https://aio.panphol.com/assets/images/community/6552_da89bc.png

SPVI พลิกโฉมธุรกิจ! ขยายสาขา-บุกออนไลน์ ปี 2568 ตั้งเป้าเติบโตยั่งยืน

P/E 10.66 YIELD 3.54 ราคา 2.26 (0.00%)

SPVI พลิกโฉมธุรกิจ! ขยายสาขา-บุกออนไลน์ ปี 2568 ตั้งเป้าเติบโตยั่งยืน

สวัสดีครับท่านนักลงทุนและผู้ที่สนใจในบริษัท SPVI วันนี้ผมไตรสร วรญาณโกศล กรรมการผู้จัดการบริษัท SPVI จำกัด และคุณพัทธยวัต พัวพัน ผู้อำนวยการสายการเงินและบัญชีของบริษัท ขอมาเล่าเรื่องผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

สำหรับ Agenda ของเราในวันนี้นะครับ ก็จะมี Area อยู่ทั้งหมดประมาณ 4 เรื่องด้วยกันนะครับ ก็คือ Business Update ว่าเราได้ทำธุรกิจอะไรกันบ้างนะครับ Key Highlight Financial Performance นะครับ แล้วก็ เอ่อมีอะไรต่อไปครับ

  1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**

ปัจจุบัน ณ วันนี้ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2568 เรามีสาขาทั้งหมด 78 สาขาด้วยกัน โดยแบ่งออกเป็นร้านแต่ละประเภท ตอนนี้รวมร้านที่เป็นขายจำหน่าย Apple ไม่ว่าจะเป็น iStudio iBeat ตอนนี้เรามีทั้งหมด 13 สาขา ส่วนร้าน Mobib นั้นก็คือเป็นร้านลูกผสมที่ขายทั้ง Android และตัว Apple ด้วย Store แล้วก็มีส่วนของ iCenter ที่เป็นศูนย์ซ่อม AIS A Store แล้วก็ iSolution ซึ่ง iSolution ณ วันนี้เนี่ยเราก็ได้ปิดทำการไปแล้วก็คือคืนพื้นที่นะครับ เพราะว่าเราได้ย้ายสำนักงานใหม่มา มาอยู่ที่ ถนนศรีนครินทร์กัน

แต่ละช่องทางที่เราทำธุรกิจกันมีอะไรบ้าง กลุ่มเป้าหมายคือใคร เรามี iStudio iBeat รวมทั้งหมดเลยก็คือประมาณ 9 ที่ นะครับ แล้วก็มี Mobib 5 ซึ่งอันนี้ก็คือจะส่วนใหญ่ก็คือจะขายทั้ง เอ่อ โมบายเป็นหลักเลย โดยกลุ่มเป้าหมายก็คือตามลูกค้าตามห้างทั่วๆ ไป ถัดมาในกลุ่มที่ 2 นะครับ ก็จะเป็นร้านรีเทลที่โฟกัสทางด้าน Education ก็คือจะมี UStore และ A Store นะครับ UStore เนี่ยจะขายเฉพาะสินค้า Apple เป็นหลักเลย และส่วน A Store ก็เช่นกันก็คือขายทั้ง Apple ด้วยนะครับ แต่เฉพาะ Mobile และ iPad แล้วก็อีกอันนึงก็คือในส่วนของที่เป็น Android

