บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ: AOT กำไรสุทธิปี 2568 โตต่อเนื่อง

PhillipCapital คาดการณ์กำไรสุทธิของ AOT ในปี 2568 จะเติบโต 26.4% จากปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของผู้โดยสารและเที่ยวบินที่ 16.4% และ 14.8% ตามลำดับ ตามการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว แม้รายได้จะหายไปบ้างจากการขอคืนพื้นที่กลุ่มคิงเพาเวอร์และการยกเลิกดิวตี้ฟรีขาเข้า พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 73.00 บาท

รายละเอียดการวิเคราะห์ PhillipCapital

PhillipCapital (PST) คาดการณ์กำไรสุทธิของ AOT ในไตรมาส 1 ปี 2568 จะอยู่ที่ 5,769 ล้านบาท โตทั้ง y-y และ q-q โดยมีปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของผู้โดยสาร (+16.4%) ที่ 33.62 ล้านคน (Inter +23.4%, Dom +6.6%) และเที่ยวบิน (+14.8%) (Inter +21.7%, Dom +6.6%) ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม การขอคืนพื้นที่จากกลุ่มคิงเพาเวอร์และการยกเลิกดิวตี้ฟรีขาเข้า ทำให้รายได้บางส่วนหายไป คาดรายได้รวม +16.8% y-y ที่ 18,344 ล้านบาท และต้นทุนคาด +12.5% จากค่าเสื่อมของรันเวย์ 3 ที่เปิดใช้ในเดือนพฤศจิกายน และค่าใช้จ่ายที่ผันแปรตามจำนวนผู้โดยสาร รวมถึงค่าใช้จ่ายพนักงาน +16.7% ทั้งจากขึ้นเงินเดือน ทยอยตั้งโบนัส และพนักงานบริษัทย่อยที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ PST ยังคาดการณ์ว่าไตรมาส 2 ปี 2568 ยังคงเป็นช่วง High Season ต่อเนื่อง โดยตัวเลข 1-11 ม.ค. ผู้โดยสาร +18.4% และเที่ยวบิน +16.4% y-y ยังเติบโตจาก Inter เป็นหลัก แต่ปี 2567 กำไรฐานสูงจากการบันทึกรายได้บริการค้างรับ เทียบปี 2568 ที่มีผลกระทบขอคืนพื้นที่และยกเลิกดิวตี้ฟรีขาเข้า ต้องดูตัวเลขการโตของเที่ยวบิน-ผู้โดยสารทั้งไตรมาสถึงจะบอกแนวโน้มได้ดีขึ้น

วิธีคิด: PhillipCapital ประเมินจากแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวที่ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะมีปัจจัยลบจากการขอคืนพื้นที่และการยกเลิกดิวตี้ฟรี แต่การเติบโตจาก Inter ยังคงเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ นอกจากนี้ PST ยังพิจารณาถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดใช้รันเวย์ 3 และค่าใช้จ่ายพนักงานที่สูงขึ้นด้วย

สรุปและคำแนะนำ

PhillipCapital มองว่า AOT ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2568 จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะมีปัจจัยลบเข้ามากระทบบ้าง พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 73.00 บาท