ่ายเงินประกันขั้นต่ำที่ต่ำลงจากสัญญาเดิม)
  • โอกาสในการปรับขึ้นค่า PSC: KGI เชื่อว่า AOT จะปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสาร (PSC) สำหรับเส้นทางระหว่างประเทศ ในประเทศ และ transit/transfer ในระยะยาว เพื่อสะท้อนการลงทุนในท่าอากาศยานต่างๆ เช่น สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต เพื่อยกระดับสู่มาตรฐานสากล ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อกำไรของ AOT

text-primary สรุป

KGI ยังคงประมาณการกำไรปี FY25F และ FY26F โดยมองว่าสัญญาของ King Power จะไม่ถูกยกเลิก และ AOT ยังคงได้รับการชำระเงินจากสัมปทานปลอดภาษีจาก King Power นอกจากนี้ KGI คาดการณ์การเปลี่ยนแปลงจากระบบประกันรายได้ขั้นต่ำ ไปสู่การแบ่งรายได้ที่ 20% สำหรับสัญญา สัมปทานที่เหลือจากปี FY26F (เริ่มตั้งแต่ตุลาคม 2025) โดยมีสมมติฐานว่า AOT และ King Power จะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

โพสต์ล่าสุด