ส่วนอันที่ 3 ก็จะเป็น Franchise นะครับ ที่เราเป็น Partner กับทางด้าน AIS นะครับ ซึ่งเราก็จะมีกลุ่มด้วยกันก็คือร้านที่เป็น AIS และ Telewiz ทั้งหมดประมาณ 22 สาขาด้วยกัน ถัดมา นอกจากทางด้านเป็นตัวแทนจำหน่ายแล้ว เราก็ยังมีศูนย์ซ่อมนะครับ ก็คือภายใต้การดำเนินการของ SPVI เนี่ย ร้านศูนย์ซ่อมของเราก็คือชื่อ iCenter ปัจจุบันมี 5 สาขาด้วยกัน ซึ่งอันนี้จะรับซ่อม สินค้า Apple ด้วยอะไหล่แท้ 100% และโดยช่างที่ได้รับการ Certification นะครับ จากทาง Apple มา ถัดมาอันนี้ก็จะเป็นกลุ่มพวก Enterprise ซึ่งกลุ่ม Enterprise นี่ก็คือเป็นบริษัท ก็คือเหมือนขาย B2B ครับ ซึ่งกระบวนการอันนี้มันก็ต้องการ เอ่อ ทีมงาน เอ่อ เซลส์ที่จะต้องออกไป เอ่อ พบลูกค้าแล้วก็มีทีม Service ต่างๆ เข้าไปในแง่ของการ เอ่อ ให้บริการแล้วก็มีการติดตั้ง อันนี้ก็เป็นส่วนอีกอันหนึ่ง

นอกจากทางด้าน เอ่อ Enterprise แล้วนะครับ เราก็ยังมีกลุ่มที่เป็น Education ด้วยกันนะครับ ซึ่ง Education เนี่ยไล่ตั้งแต่ มหาวิทยาลัย โรงเรียน อินเตอร์ แล้วก็โรงเรียน ประถม และ มัธยมนะครับ ซึ่งอันนี้ก็ เอ่อ เป็น เป็น Area ที่เราค่อนข้างจะ มีความชำนาญค่อนข้างเยอะนะครับ ถัดมาซึ่งเพิ่งจะเริ่มบูมกันมาประมาณสักปี 2 ปีนะครับ ก็คือเป็นกลุ่มออนไลน์นะครับ ซึ่งปัจจุบันเนี่ยวันนี้ เรามี Channel นะครับ อยู่ใน Marketplace ทั้งหมดตอนนี้ก็คือ 3 ที่ด้วยกันนะครับ อันที่ 1 ก็คือ Shopee นะครับ อันที่ 2 ก็คือ Lazada อันที่ 3 ก็คือ Amaz ซึ่ง Amaz นี่ก็จะเป็น Marketplace อันใหม่นะครับ ซึ่ง เอ่อ โดย คนไทยนะครับ ก็คือในเครือของ CP ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องของการที่เราสามารถที่จะ เอ่อ Convert Point นะครับ ไม่ว่าจะเป็น Point จาก เครดิต Card Point จาก เอ่อ คนที่ใช้ True นะครับ หรือ Lotus หรือ Makro นะครับ เพื่อเอามาเป็น Point เหล่านั้นเนี่ยมาชำระค่าสินค้าที่สั่งซื้ออยู่ใน Amaz นะครับ ซึ่งอันนี้มันก็จะแก้ เอ่อ กลุ่มลูกค้าที่ เอ่อ ไม่ ไม่ ไม่สามารถที่จะ เอ่อ ใช้ Point นะครับ ในการที่จะแลก เป็นสินค้าที่ตัวเองถูกใจ นะครับ ส่วนทางด้าน ถัดมาก็คือเป็น E-Commerce นะครับ ซึ่ง E-Commerce เนี่ยเราจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ เลยก็คือเป็น เว็บไซต์นะครับ ซึ่ง E-Commerce ของเราจะมี 2 ส่วนนะครับ ก็คือ iStudio by SPVI แล้วก็ E-Commerce ที่เป็น UStore สำหรับ iStudio by SPVI เนี่ยก็คือสำหรับลูกค้าทั่วๆ ไปนะครับ ส่วน เอ่อ UStore นั้นก็คือในกรณีที่เป็นลูกค้าทางด้าน การศึกษาหรือนักศึกษา ส่วน Chat and Shop นะครับ แล้วก็วิ่งผ่านทางด้าน LINE หรือทางด้าน เอ่อ โซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ นะครับ ก็คืออย่างเช่นของ UStore ที่ เอ่อ ผ่านทางด้าน Facebook นะครับ ซึ่งอันนั้นก็จะมีทีมงานคอย Support ในเรื่องของการ Chat and Shop นะครับ

  1. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**

ไตรมาสที่ 1 ที่เพิ่งจบไปเนี่ย ผลประกอบการของเราเป็นยังไงบ้างนะครับ ซึ่ง เอ่อทีมออนไลน์นะครับ เราก็ทำได้ค่อนข้างดีก็คือมี 3 ส่วนอยู่ด้วยกันนะครับ ก็คือมี เอ่อ Shopee Lazada นะฮะ แล้วก็ E-Commerce นะครับ ซึ่งก็มีการเติบโตอยู่นะครับ แต่ส่วนทางด้าน E-Commerce นะครับ ก็ถือว่า เอ่อ ยัง ยังเป็นส่วนที่ยังเล็กอยู่นะครับ เมื่อเทียบกับทางด้าน Marketplace แต่เราก็พยายามที่จะผลักดันให้มันเติบโตขึ้น ซึ่งสินค้าที่ขายผ่านทางด้าน E-Commerce ของเราเนี่ยก็ถือว่าเป็นสินค้าที่ลูกค้าไว้ วาง ใจนะครับ ไม่ว่าจะเป็น CPU iPhone นะครับ หรือ iPad ก็ contribute เปอร์เซ็นต์ที่ค่อนข้างจะสูงเลย แล้วก็ส่วนถัดมานะครับ ก็คือในเรื่องของ เอ่อ Shopee นะครับ ซึ่ง Shopee ที่ผ่านมาเนี่ยก็ยังคง เอ่อ รักษา ระดับไว้นะครับ ในแง่ของการขาย นะครับ ซึ่งเราก็คิดว่า เอ่อเราอยากจะ Utilize เอ่อ จำนวน คน follower ซึ่งเรามีอยู่ประมาณ สะสมเอาไว้ อยู่ที่ประมาณ 2.2 ล้านนะครับ ซึ่ง เอ่อถ้าเทียบกับ Average Invoice นะครับ เอ่อเราก็มีการบวกเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ year on year นะครับ ก็คือประมาณ 1800 นะ ครับ แล้วก็มี Visitor เข้าประมาณ 2.8 ล้านคนนะครับ revenue ก็เติบโตขึ้นประมาณ 40% ถ้าเทียบกับ year on year นะ ครับ แล้วก็ในส่วนของทางด้าน เอ่อ Lazada นะครับ ซึ่งถามว่า Lazada ของเราเนี่ยก็เป็นเราเพิ่งเริ่มต้นเมื่อไม่นาน นะครับ เมื่อเทียบกับตัว Shopee นะครับ ก็ใช้เวลา พิคอัพกันนานพอสมควรนะครับ แต่เราก็พยายาม เอ่อ รักษา ระดับเอาไว้นะครับ โดยที่พยายามที่จะ maintain ไม่ว่าในเรื่องของ margin ก็ดี หรือการลงทุน เอ่อ ทางด้านโฆษณา กับทางด้าน Lazada นะครับ

Key highlight ที่มันจะเกิดขึ้นนะครับ ใน Quarter ที่ผ่านมา เหตุผลที่ Quarter 1 ของปี 2568 นี่นะครับ มีการเติบโตที่ เยอะนะครับ ซึ่งมันจะอาจจะตรงข้ามกับทางด้าน ภาวะเศรษฐกิจที่มันเกิดขึ้นมานะครับ คือถือว่าปีนี้เป็นปีแรกเลยนะครับ เมื่อเทียบกับปี 2567 นะครับ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า เอ่อมีการเปิดตัวนะครับ สินค้าใหม่เข้ามาในช่วงของไตรมาสที่ 1 นะครับ ก็คือเดือน เอ่อ กุมภาพันธ์ มีนาคม นะครับ ซึ่ง เอ่อเป็นสินค้าค่อนข้างจะหลักเลยนะครับ สำหรับ เอ่อธุรกิจของ Apple ด้วยกันนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง iPhone เอ่อ 16e ซึ่งเป็น เป็น Series ใหม่นะครับ เปิดตัวหลังจากนั้นเป็นราคาที่ ย่อมเยา นะครับ แต่ที่เป็น Highlight อยู่ 2 ตัวเลยนะครับ ที่เป็น เอ่อ เป็นบวกกับเราก็คือ อันที่ 1 ก็คือตัว iPad Gen 11 นะครับ กับ Air 7 นะครับ ซึ่งอันนี้ทำให้เราได้อานิสงส์นะครับ ประกอบกับว่าในช่วงของเดือน มกราคม กับ กุมภาพันธ์ เนี่ยนะครับ เอ่อมันก็มีแรงส่งเข้ามาในเรื่องของ เอ่อ การลดหย่อนภาษีนะครับ ก็เลยมีในช่วงของเดือนมีนาคมซึ่งมันทำให้เกิด โมเมนตัมของการ เอ่อ ยอดขายที่ยังคงเติบโตนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัว MacBook Air M4 นะครับ ซึ่งไม่ได้เปิดตัวกันมา เอ่อ พอสมควร แล้วก็ถือว่าเป็นรุ่นใหม่ในราคาที่ย่อมเยาทำให้มี เอ่อ ความตื่นเต้นกับ เอ่อ ยอดขายนะครับ

