บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
LALIN Oppday Q1/2568: เปิดแผนธุรกิจอสังหาฯ รับมือตลาดผันผวน พร้อมจ่ายปันผล 7%
P/E 9.48 YIELD 7.00 ราคา 4.86 (0.00%)
LALIN Oppday Q1/2568: เปิดแผนธุรกิจอสังหาฯ รับมือตลาดผันผวน พร้อมจ่ายปันผล 7%
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใน Q1/2568 มีการปรับตัวลดลง โดยมีปัจจัยจากตัวเลขจดทะเบียนและโอนกรรมสิทธิ์ที่ลดลง
- การโอนกรรมสิทธิ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลลดลง 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
- อาคารชุดลดลง 13.6%
- ตลาดแนวราบลดลง 16.6%
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้มีการปรับตัวลดลงเช่นกัน แต่ในอัตราส่วนที่น้อยกว่า คือประมาณ 10% ซึ่งถือว่าปรับตัวได้ดีกว่าภาพรวมตลาด
ตัวเลขจดทะเบียนใน Q1/2568 มีจำนวน 11,145 หน่วย ลดลง 41% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
- อาคารชุดลดลง 28%
- ตลาดแนวราบลดลงถึง 56%
รายได้รวมใน Q1/2568 อยู่ที่ 726.4 ล้านบาท ลดลง 22% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 281.9 ล้านบาท ลดลงราว 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ค่าใช้จ่ายในการขายลดลง 20.7% อยู่ที่ 59.8 ล้านบาท
กำไรสุทธิอยู่ที่ 93.4 ล้านบาท ลดลง 39% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 13% เมื่อเทียบกับ Q1/2567
Q1/2568 Gross Profit Margin ยังยืนในระดับที่ค่อนข้างดี ใกล้เคียง 39%
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
ลลิลฯ เน้นพัฒนาโครงการแนวราบระดับ Middle-Low ถึง Middle-High ภายใต้แบรนด์ต่างๆ เช่น Lio, Lancia, และบ้านลลิล
ปัจจุบันมี Active Project ทั้งหมด 79 โครงการ โดย 60 โครงการอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และ 19 โครงการในจังหวัดอื่นๆ
- ชลบุรี 9 โครงการ
- ระยอง 3 โครงการ
- ฉะเชิงเทรา 2 โครงการ
- นครราชสีมา 1 โครงการ
- สมุทรสาคร 2 โครงการ
- ราชบุรี 2 โครงการ
บริษัทเปิดโครงการใหม่มูลค่าไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา
ปี 2568 บริษัทเปิดทั้งหมด 8 โครงการ มูลค่ารวม 5,120 ล้านบาท (6 โครงการในกรุงเทพฯ และ 2 โครงการในต่างจังหวัด)
แผนการเปิดโครงการใหม่ใน Q2/2568 อีก 1 โครงการ มูลค่า 400 ล้านบาท
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันสูง และมีแนวโน้มการปรับลดลงของ Demand และ Supply
Rejection Rate ปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง ประมาณ 30%
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
บริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษา Gross Profit Margin ให้อยู่ในระดับที่ดี
บริษัทพยายาม Lean ค่าใช้จ่ายในส่วนของ Admin โดยไม่มีนโยบายปลดพนักงาน แต่จะใช้การเกลี่ยงานและไม่เพิ่มคนในกรณีที่มีคนลาออก
บริษัทมีการ Monitor สถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิด และปรับแผนการเปิดโครงการใหม่ให้เหมาะสม
บริษัทให้ความสำคัญกับ Financial Discipline และควบคุม DE Ratio ให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อลดความเสี่ยงทางการเงิน
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
บริษัทตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ในปี 2568 จำนวน 6-8 โครงการ มูลค่ารวม 4,000-5,000 ล้านบาท
บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 5,000 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ 4,050 ล้านบาทในปี 2568
บริษัทคาดการณ์ว่าทิศทางของค่าใช้จ่าย Admin จะค่อยๆ ดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้น นาทีที่ 43:45
- Backlog คงเหลือ:
- คำถาม: อยากทราบ Backlog ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 และยอด Backlog ที่จะโอนในปีนี้และปีหน้า
- คำตอบ: Backlog ณ สิ้นไตรมาส 1 อยู่ที่ราว 1,000 ล้านบาท โดย Backlog ทั้งหมดมาจากธุรกิจแนวราบ ซึ่งสามารถโอนได้ในปีนี้ทั้งหมด ส่วนใหญ่จะโอนใน Q2 และบางส่วนใน Q3-Q4
- Rejection Rate:
- คำถาม: Rejection Rate ปัจจุบันเป็นอย่างไร
- คำตอบ: Rejection Rate ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง ประมาณ 30% แต่ไม่ได้สูงขึ้นกว่าช่วงปี 2566-2567
- Zero Coupon Bond:
- คำถาม: บริษัทมีการจัดหาเงินในลักษณะ Zero Coupon Bond มูลค่าเท่าไหร่
- คำตอบ: หุ้นกู้มี 2 ลักษณะคือ แบบคูปอง (จ่ายดอกเบี้ยตามกำหนด) และแบบ Discount (Zero Coupon Bond ที่ไม่จ่ายดอกเบี้ย แต่ Discount หน้าตั๋ว ณ วันที่ออก) โดยจะตรวจสอบสัดส่วนของหุ้นกู้แต่ละประเภทอีกครั้ง
- เหตุผลในการออก Zero Coupon Bond คือตอบโจทย์นักลงทุนสถาบันที่ไม่เน้น Cash Flow รายงวด และลดภาระค่าใช้จ่ายในการปิดสมุดบัญชีและโอนดอกเบี้ย
- ระยะเวลาปิดโครงการ:
- คำถาม: ลลิลมีระยะเวลาปิดโครงการเฉลี่ยประมาณกี่ปี
- คำตอบ: ระยะเวลาปิดโครงการขึ้นอยู่กับขนาดโครงการและทำเลที่ตั้ง โครงการขนาดใหญ่อาจใช้เวลา 4-5 ปีขึ้นไป ส่วนโครงการขนาดเล็กอาจใช้เวลา 2-3 ปี
- ปัจจุบันโครงการที่เปิดใหม่มีขนาดเล็กลง ทำให้คาดการณ์ว่าอายุโครงการจะสั้นลง
- อัตราการขาย:
- คำถาม: ปัจจุบันอัตราการขายเป็นอย่างไร ทำได้ตามเป้าหมายหรือไม่
- คำตอบ: อัตราการขายขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ มีทั้งโครงการที่ขายเร็วและขายช้า โครงการที่ขายดีในช่วงแรกอาจชะลอตัวลงเมื่อมีคู่แข่งเข้ามาในตลาด
หัวข้อคำถามและคำตอบ:
- Backlog คงเหลือ
- Rejection Rate
- Zero Coupon Bond
- ระยะเวลาปิดโครงการ
- อัตราการขาย
สรุป: ลลิล พร็อพเพอร์ตี้เผชิญกับความท้าทายจากตลาดอสังหาฯ ที่ชะลอตัว แต่ยังคงรักษาผลการดำเนินงานได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด โดยเน้นการบริหารจัดการต้นทุนและควบคุมความเสี่ยงทางการเงิน พร้อมทั้งปรับกลยุทธ์การพัฒนาโครงการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาด เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว