บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

มายแบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ปรับลดคำแนะนำสำหรับหุ้น PTTGC เป็น "ขาย" โดยยังคงราคาเป้าหมายเดิมที่ 16 บาท มองว่าตลาดคาดหวังมากเกินไปเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน

แนวโน้มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี

มายแบงก์ฯ คาดการณ์ว่าภาวะขาลงของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีจะยังคงยืดเยื้อไปอย่างน้อยถึงปี 2571 เนื่องจากการเพิ่มกำลังการผลิตจำนวนมาก ขณะที่การปิดกำลังการผลิตมีจำกัด โดยเฉพาะในสายผลิตภัณฑ์เอทิลีนและโพรพิลีน

นอกจากนี้ มาตรการกีดกันทางการค้า การปรับเปลี่ยนโรงงานให้ใช้วัตถุดิบที่แข่งขันได้มากขึ้น และการที่ผู้ประกอบการยังสามารถขายสินทรัพย์ที่ไม่ต้องการได้ ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้การปิดโรงงานเป็นไปได้ยาก

ในด้านอุปสงค์ แนวโน้มประชากรที่เปลี่ยนแปลง ความไม่แน่นอนทางการค้า และกระแสรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ผลักดันให้ใช้พลาสติกรีไซเคิล อาจทำให้อัตราการเติบโตของความต้องการพลาสติกใหม่ชะลอตัวลง

ข้อสังเกตเกี่ยวกับ PTTGC

แม้ PTTGC จะซื้อขายที่ระดับ P/BV เพียง 0.35 เท่า แต่เมื่อปรับด้วยการหักค่าความนิยม (Goodwill) และสินทรัพย์ไม่มีตัวตนอื่น ๆ แล้ว มายแบงก์ฯ คาดว่าหุ้นมีการซื้อขายที่ระดับ P/Tangible BV ที่ 0.68 เท่า ซึ่งถือว่าแพงเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีปลายน้ำของไทย

มายแบงก์ฯ แนะนำให้เน้นการลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น SPRC (SPRC TB, คำแนะนำ “ซื้อ”, ราคาเป้าหมาย 9.10 บาท) ซึ่งเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มนี้

สรุป

มายแบงก์ฯ ปรับลดคำแนะนำ PTTGC เป็น "ขาย" ด้วยราคาเป้าหมาย 16 บาท เนื่องจากมองว่าภาวะขาลงของอุตสาหกรรมปิโตรเคมียังคงยืดเยื้อ และ PTTGC ไม่มีความน่าสนใจเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับหุ้นอื่นในกลุ่ม