บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

text-primary ไฮไลท์สำคัญ

Krungsri Securities (KSS) คาดการณ์กำไรสุทธิของ BA ใน Q2/25F จะอยู่ที่ 399 ล้านบาท ลดลง 44% YoY และ 76% QoQ อย่างไรก็ตาม KSS ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 23.50 บาท มองว่ากำไรใน Q3/25F จะฟื้นตัวโดดเด่นกว่ากลุ่ม เนื่องจากเป็นช่วง High season ของเกาะสมุย

text-primary คาดการณ์กำไร Q2/25F

KSS คาดการณ์กำไรสุทธิ Q2/25F ที่ 399 ล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษ คาดกำไรปกติอยู่ที่ 447 ล้านบาท ลดลง YoY เนื่องจากรายได้ลดลง 3% จากฐานที่สูงในปีก่อน และอัตรากำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อยจาก 23.4% เป็น 22.5% เนื่องจากอัตราบรรทุกผู้โดยสารลดลงจาก 79% เป็น 78% แม้ว่าราคาน้ำมันจะลดลง แต่ต้นทุนบริการเพิ่มขึ้นจากการกลับสู่สถานการณ์ปกติหลัง COVID-19 คลี่คลาย นอกจากนี้ กำไรยังลดลง QoQ ตามฤดูกาลที่เป็น Low season ของธุรกิจการบิน

สำหรับครึ่งปีแรก 25F KSS คาดกำไรสุทธิ 2,074 ล้านบาท ลดลง 20% YoY และกำไรปกติ 2,101 ล้านบาท ลดลง 14% YoY

text-primary แนวโน้ม Q3/25F และปัจจัยสนับสนุน

KSS คาดว่ากำไร Q3/25F จะฟื้นตัว QoQ อย่างโดดเด่น เนื่องจากเป็น High season ของการท่องเที่ยวเกาะสมุย ซึ่งเป็นเส้นทางบินหลักของ BA (70% ของรายได้ธุรกิจสายการบิน) ข้อมูลเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่ายอดผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันของสนามบินสมุยในเดือนกรกฎาคม 25 เพิ่มขึ้น 12% จาก Q2/25 ในขณะที่ 6 สนามบินของ AOT ลดลง 3%

KSS คาดการณ์กำไรปกติ Q3/25F ที่ 792 ล้านบาท ลดลง 8% YoY แต่เพิ่มขึ้น 77% QoQ ทำให้กำไรปกติ 9 เดือนแรกของปี 25F อยู่ที่ 2,893 ล้านบาท ลดลง 13% YoY ทั้งนี้ KSS ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 25F ที่ 3,144 ล้านบาท ลดลง 17% YoY และกำไรปกติ 3,138 ล้านบาท ลดลง 18% YoY เนื่องจากรายได้ทรงตัวจากฐานที่สูงในปีก่อน ขณะที่ต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการกลับสู่สถานการณ์ปกติหลัง COVID-19 คลี่คลาย

text-primary คำแนะนำและเหตุผล

KSS ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ BA โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 23.50 บาท (DCF, WACC 7.9%) และยังคงเลือก BA เป็นหุ้น Top pick ของกลุ่มฯ เนื่องจากมีปัจจัยบวกจากเส้นทางบินหลัก (เข้า-ออกสมุย) ที่มี Catalyst บวกจากซีรีย์ The White Lotus และกลุ่มเป้าหมาย (ยุโรป) ยังเติบโต ทำให้มี Downside น้อยกว่ากลุ่มฯ หากยอดนักท่องเที่ยวปี 25F ต่ำกว่าคาด นอกจากนี้ ฝูงบินขนาดเล็ก (25 ลำ) ยังเหมาะสำหรับช่วง Demand ชะลอตัว และมีโครงการซื้อหุ้นคืน (2 มิ.ย.-2 ธ.ค.25) จำนวนไม่เกิน 64 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท (หรือคิดเป็นราคาเฉลี่ย 15.60 บาท/หุ้น)

ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E’25F ต่ำกว่า -1SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต และคาดการณ์ Div Yield ที่ระดับ 5% ต่อปี