  1. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**

แต่ละช่องทาง การจำหน่ายของเรา ณ วันนี้ ทางด้านร้านรีเทลที่เป็น Mono นะครับ สำหรับไตรมาสที่ 1 เนี่ยก็มีการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 11% นะครับ ก็ถือว่า same store growth เราทำได้ดีเพราะว่าในจำนวนร้านของปีที่แล้วกับปีนี้เนี่ยก็จำนวนใกล้เคียงกัน เท่ากันเลยนะครับ ส่วน UStore เนี่ยก็เริ่มปรับตัวดีขึ้นนะครับ ซึ่งเป็นอานิสงส์นะครับ อย่างที่บอกว่ามันมี Product ที่เข้ามานะครับ เป็นตัว iPad แล้วก็ตัว Mac นะครับ ซึ่ง ซึ่งเป็นสินค้าหลักเลยสำหรับกลุ่มนักเรียนนักศึกษานะครับ และในขณะเดียวกันร้าน AIS นะครับ ที่เราเป็น Franchise กันอยู่ก็ยังคงมีการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 6% นะครับ ก็ถือว่ายังมีดีแล้วก็ที่สำคัญก็คือมีการเติบโตในส่วนของ Android แต่เพียงแต่ว่ามันอาจจะไม่มี เอ่อ impact เยอะมากนักเพราะว่า เอ่อด้วยราคาต่อ Unit นั้นน่ะ เมื่อเทียบกับ iPhone แล้ว ก็ยังต่างกันหลาย หลายเท่า นะครับ

แต่อย่างไรก็ตามเราก็ยังมีกลุ่ม Segment อีกอันนึงที่ เอ่อ เราลงไป Capture นะครับ ก็คือกลุ่มนักเรียน ระดับ ประถม และ มัธยม นะครับ ซึ่งช่วยทำให้เราเนี่ยยอดเติบโตนะครับ ก็คือเด็กนักเรียนนักศึกษาเนี่ยเดินเข้าไปซื้อที่หน้าร้านเนี่ยนะครับ มีการเติบโตเมื่อเทียบกับปีที่แล้วเนี่ยในไตรมาสเดียวกัน มีการเติบโตอยู่ที่ 59% นะครับ

ช่องทางออนไลน์ มีการเติบโตอย่างไรบ้าง Financial highlight ที่เราจบกันไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง เดี๋ยวต่อไปก็จะให้คุณทัยวัฒน์เป็นคนเล่าต่อไปนะครับ

