https://aio.panphol.com/assets/images/community/6947_5AB96E.png

CCET: หยวนต้าวิเคราะห์แนวโน้มผลกระทบสงครามการค้าต่อ Cal-Comp Electronics

P/E 22.25 YIELD 4.20 ราคา 4.76 (0.00%)

ไฮไลท์สำคัญ

บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดทำบทวิเคราะห์ Cal-Comp Electronics (CCET) โดยมีมุมมองที่เป็นกลางต่อผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 2568 และเน้นถึงแผนการรับมือกับความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าที่อาจเกิดขึ้น

CCET กับแผนรับมือสงครามการค้า

CCET ได้เริ่มปรับปรุงสายการผลิตในฟิลิปปินส์เพื่อรองรับการย้ายคำสั่งซื้อจากประเทศไทย หากประเทศไทยถูกเก็บภาษีสูงขึ้น นอกจากนี้ CCET ยังพิจารณาลงทุนในสหรัฐฯ เพิ่มเติมหากจำเป็น เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่ม US โดยจะใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อลดต้นทุนค่าแรง อย่างไรก็ตาม โรงงานในจีนได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ทำให้คำสั่งซื้อลดลงในเดือนเมษายน แต่เริ่มฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของไตรมาส CCET ยังพยายามลดการพึ่งพาซัพพลายเออร์จากจีน และกระจายการสั่งซื้อไปยังตลาดอื่น ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสงครามการค้าที่อาจรุนแรงขึ้น

ข้อสังเกตและผลกระทบ

CCET ยังคงนโยบายผลักภาระภาษีให้ลูกค้า หากภาษีไม่สูงมาก ผลกระทบจะจำกัด แต่หากสูงมาก อาจกระทบต่อยอดขาย ตลาดสินค้าหลักที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือ EV Charger แต่ตลาดยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ส่วนตลาด Storage ยังได้รับการยกเว้นภาษี CCET ยังคงมุ่งหวังที่จะเติบโตในตลาด AI server ที่เป็นตลาด Enterprise ซึ่งมีอัตรากำไรสูงกว่า Consumer market โรงงานเพชรบุรี (โรง15) เริ่มผลิตแล้ว และลูกค้ายังไม่ได้เลื่อนคำสั่งซื้อ ส่วนโรงงานใหม่ในบราซิลอยู่ระหว่างรอการทดลองผลิต ซึ่งจะช่วยให้อัตรากำไรของธุรกิจในบราซิลดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในไตรมาส 2 ปี 2568 รายได้เดือนเมษายนลดลง 8% YoY เนื่องจากลูกค้าบางส่วนกังวลเรื่องสงครามการค้า แต่บริษัทคาดว่ารายได้จะทยอยฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของไตรมาส

สรุปและคำแนะนำ

หยวนต้ายังไม่มีประมาณการและคำแนะนำอย่างเป็นทางการสำหรับ CCET แต่เบื้องต้นคาดการณ์กำไรปกติปี 2568 ที่ +/-3.5 พันล้านบาท หรือกำไรโต 11% YoY คิดเป็น EPS25 ที่ราว 0.33 บาทต่อหุ้น ราคาหุ้นที่ 5.75 บาทต่อหุ้น คิดเป็น PER ราว 17x ซึ่งไม่ถูกไม่แพงสำหรับกลุ่ม Consumer Electronics เชิงกลยุทธ์ ตลาดรอความชัดเจนเรื่องสงครามการค้าในการเจรจาของไทยก่อนกลับเข้าเก็งกำไรอีกครั้ง คาดว่าหุ้นจะแกว่งออกข้างไปอีกระยะ ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) ค่าเงินบาท/USD 2) เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย และ 3) สงครามการค้าเร่งตัวขึ้น

โพสต์ล่าสุด