บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
ถอดรหัส KGEN OPPDAY Q1/2568: เจาะลึกกลยุทธ์ธุรกิจและโอกาสเติบโตในตลาด EV
P/E -100.00 YIELD 0.00 ราคา 1.39 (0.00%)
ถอดรหัส KGEN OPPDAY Q1/2568: เจาะลึกกลยุทธ์ธุรกิจและโอกาสเติบโตในตลาด EV
1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**โครงสร้างของบริษัท KGEN ยังคงเดิม โดยแบ่งเป็น 2 ฝั่งธุรกิจหลัก คือ ฝั่งธุรกิจยานยนต์ (Automobile) และฝั่งธุรกิจโลจิสติกส์ (Logistics Provider)
ในฝั่งยานยนต์ บริษัทมีบริษัทย่อยที่ถือหุ้นอยู่คือ กลุ่ม Homoda NC ผู้ Manufacturing ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ยี่ห้อแบรนด์ Homoda NC ผู้ รวมถึงถือหุ้นในตัว Sole Distributor ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ Homoda NC ผู้ ด้วย
ในฝั่งโลจิสติกส์ บริษัทมีบริษัทย่อยคือ มนตรี ทรานสปอร์ต ซึ่งให้บริการขนส่งนักเรียน, Shuttle Bus สำหรับพนักงานบริษัท, และวารุกา 888 และมนตรี Carrier ที่ให้บริการรถหัวลากไฟฟ้าและน้ำมันในลักษณะ Commercial Logistics
ธุรกิจใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือการขายรถตู้แบรนด์ ไฟซอน ซึ่งเป็นแบรนด์ที่อยู่ในกลุ่ม Geely
2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**บริษัทมองเห็นโอกาสในการเติบโตในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และได้ลงทุนในโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยร่วมมือกับ Chery ในลักษณะ Joint Venture
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะนำรถยนต์แบรนด์ Chery เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย โดยใช้โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็นฐานการผลิต
บริษัทตั้งเป้าที่จะขยายธุรกิจโลจิสติกส์ โดยเพิ่มบริการใหม่ๆ เช่น บริการ Field Trip สำหรับรถรับส่งนักเรียนและพนักงานในช่วงวันหยุด
3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**บริษัทเผชิญกับความเสี่ยงจากการแข่งขันที่สูงในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากมีผู้เล่นรายใหม่ๆ เข้ามาในตลาดจำนวนมาก
บริษัทมีความเสี่ยงด้านผลประกอบการของธุรกิจโลจิสติกส์ เนื่องจากบางเส้นทางมีผลประกอบการขาดทุน
4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มทุนเพื่อขยายธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า โดยใช้เงินที่ได้จากการขายหุ้นเพิ่มทุนแบบ Private Placement (PP)
บริษัทมีแผนที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกิจโลจิสติกส์ โดยการ Reorganize ตัวรถในเส้นทางที่ขาดทุน และเน้นเฉพาะเส้นทางที่มีกำไร
5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**บริษัทคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
บริษัทตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายและมีคุณภาพ
6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 21:35]** * **ความกังวลและแผนรับมือใน 1-3 ปีข้างหน้า** * **คำถาม:** บริษัทมีความกังวลใดบ้างในอีก 1-3 ปีข้างหน้า และมีแผนรับมืออย่างไร? * **คำตอบ:** บริษัทเน้นธุรกิจจำหน่ายรถไฟฟ้าเป็นหลัก โดยมีความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันที่สูงในตลาดรถไฟฟ้า แต่เนื่องจากบริษัทร่วมมือกับ Chery และ Geely ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศจีน จึงมั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับการแข่งขันได้ นอกจากนี้ การได้รับการสนับสนุนด้านเทคโนโลยี, เงินทุน, และช่องทางการตลาดจากบริษัทคู่ค้าจะช่วยให้บริษัทสามารถแข่งขันในตลาดได้ * **สิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญมากที่สุดในการดำเนินธุรกิจ** * **คำถาม:** บริษัทให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากที่สุดในการดำเนินธุรกิจ? * **คำตอบ:** บริษัทเน้นธุรกิจที่เป็น Innovative และอยู่ใน Trend ของโลกในปัจจุบัน จึงหันไปทำธุรกิจรถไฟฟ้าซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในประเทศไทยและทั่วโลก นอกจากนี้ การขายรถตู้เป็นความถนัดของทีมงานในการนำเข้ารถจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศจีน * **ตัวเลข ROIC และ WACC** * **คำถาม:** ตัวเลข ROIC และ WACC อย่างละกี่เปอร์เซ็นต์? * **คำตอบ:** เนื่องจากบริษัทยังขาดทุนอยู่ ตัวเลข ROIC จึงยังไม่สามารถคำนวณได้ สำหรับอัตรากำไรขั้นต้น (Margin) ของธุรกิจโรงงานและธุรกิจประกอบรถไฟฟ้า รวมถึง Sole Distributor คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 5-15% ซึ่งขึ้นอยู่กับความนิยมของรุ่นรถที่ผลิต สำหรับ WACC ของ KGEN สามารถคำนวณได้จากข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8-10% ขึ้นอยู่กับค่าเบต้าและ Return on Market ในแต่ละช่วงเวลา- **ROIC (Return on Invested Capital):** ยังไม่สามารถคำนวณได้เนื่องจากบริษัทยังขาดทุน
- **WACC (Weighted Average Cost of Capital):** 8-10%
KGEN มุ่งเน้นการเติบโตในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า โดยใช้ความร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งในประเทศจีน พร้อมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพธุรกิจโลจิสติกส์ และเพิ่มธุรกิจใหม่เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต