บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

KGI คาดการณ์ผลกำไรหลักของ DELTA ใน Q2/25 จะลดลง YoY แม้ว่ายอดขายจะแข็งแกร่งจากความต้องการที่มั่นคงและคำสั่งซื้อที่เข้ามา แต่ GPM ที่อ่อนตัวลง และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับปัญหาด้านสิทธิบัตรจะส่งผลกระทบต่อกำไร ด้วยแนวโน้มที่ไม่สดใสสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ใน 2H25F และคำสั่งซื้อที่เข้ามาใน 1H25 ทาง KGI จึงยังคงคำแนะนำ Underperform โดยมีราคาเป้าหมายสิ้นปี 2525 ที่ 67.00 บาท

ผลกระทบต่อผลประกอบการ

KGI คาดการณ์ว่า DELTA จะรายงานผลกำไรหลักใน Q2/25 ที่ 5.2 พันล้านบาท (-12% YoY, +5% QoQ) จากยอดขายที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะทำให้ผลกำไรหลักใน 1H25 อยู่ที่ 10.2 พันล้านบาท (+5% YoY) คิดเป็น 56% ของประมาณการทั้งปีของ KGI ยอดขายที่แข็งแกร่งมาจากศูนย์ข้อมูล ในขณะที่ยานยนต์ยังคงอ่อนแอ KGI คาดการณ์ยอดขายใน Q2/25 ที่ 45 พันล้านบาท (+8% YoY, +5% QoQ) หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ยอดขายคาดว่าจะอยู่ที่ 1,332 ล้านเหรียญสหรัฐ (+18% YoY, +7% QoQ) จากความต้องการที่แข็งแกร่งจากศูนย์ข้อมูลและคำสั่งซื้อที่เข้ามา ซึ่งจะทำให้ยอดขายใน 1H25 อยู่ที่ 2,577 ล้านเหรียญสหรัฐ (+18% YoY) คิดเป็น 51% ของประมาณการทั้งปี

ข้อสังเกต

KGI เชื่อว่าส่วนผสมผลิตภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์ (เน้นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง) ที่สนับสนุนความสามารถในการทำกำไรจะถูกหักล้างโดย i) ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น (ค่าเฉลี่ย QTD FX อยู่ที่ 33.1 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับ 36.3 บาท/ดอลลาร์สหรัฐใน Q2/24 และ 33.6 บาท/ดอลลาร์สหรัฐใน Q1/25), ii) การปรับวัตถุดิบ และ iii) การตั้งสำรองสินค้าคงคลังจากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่อ่อนแอลง ดังนั้น KGI คาดการณ์ว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน Q2/25 จะลดลงเหลือ 25.4% (-1.5 ppts YoY, -0.2 ppts QoQ) ซึ่งหมายถึงอัตรากำไรขั้นต้นใน 1H25 ที่ 25.5% (+1.4 ppts YoY) เทียบกับสมมติฐานทั้งปีของ KGI ที่ 25.1% และคำแนะนำของบริษัทที่ 25.0% นอกจากนี้ อาจมีค่าใช้จ่ายบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับค่าธรรมเนียมทางกฎหมายและการชดเชยจากปัญหาด้านสิทธิบัตร (ระหว่าง DELTA Electronics Inc. (2308.TT) และ Vicor Corporation) บันทึกใน Q2/25

Valuation & Action

KGI ยังคงคำแนะนำ Underperform โดยมีราคาเป้าหมายสิ้นปี 2525 ที่ 67.00 บาท อิงตาม PER 46.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต) ความเสี่ยง ได้แก่ ภัยธรรมชาติ, การหยุดทำงานของโรงงานโดยไม่ได้วางแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปใช้ซัพพลายเออร์รายอื่น, การขาดแคลนวัตถุดิบ, ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น