https://aio.panphol.com/assets/images/community/6746_cabd89.png

SKR Oppday Q1/2568: ศิครินทร์ มุ่งมั่นสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมรับมือความท้าทายในเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

P/E 24.15 YIELD 2.75 ราคา 7.35 (0.00%)

โอเคครับ เริ่มเลยครับ

SKR Oppday Q1/2568: ศิครินทร์ มุ่งมั่นสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมรับมือความท้าทายในเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**

ผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ของกลุ่มบริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) มีรายได้จากการรักษาพยาบาลรวม 1,511 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 12 ล้านบาท หรือ 0.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปีก่อนหน้า

สาเหตุหลักของการลดลงประกอบด้วย:

  1. รายได้ผู้ป่วย IPD ลดลง: ไตรมาสนี้ทำได้ 439 ล้านบาท ลดลง 19 ล้านบาทจากไตรมาส 1 ปีก่อน
  2. รายได้ประกันสังคมลดลง: ทำได้ 575 ล้านบาท ลดลง 11 ล้านบาทจากไตรมาสก่อน
  3. รายได้จาก Sikarin Connect ลดลง: ทำได้ 26 ล้านบาท ลดลง 3 ล้านบาทจากไตรมาส 1 ปีก่อน

อย่างไรก็ตาม รายได้จากการรักษาพยาบาลผู้ป่วย OPD เติบโตขึ้น 4.6% ทำรายได้ 471 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปีก่อน 20 ล้านบาท

EBITDA ไตรมาส 1 ปีนี้ทำได้ 416 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 1 ปีก่อน 27 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการลดลง 6% โดยมี EBITDA margin อยู่ที่ 27.2%

Net Profit ทำได้ 207 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 1 ปีก่อน 31 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการลดลง 13% แต่ยังสามารถ maintain Net Profit Margin ได้ 2 digit โดยทำได้อยู่ที่ 13.5%

การลดลงของ Net Profit มีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนในการให้บริการ โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์และแพทย์ที่เพิ่มอัตรากำลังคนเพื่อรองรับการขยายตัวของการให้บริการและรองรับการให้บริการของสถาบันการแพทย์เฉพาะทาง

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปีก่อนหน้า

ไม่มีรายการปรับปรุงใดๆ ที่เป็น One-time transaction ในไตรมาสนี้

ปัจจัยที่ทำให้รายได้ในการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นลดลงในแต่ละด้าน:

  • รายได้ OPD เพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นและรายได้เฉลี่ยต่อ visit ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในสถาบันการแพทย์เฉพาะทาง เช่น สถาบันกระดูกและข้อ และสถาบันหลอดเลือดและระบบประสาท
  • รายได้ IPD ลดลงเนื่องจากจำนวนเคสที่ลดลง แต่รายได้ IPD ต่อ admit เพิ่มขึ้นจากการรักษาโรคเฉพาะทางมากขึ้น โดยเฉพาะสถาบันกระดูกและข้อ และสถาบันทางเดินอาหารและตับ
  • รายได้ประกันสังคมลดลงเนื่องจากการลดลงของรายได้จากโครงการ MOU 5 โรคที่สิ้นสุดไปเมื่อเดือนธันวาคม 2567 และการลดลงของรายได้กลุ่ม DRG
2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**

บริษัทมองเห็นโอกาสในการเติบโตจาก:

  • การพัฒนา Center of Excellence และสถาบันการแพทย์เฉพาะทาง
  • การขยายฐานลูกค้าในกลุ่มประกันสังคม โดยเฉพาะการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง
  • การเติบโตของ Sikarin Connect หรือโรงพยาบาลเคลื่อนที่

กลยุทธ์ที่บริษัทใช้ในการคว้าโอกาส:

  • โฟกัสบน core business คือโรงพยาบาล
  • ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้จากการรักษาพยาบาลที่ 5-8%
  • พัฒนา service blueprint โดยโฟกัสที่การควบคุมต้นทุน
  • พัฒนาการสื่อสารเพื่อสร้างแบรนด์ Sikarin ให้เป็นที่รู้จักและไว้วางใจ
3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**

ความเสี่ยงที่บริษัทกำลังเผชิญ:

  • สถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน
  • การปรับอัตราจ่ายของสำนักงานประกันสังคม

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความเสี่ยง:

  • GDP อาจมีปัญหาเรื่องการเจริญเติบโต
  • รายได้จากประกันสังคมอาจลดลง
4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**

วิธีการที่บริษัทใช้ในการแก้ไขปัญหา:

  • เพิ่มจำนวนแต้มจากการรักษา
  • ควบคุมต้นทุนการรักษาพยาบาล
  • ปรับค่าธรรมเนียมแพทย์ให้เหมาะสมกับอัตราจ่ายของภาครัฐ

