บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

BYD ปรับคำแนะนำสำหรับหุ้น CCET เป็น "ซื้อ" จาก "ถือ" โดยมีราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 7.20 บาท อิงจาก PER ปี 2568 ที่ 24 เท่า แม้ราคาหุ้นจะปรับตัวลงมาจนมี Upside ที่น่าสนใจ แต่ยังมีความเสี่ยงจากประเด็นภาษีนำเข้า (Tariff) ที่ยังไม่แน่นอน

เดินหน้าเปิดโรงงานใหม่ รับมือความเสี่ยงด้านภาษี

BYD มีมุมมองเชิงบวกต่อการเปิดสายการผลิต Site 3 (โรงงาน 15) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในครึ่งหลังของปี 2568 โรงงานใหม่ในบราซิลอยู่ระหว่างการทดสอบกระบวนการผลิต หากประเทศไทยถูกกำหนดอัตราภาษีนำเข้า 36% บริษัทมีแผนสำรองย้ายกำลังการผลิตไปยังประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำกว่า เช่น ฟิลิปปินส์ บราซิล และสหรัฐอเมริกา

มุ่งผลิตสินค้า High-margin หนุนการเติบโต

บริษัทยังคงมุ่งผลิตสินค้ากลุ่มอัตรากำไรสูง (High-margin) เช่น SSD, Smart Wearable Devices, อุปกรณ์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และเครื่องพิมพ์ (Printer) โดยได้รับแรงสนับสนุนจากลูกค้ารายสำคัญที่ย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ยอดขายผลิตภัณฑ์ EV ของบริษัทยังคงเติบโตต่อเนื่องใน 1Q25 และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นในช่วงที่เหลือของปี

ข้อสังเกตและประมาณการ

ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงหลังประกาศงบ 1Q25 สะท้อนความกังวลต่อประเด็น Tariff ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน BYD ประเมินผลกระทบไว้ 3 กรณี:

1. Worst-case: ลูกค้าชะลอคำสั่งผลิตจากประเทศไทย
2. Base-case: รับรู้คำสั่งซื้อเดิมต่อเนื่องจากปี 2567 และผลิตตามกำหนด
3. Best-case: โรงงาน 16 ที่มหาชัย และโรงงาน 15 กับ 13 ที่เพชรบุรี เดินเครื่องเต็มกำลัง

สรุป

BYD ปรับคำแนะนำเป็น "ซื้อ" โดยมีราคาเป้าหมาย 7.20 บาท แม้จะมีความเสี่ยงจาก Tariff แต่บริษัทยังมีปัจจัยบวกจากการเปิดโรงงานใหม่และการมุ่งเน้นสินค้า High-margin