บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

text-primary ไฮไลท์สำคัญ: กลยุทธ์เชิงรุกรับมือเศรษฐกิจผันผวน

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและราคาน้ำมันที่ลดลง PTT ดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อปกป้องผลกำไรปี 2568 โดยตั้งเป้าเพิ่มกำไร 2.5 หมื่นล้านบาท ผ่านมาตรการลดต้นทุน, ขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก และเพิ่มผลกำไรของบริษัทในเครือ นอกจากนี้ ต้นทุนก๊าซที่ลดลงและค่าการตลาดน้ำมันที่ดีขึ้นจะเป็นปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติม

text-primary รายละเอียดการวิเคราะห์: เพิ่มประสิทธิภาพพอร์ตลงทุน

PTT วางแผนเพิ่มประสิทธิภาพพอร์ตลงทุน โดยขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก โดยเฉพาะระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสินทรัพย์ ลดรายจ่ายลงทุน และสร้างเงินทุนเพื่อลดหนี้สินและต้นทุนดอกเบี้ย นอกจากนี้ PTT ยังมองหาพันธมิตรทางธุรกิจสำหรับบริษัทลูกที่เป็นแกนหลัก โดย PTT จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และควบคุมกิจการ

INVX คาดการณ์ว่าต้นทุนก๊าซสำหรับโรงแยกก๊าซ (GSP) จะลดลง หากมีการปรับโครงสร้างราคาก๊าซให้สอดคล้องกับราคาก๊าซจากอ่าวไทย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนของ GSP ลง 4-5 พันล้านบาท/ไตรมาส นอกจากนี้ ต้นทุนที่ลดลงอาจนำไปสู่การปรับราคาก๊าซที่ขายให้กับ PTTGC ตามหลักการแบ่งปันผลกำไร

text-primary ข้อสังเกต: จุดแข็งและแนวโน้มธุรกิจ

INVX มองว่าการประกอบธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีแบบครบวงจรเป็นจุดแข็งของ PTT ในการรับมือกับราคาน้ำมันที่ผันผวน ธุรกิจ E&P จะยังคงเป็นส่วนสำคัญในการสร้างกำไร ตามมาด้วยธุรกิจก๊าซและน้ำมัน นอกจากนี้ งบดุลของ PTT ยังแข็งแกร่งขึ้นหลังจากการบันทึกรายการด้อยค่าของสินทรัพย์

PTT มีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจก๊าซ ซึ่งสร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอและมีอุปสงค์เติบโตอย่างต่อเนื่อง แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) ฉบับล่าสุดยังคงกำหนดให้โรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าส่วนใหญ่ให้กับประเทศไทยในระยะ 17 ปีข้างหน้า

text-primary สรุป: Valuation ไม่แพง, ปันผลน่าสนใจ

ราคาหุ้น PTT ยังมี upside ที่น่าสนใจ เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ 41 บาท โดยปัจจุบันซื้อขายที่ PBV เพียง 0.7 เท่า (-1.6SD ของ PBV เฉลี่ย 5 ปี) INVX คาดการณ์อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีในระดับ 6-7% ในระยะ 3 ปี โดยโครงการซื้อหุ้นคืนจะช่วยจำกัด downside ของราคาหุ้น