สำหรับการดำเนินการเป็นรายไตรมาสก็คือสำหรับในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 นี้บริษัทมีรายได้ปิดไปรวมอยู่จำนวนทั้งสิ้น 1,888 ล้านบาท ก็คือมีการเติบโตขึ้นจาก year on year Q1 ปีก่อนอยู่ที่ 7% นะครับ และเมื่อเทียบกับ Q on Q แล้วก็มีการเติบโตจาก Q4 ปี 2567 ประมาณ 1% ในส่วนของกำไรนั้นใน Q1 ของ ปี 2568 นั้นนะครับ บริษัทมีจำนวนกำไรสุทธิอยู่ที่ 19 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับตัว Q1 ปีก่อนแล้วนะครับก็มีการเติบโตขึ้นอยู่ที่ประมาณ 59% นะครับ แล้วก็เมื่อเทียบกับ Q on Q แล้วก็คือมีการเติบโตขึ้นอยู่ที่ 45% นะครับ ทีนี้เราลองมาดูในส่วนของ ผลการดำเนินการแบบเปรียบเทียบเป็นในไตรมาสที่ 1 กันนะครับของปีนี้กับปีที่แล้ว ก็จะเห็นได้ว่านะครับ ในรายได้ของเราครับ 1,888 ล้านบาทในปี 2568 เนี้ยเมื่อเทียบกับปีก่อนก็ ก็คือทำได้อยู่ที่ 1,772.9 ล้านบาทนะครับ ซึ่งในส่วนของรายได้เนี่ยมีการเติบโตขึ้น 115.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 7% โดยหลักๆแล้วก็เป็นการเติบโตจากทั้งในช่องทาง Physical Store แล้วก็ Online นะครับ โดยในส่วนของ Physical Store นั้นก็จะเป็นการเติบโตจากทั้งทาง Mono นะครับ หรือ AIS และรวมถึงตัว U Store นะครับ สำหรับในส่วนของค่าใช้จ่ายนั้นนะครับ ในไตรมาสที่ 1 นั้นของเรารมีจำนวนอยู่ทั้งสิ้น 1,862 ล้านบาทนะครับ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก Q1 ปีก่อนประมาณ 105.5 ล้านบาทนะครับ หรือคิดเป็นประมาณ 6% นะครับ โดยในส่วนของค่าใช้จ่ายเนี่ยก็คือ ที่เพิ่มขึ้นน่ะก็เพิ่มขึ้นมาจาก 2 ส่วนนะครับ โดยส่วนแรกนะครับเป็นการเพิ่มขึ้นจากในส่วนของต้นทุนขายนะครับ ซึ่งสอดคล้องกับตัวยอดขายที่เพิ่มขึ้นนะครับ แล้วก็ในส่วนที่ 2 ก็คือจะเป็นในส่วนของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร โดยหลักๆแล้วก็จะเป็นการเพิ่มขึ้นในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการขายนะครับ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของค่า เครดิต card ฟรี ค่า แพลตฟอร์มฟรี ในช่องทาง Online รวมถึงค่า Commission นะครับ ที่เพิ่มขึ้นที่สอดคล้องกับในส่วนของ รายได้ที่เพิ่มขึ้นนะครับ นอกจากนี้ก็ยังมีในส่วนของค่าเสื่อมราคา นะครับของสาขาใหม่ที่เรามีการเปิด ขึ้นนะครับ ในช่วงต้นปีรวมถึงตัวค่า ค่าเสื่อมราคาของสำนักงานใหญ่ที่เราเพิ่งมีการย้าย Office ไปในช่วงปลาย Q4 ที่ผ่านมา นะครับ โดยส่งผลให้ในส่วนของกำไรใน Q1 เนี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 19.2 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก Q1 ปีก่อนประมาณ 7.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 59% นะครับ ทีนี้เราลองมาดูกันว่าในรายได้ 1,888 ล้านบาทใน Q1 เนี่ยเป็น มีรายได้มาจากช่องทางไหน หรือในช่องทางไหนมีการเติบโตเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ นะครับ ก็อย่างแรกเลยนะครับ ในช่องทางรีเทลนะครับ ก็เรามีรายได้เติบโตขึ้นที่อยู่ที่ 11% นะครับ หลักๆเลยก็เป็นการเติบโตจากในช่องทาง iS และ iBeat เป็น เป็นหลักเลยนะครับ ก็คือถือว่าเป็นการ Sale Growth ทุกสาขาเลย เพราะว่าได้ในสำหรับในส่วนของช่องทาง อ่า โม Mono นะครับ หรือว่า iS iBeat นะครับ ในส่วนของ UStore เองก็มีการเติบโตขึ้นอยู่ที่ 22% นะครับ โดยหลักๆแล้วก็เป็นจาก การเปิดตัวสินค้าตัว iPad ที่ ออกใหม่นะครับ จริงๆก็ต้องบอกว่า อ่าในปีนี้เราก็มีในส่วนของ Partner ที่เป็น Finance เพิ่มเข้ามาด้วยอีก 2 เจ้านะครับ ที่เป็นทางเลือกให้กับกลุ่มนักศึกษาที่ ในการเลือกขอสินเชื่อในการซื้อสินค้าได้มากขึ้นนะครับ ก็จะเป็นตัวช่วยผลักดันในการให้นักศึกษาเข้า ถึงสินค้าของเราได้มากขึ้นใน ในส่วนของกลุ่ม UStore นะครับ ในส่วนของ AIS เองก็มีการเติบโตขึ้นอยู่ที่ 6% นะครับ ในส่วนของ ก็ ก็ถือว่ามีการลดลงไปอยู่ที่ประมาณ 17% นะครับ โดยหลักๆก็เนื่องจากมีงานโครงการที่แบบ เมื่อเทียบกับปีก่อนก็อาจจะลดลงบ้างนะครับ แล้วก็รวมถึงว่ามันมีงานบางโครงการต่างๆที่ถูกเลื่อนออกไปที่จะไปส่งมอบในช่วง Q2 นะครับ เลยทำให้ใน ในส่วนของ รายได้ลดลงไปนะครับเมื่อเทียบกับ Q1 ปีที่แล้ว ในส่วนของ iCenter เองรายได้ก็มีการลดลงไปประมาณ 20% นะครับ ด้วยหลักๆก็เนื่องจากเรามีการปิดสาขาไปนะครับเนื่องจากว่าเราจะมีการปรับปรุงร้าน iStore ให้เป็นแบบ APP หรือมีศูนย์ซ่อมอยู่ในร้านก็เลยต้องมีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงแผนการ อ่า ของ ศูนย์ซ่อมไปสำหรับการปิดร้านไปนะครับ แล้ว แล้วในส่วนของ Online เองก็มีการเติบโตขึ้นอยู่ที่ 4% นะครับสำหรับใน Q1 เมื่อเทียบกับของปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้วนะครับ สำหรับสัดส่วนในการขายนะครับสำหรับไตรมาสที่ 1 เนี่ยก็คือในส่วนของรีเทลนั้นก็จะมีสัดส่วนอยู่ที่ 38% นะครับ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก Q1 ปีก่อนที่มีสัดส่วนที่ 37% ก็คือมีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยนะครับ 1% ในส่วนรองลงมาก็จะเป็นในส่วนของ Online นะครับ ก็จะมี ในปีนี้ก็จะมีสัดส่วนการขายอยู่ที่ 38% ลดลงจากปีก่อน ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 39% นะครับ ถัดมาก็จะเป็น AIS ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 11% แล้วก็ UStore อยู่ที่ 8% แล้วก็ อยู่ที่ 4% แล้วก็ iCenter อยู่ที่ 1% นะครับ ทีนี้เราลองมาดูในส่วนของ by product กันบ้างนะครับว่า ใน Q1 เนี่ย Product ของเราอ่ะอันไหน มีการขายเพิ่มขึ้นหรือลดลงยังไงนะครับ ในส่วนของ macOS เองก็ถือว่าใน Q1 เนี่ยมีการเติบโตขึ้นอยู่ที่ 33% นะครับ ก็หลักๆเลยก็มาจาก ในตัวของสินค้าตัว MacBook Air นะครับ ที่มีการเปิดตัวอะไร กันไปในช่วง Q1 ที่ผ่านมานะครับ ในส่วนของ iOS เองก็มีการเติบโตขึ้นอยู่ที่ 7% นะครับ ก็ถือว่าเป็น การเติบโตทั้งในส่วนของ iPad แล้วก็ iPhone นะ ครับที่เป็นตัวผลักดันให้ iOS มีการเติบโตขึ้นใน ใน Q1 นี้ นะครับ ในส่วนของ Mobile นะครับ ก็มีการเติบโตขึ้นอยู่ที่ 8% นะครับ โดยหลักๆก็จะเป็นสินค้าในตระกูลของ Samsung Oppo Vivo Xiaomi อะไรอย่างนี้นะครับ ที่มีการยอดขายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนนะครับ ในส่วนของ Apple Accessory เองก็มีการลดลงประมาณ 7% นะครับ โดยหลักๆก็เป็นในการลดลงในส่วนของสินค้าในพวก กลุ่ม Airport นะครับ พวกหูฟังอะไรอย่างนี้ครับ ที่มีการลดลงไป

