บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
BTG กำไร Q2/25 พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ FSSIA ปรับลดคำแนะนำเป็น "ถือ"
P/E 5.07 YIELD 2.87 ราคา 17.50 (0.00%)
text-primary FSSIA คาดกำไร Q2/25 ทำสถิติสูงสุด แต่เตือนความเสี่ยงนำเข้าหมูจากสหรัฐฯ
FSSIA คาดการณ์กำไรสุทธิของ BTG ใน Q2/25 จะทำสถิติสูงสุดที่ 2.53 พันล้านบาท (+33% q-q, +303% y-y) จากราคาหมูที่สูงขึ้นในไทยและกัมพูชา หนุนรายได้โต 4% q-q และ 16% y-y คาดปริมาณขายไก่เพิ่มขึ้นจากการส่งออกไป EU และอาหารสัตว์ ขณะที่ปริมาณขายหมูอาจลดลงเล็กน้อยเนื่องจากความต้องการในประเทศอ่อนแอลง คาดอัตรากำไรขั้นต้น (gross margin) สูงสุดในรอบ 11 ไตรมาสที่ 19.8% จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงต่อเนื่อง
text-primary กำไรอาจแตะจุดสูงสุดใน Q2/25
FSSIA ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ขึ้นเป็น 7.6 พันล้านบาท จากเดิม 4 พันล้านบาท โดยกำไรสุทธิครึ่งปีแรกคิดเป็น 58% ของประมาณการทั้งปี อย่างไรก็ตาม คาดว่า Q2/25 จะเป็นจุดสูงสุดของปีนี้ และกำไรใน Q3/25 อาจลดลง q-q จากราคาหมูในไทยที่ลดลง (-6% m-m, +13% y-y) แม้ BTG จะมองว่าเป็นการลดลงชั่วคราวและคาดว่าจะฟื้นตัวใน Q4/25
text-primary มุมมองระมัดระวังต่อราคาเนื้อสัตว์ในครึ่งปีหลัง
FSSIA มีมุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับราคาเนื้อสัตว์ในครึ่งปีหลัง เนื่องจากความต้องการในประเทศที่อ่อนแอและต้นทุนการผลิตที่ลดลงของผู้เล่นรายใหญ่ ตามราคาวัตถุดิบที่ลดลง ต้นทุนการผลิตสุกรของผู้ผลิตรายใหญ่อยู่ที่ประมาณ 63-65 บาท/กก. แต่ BTG ชี้ว่าต้นทุนอาจต่ำกว่า 60 บาท/กก. ซึ่งอาจนำไปสู่แรงกดดันในการขายที่เพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตรายใหญ่ เนื่องจากส่วนใหญ่อยู่ในสถานะที่มีกำไรดีในราคาล่าสุด นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาคือ ความเป็นไปได้ในการนำเข้าหมูจากสหรัฐฯ ซึ่งยังคงเป็นความเสี่ยง
text-primary ปรับลดคำแนะนำเป็น "ถือ"
FSSIA ปรับลดคำแนะนำสำหรับ BTG เป็น "ถือ" โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2569 ที่ 27 บาท (อิงจาก P/E 12 เท่า) แม้ว่าราคาหุ้นจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญและซื้อขายที่ P/E ปี 2569 เพียง 7.9 เท่า แต่ในระยะสั้น ภาคเนื้อสัตว์ยังขาดปัจจัยกระตุ้น กำไรน่าจะสูงสุดใน Q2/25 และราคาเนื้อสัตว์เริ่มอ่อนตัวลง นอกจากนี้ การนำเข้าหมูจากสหรัฐฯ ที่อาจเกิดขึ้นยังคงเป็นความเสี่ยงขาลงสำหรับราคาหมูในไทย หากการนำเข้าหมูจากสหรัฐฯ ทำให้ราคาหมูในไทยลดลง 10% อาจส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิของ BTG ประมาณ 7.3%