บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
PTG กำไรแผ่ว แต่ Non-Oil เด่น! เคSecurities ชี้เป้า 8.10 บาท
P/E 12.41 YIELD 5.04 ราคา 6.95 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ:
PTG กำไรธุรกิจน้ำมันชะลอตัว แต่ธุรกิจ Non-Oil โดดเด่น โดยเฉพาะกาแฟพันธุ์ไทยที่ยังคงเติบโตได้ดี แม้การบริโภคภายในประเทศจะอ่อนแอ แต่ PTG ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยอย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจน้ำมันชะลอ แต่ Non-Oil เด่น:
KSecurities ประเมินว่าโทนโดยรวมจากการประชุมนักวิเคราะห์ของ PTG เป็นกลาง โดยผู้บริหารยังคงมุมมองระมัดระวังต่อธุรกิจน้ำมันจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งส่งผลลบต่อยอดขายน้้ามัน ราคาน้ำมันดิบที่ลดลง 14% ขณะที่ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลยังคงทรงตัวอยู่ที่ 31.94 บาทต่อลิตรตั้งแต่เดือน เม.ย. 2568 อย่างไรก็ตาม ธุรกิจ Non-Oil คาดว่าจะเติบโตได้แข็งแกร่งหนุนจากกาแฟพันธุ์ไทย
การลดลงของกำไร มีปัจจัยกดดันจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น และปริมาณการขายน้ํามันที่ลดลงสะท้อนจากความต้องการใช้น้ํามันในประเทศที่อ่อนแอลง แต่อัตรากําไรของน้ํามันปรับตัวดีขึ้นภายใต้กรอบราคาที่ถูกกําหนด
ผู้บริหารคาดว่าอัตรากําไรน้ํามันใน Q2/2568 จะขยายตัว แต่ในระยะยาวคาดว่าจะอยู่ในระดับล่างของช่วงปกติราว 1.7-1.8 บาทต่อลิตร เนื่องจากรัฐบาลมีแนวโน้มจะจัดเก็บเงินเพื่อฟื้นฟูกองทุนน้ํามันเชื้อเพลิง
ข้อสังเกตและกลยุทธ์:
แม้การบริโภคภายในประเทศจะอ่อนแอ ผู้บริหารยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย โดยตั้งเป้าเปิด 600 สาขาในปี 2568 จาก 465 สาขาในปี 2567 เนื่องจากธุรกิจกาแฟยังคงมีความน่าสนใจ ด้วย SSSG ที่แข็งแกร่งราว 50% และการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSS Growth) ที่เติบโตต่อเนื่องมากกว่า 35%
PTG ยังคงสามารถขยายส่วนแบ่งตลาดขายปลีกน้ํามันใน Q1/2568 ขึ้นเป็น 22.1% จาก 21.9% ใน Q4/2567 ซึ่งผู้บริหารคาดว่าแนวโน้มดังกล่าวจะต่อเนื่องไปยังปี 2568 แม้ว่าผู้ค้ารายใหญ่จะเริ่มใช้กลยุทธ์ด้านราคาใน Q2/2568 โดยให้ส่วนลดน้ํามันเบนซินประมาณ 0.5-3 บาทต่อลิตร แต่ผลกระทบต่อ PTG ยังมีจํากัด เนื่องจากน้ํามันเบนซินคิดเป็นเพียงประมาณ 25-30% ของปริมาณการขายน้ํามันทั้งหมด
สรุปและคำแนะนำ:
KSecurities แนะนำ "ซื้อ" PTG โดยให้ราคาเป้าหมาย 8.10 บาท เนื่องจากหุ้นยังมี Upside 33% และแนวโน้มกําไรปี 2568 ที่แข็งแกร่งขึ้น พร้อมกับ Valuation ที่น่าสนใจ โดยมี P/E ปี 2568 ที่ 10.6 เท่า