ในส่วนของ Non Apple นั้นก็มีการลดลงอยู่ที่ 4% โดยหลักๆแล้วก็จะเป็นการลดลงจากงานโปรเจค ในส่วนของพวก Software อะไรอย่างนี้นะครับ ที่ ที่ลดลงไปแต่ว่าจริงๆแล้วถ้าเทียบแล้วในส่วนของที่เป็นพวกเคส พวกฟิล์มอะไรอย่างนี้ที่เป็น ที่เป็น Accessor ก็ถือว่ามีการเพิ่มขึ้นนะครับ ที่สอดคล้องกับในส่วนของตัว iOS ที่เพิ่มขึ้นนะครับ สำหรับในส่วนของสัดส่วนการขายในไตรมาสที่ 1 เนี่ยครับ ก็ในส่วนของ iOS ในปี 2 Q1 2568 เนี่ยก็มีสัดส่วนอยู่ที่ 76% นะครับ รองลงมาก็จะ เป็นในส่วนของ อ่า Apple Accessory นะครับ มีสัดส่วนอยู่ที่ 9% ถัดมาก็จะเป็นในส่วนของ Mac OS อยู่ที่ 7% แล้วก็ลงลงมาจะเป็น Non Apple อยู่ที่ 4% แล้วก็ Mobile อยู่ที่ 3% นะครับ