แผนการดำเนินการ:

  • พัฒนาศักยภาพทางการแพทย์
  • สร้าง community และให้ความรู้แก่ผู้ป่วยหลังการรักษา
  • วิเคราะห์ผลตรวจสุขภาพและนำเสนอแนวทางการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมให้กับลูกค้า
5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**

แนวโน้มของธุรกิจในอนาคต:

  • บริษัทจะโฟกัสในเรื่องของมะเร็งเพื่อรองรับการเป็นมะเร็งของกลุ่มลูกค้า
  • บริษัทจะพัฒนา Sikarin Connect หรือโรงพยาบาลเคลื่อนที่ให้สามารถตรวจสุขภาพได้ทั่วประเทศ
  • บริษัทจะให้บริการห้องพยาบาลพิเศษ (Health Plus) สำหรับอาคารขนาดใหญ่และโรงงาน

วิสัยทัศน์และเป้าหมายของบริษัท:

  • การดูแลต้องเฉพาะทางและเฉพาะคุณ
  • การยกกระดับศักยภาพทางการแพทย์
  • การสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้า
6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session):** เริ่มต้น นาทีที่ 48:30
  • **คำถาม:** ในปีนี้ทางสำนักงานประกันสังคมจะมีการปรับอัตราจ่ายโรคยาก การรักษาโรคยากที่ซับซ้อนเหมือน 2 ปีที่ผ่านมาหรือไม่
  • **คำตอบ:** ใน 6 เดือนแรกของปี 2568 มีการบันทึกการจ่ายของสำนักงานประกันสังคมอยู่ที่ 12,000 บาทต่อแต้ม ครึ่งปีหลังมีแนวทางจะปรับลดลง โดยอาจจะใช้ตัวเลขการจ่ายในปีล่าสุดเข้ามา แต่ไม่ต้องกังวล เพราะเชื่อว่าจะสามารถทำแต้มเพิ่มขึ้นได้จากการรักษา และจะทำ Cost Control เพื่อให้ margin คงที่หรือสูงขึ้น
  • **คำถาม:** จากกระแสข่าวนักท่องเที่ยวลดลง ส่งผลกับการเข้ามารักษาพยาบาลที่เครือโรงพยาบาลศิครินทร์หรือไม่
  • **คำตอบ:** มองต่างชาติเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มที่เดินทางมาท่องเที่ยวและรักษาพยาบาล กลุ่มนี้อาจจะไม่ใช่จุดแข็ง แต่กลุ่มที่สองคือกลุ่มต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย กลุ่มนี้มาใช้บริการที่ศิครินทร์ และจะเจาะตลาดนี้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะที่โรงเรียนนานาชาติที่มีอยู่รอบศิครินทร์กรุงเทพฯ ประมาณ 12 โรงเรียน และมีประกัน AXA Privilege ในเรื่องของการรักษาพยาบาล ซึ่งจะทำให้บุคลากรของโรงเรียนและนักเรียนต่างชาติเข้ามารักษาได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย
  • **คำถาม:** ในปีนี้จะมีการปรับรายการ One-time transaction อะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ นอกจากการปรับอัตราจ่าย
  • **คำตอบ:** การบันทึกบัญชีของกลุ่มศิครินทร์ค่อนข้าง Conservative ในเรื่องของรายได้ก็บันทึกตามการเข้ามาจริง ๆ ส่วนในเรื่องของรายได้ค้างรับก็มีระเบียบวิธีการในการบันทึก จากการประเมินของฝ่ายบริหารคาดว่าปีนี้การทำ One Adjust Transaction อาจจะไม่มี เพราะทุกอย่างมันมาอยู่ในสถานการณ์ที่มันไม่ได้มีอะไรเข้ามาเป็นพิเศษแล้ว ยกเว้นสิ่งที่วางไว้ก็คือการปรับอัตราจ่ายของทางสำนักงานประกันสังคม แต่ตรงนี้ก็รองรับในเรื่องของอัตรากำไรและการเติบโตของรายได้อยู่แล้ว

สรุป SKR Oppday Q1/2568

SKR ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตในธุรกิจหลักคือโรงพยาบาล โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพทางการแพทย์ การควบคุมต้นทุน และการสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้า แม้จะมีความท้าทายจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและการปรับอัตราจ่ายของสำนักงานประกันสังคม แต่บริษัทก็มีแผนการรับมือที่ชัดเจนและพร้อมที่จะคว้าโอกาสในการเติบโตในอนาคต

**หัวข้อที่ถามและคำตอบของผู้บริหาร:**
  • ผลกระทบจากการปรับอัตราจ่ายประกันสังคม
  • ผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง
  • นโยบายการเงินแบบ Conservative ของบริษัท

โพสต์ล่าสุด