บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
CBG: KGI ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568 แม้ผลงาน Q2/25 ดีกว่าคาด
P/E 15.03 YIELD 2.92 ราคา 44.50 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ
KGI ปรับลดคำแนะนำ CBG เป็น "Neutral" คงราคาเป้าหมายที่ 52.00 บาท แม้คาดการณ์กำไรสุทธิ Q2/25 อยู่ที่ 805 ล้านบาท (+6% QoQ, +17% YoY) แต่ยังต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์เล็กน้อย
ผลการดำเนินงานและแนวโน้ม
KGI คาดการณ์ว่า CBG จะรายงานกำไรสุทธิ text-primary Q2/25 ที่ 805 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% QoQ จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาลของสินค้าแบรนด์ตนเอง และรายได้จากการจัดจำหน่ายสินค้าของบุคคลที่สาม นอกจากนี้ ยังเพิ่มขึ้น 17% YoY จากยอดขายในประเทศที่แข็งแกร่ง การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และประสิทธิภาพด้านต้นทุน อย่างไรก็ตาม การเติบโตอาจถูกกดดันจากการขนส่งที่ล่าช้า การแข่งขันที่สูงขึ้น และต้นทุนค่าขนส่งที่อาจเพิ่มขึ้น
KGI คาดการณ์ว่า CBG อาจปรับลดเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดปี 2568 ลงเหลือ 27% จากเดิม 29% เนื่องจากสภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย กำไรหลัก text-primary 1H25 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท (+19% YoY) คิดเป็น 51% ของประมาณการของ KGI และ 49% ของประมาณการของตลาด KGI มองว่าการเติบโตของกำไรใน 2H25 จะเป็นไปอย่างท้าทาย HoH จากปัจจัยด้านฤดูกาล (ฤดูฝน การส่งออกที่อ่อนแอ) และการแข่งขันที่สูงขึ้น แม้ว่าราคาtext-primary น้ำตาลและอลูมิเนียมจะลดลงก็ตาม
โรงงานร่วมทุนในย่างกุ้ง (เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนกรกฎาคม 2568) และพนมเปญ (คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนธันวาคม 2568) จะช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น 100–150bps ในระยะยาว
ข้อสังเกต
KGI มองว่าแนวโน้มการเติบโตของ CBG ชะลอตัวลงในประเทศไทย และยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับส่วนแบ่งการตลาด นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในกัมพูชา (20% ของยอดขาย, ~25% ของกำไรสุทธิ) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าหุ้นและนำไปสู่การปรับลดประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายเพิ่มเติม KGI มองว่าความเสี่ยงและผลตอบแทนจะเอื้ออำนวยก็ต่อเมื่อปัญหาในกัมพูชาได้รับการแก้ไขแล้วเท่านั้น
ความเสี่ยง: การแข่งขันที่สูงขึ้น ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว พฤติกรรมผู้บริโภค และการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนวัตถุดิบ
สรุป
KGI คงคำแนะนำ "Neutral" สำหรับ CBG โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 52.00 บาท อิงจาก PE 17x (-1.5SD จากค่าเฉลี่ยในอดีต 3 ปี) KGI มองว่าการเติบโตที่ชะลอตัวในประเทศไทย ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับส่วนแบ่งการตลาด และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในกัมพูชา อาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าหุ้น