  1. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**

Financial Ratio นะครับ ในส่วนแรกก็ขอจะเป็นในส่วนของ GP Margin นะครับ ก็ถือว่าในไตรมาสที่ 1 ของเราเนี่ย GP Margin นะครับ มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นนะครับ จาก 9.55 เป็น 9.76 ก็ถือว่ามีการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับ Q1 ปีก่อนนะครับ แต่ว่าอาจจะยังไม่สามารถแตะที่ 2 Digit ได้เมื่อเทียบกับในช่วง อ่า ปี 2566 หรือ 2565 ก็ต้องบอกว่าด้วยเนื่องจากว่าการแข่งขันในตลาดกลุ่มสินค้า พวกสมาร์ทโฟน เองก็ดีอะไรอย่างนี้ครับ มีการแข่งขันที่สูงขึ้นเลยทำให้มีต้องมีแบบโปรโมชั่น หรือส่วน อ่า การตลาดที่ ที่ต้องการ ที่ต้องมีการแข่งขัน แข่งขันกันมากขึ้นนะครับ เลยทำให้มันต้องมีส่วนลดอะไรอย่างนี้เพิ่มมากขึ้นเลยทำให้ในตัว GP ของเรา อาจจะยังไม่สามารถแตะ 2 Digit ได้ใน ใน Q1 นี้ครับ แต่ว่าจริงๆแล้วทางบริษัทเราก็พยายามวางแผนหรือพยายามปรับปรุงในส่วนของ GP เนี่ยให้ดีขึ้น พยายาม อย่างมากในการที่จะให้เรากลับไปแตะที่ 2 Digit ได้เหมือน 2 ปีก่อนอะไรอย่างนี้ครับ โดยไม่ว่าจะเป็นการพยายามขายในสัดส่วนของสินค้าที่เป็นตัว Multibrand ที่เพิ่มมากขึ้น ผ่านช่องทางไม่ว่าจะเป็น AIS หรือ Mobib เองก็ดีนะครับ หรือรวมถึง ตัวการที่เราพยายามจะมีการขายพวกสินค้าที่เป็น Rate ให้เพิ่มมากขึ้นสัดส่วนการขาย Rate ให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อเป็นตัวดึง GP ให้เรากลับมาเพื่อให้ได้ ให้ได้แตะ 2 Digit เพิ่มมากขึ้นนะครับ ทีนี้เราลองมาดูในส่วนของ Net Profit Margin กันบ้างนะครับ โดยในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 นี้เรามีสัดส่วนอยู่ที่ 1.02% ก็ถือว่ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก Q1 ปีก่อนที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 0.71% นะครับ

Inventory กันบ้างนะครับ ก็ต้องบอกว่าใน ใน ณ สิ้น Q1 นะครับ เรามีสินค้าคงเหลือ ณ สิ้น งวดอยู่ ที่ 597.9 ล้านบาทนะครับ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตอนสิ้นปีที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 559.1 ล้านบาท โดยหลักๆแล้วสินค้ าที่เพิ่มก็จะเป็นในกลุ่มของตัว iPhone แล้วก็ Multibrand นะครับ ที่เรามีการซื้อเข้ามา รวมถึงตัว iPad เองที่มีการเปิดตัวใหม่เรามีการซื้อเข้ามาสต๊อกเพื่อ อ่า รองรับการขายใน ช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไปนะครับ แล้วก็รวมถึงว่าจากใน Q1 อ่า มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ ไม่ว่าจะเป็นตัว iPhone 16e ตัว iPad Gen 11 ตัว Air 7 เองรวมถึง MacBook Air นะครับ ก็คือทำให้มันต้องมีตัวสินค้า Demo ที่เราต้องมาวางโชว์หน้าร้านแหละเราเลยต้องมีการซื้อสินค้ากลุ่มนี้เข้ามาเพื่อเป็นตัวโชว์ในหน้าร้าน มันเลยทำให้ในส่วนเนี้ย อ่า Inventory เราเพิ่มขึ้น มันก็สะท้อนเห็นให้เห็นได้ว่าตัว Provision Inventory ของเราอ่ะก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยหลักๆแล้วก็คือเป็นการเพิ่มขึ้นจากตัวกลุ่มสินค้า Demo เป็นหลักเลยนะครับ ที่เพิ่มขึ้นใน ใน Q1 ปีนี้ นะครับ ทีนี้เราลองมาดูในส่วนของ Inventory Turnover กันบ้างนะครับ ก็ต้องบอกว่าในช่วง Q1 เนี่ย Inventory ของ Turnover ของเราอ่ะทำได้อยู่ที่ 12.5 นะครับ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตอนสิ้นปีที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 10.5 นะ ครับซึ่งถือว่ามีการเพิ่มขึ้นไปในทางที่ดีขึ้นคือใกล้เคียงกับในช่วงปี 2564 เลย ก็ต้องถือว่าการหมุนเวียนสินค้าของเราทำได้ดีขึ้นนะครับเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ซึ่ง ซึ่ง ซึ่งเทียบถ้าเป็น เทียบเป็นวันแล้วถือว่าการหมุนเวียนสินค้าของเราสามารถหมุนเวียนได้ภายใน 1 เดือน โดยประมาณเลยนะครับ

DE Ratio ของเรานั้นก็มีการปรับตัว ลดลงนะครับจากตอนสิ้นปีจาก 1.13 มาเป็น 1.10 นะครับ ก็ต้องถือว่าเป็นเนื่องจากว่าในส่วนของกำไรของเราอ่ะ เมื่อเทียบอัตราส่วนแล้วมันดูดีขึ้นเมื่อเทียบกับตอน สิ้นปีก่อนนะครับ รวมถึงในตัว Current Ratio เอง อ่า อาจจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยนะครับ จาก 1.60 มาเป็น 1.66 ในตอน ในตอน Q3 เนี้ยครับ ก็เนื่องจากว่าเรามีในส่วนของตัว อ่า Inventory ที่เพิ่มขึ้นรวมถึงตัวเงินสดที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินงานในช่วง Q1 ที่ผ่านมา เลยทำให้ในส่วนของ Current Ratio ของเรามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นนะครับ ก็ถือว่าอัตราส่วนสภาพคล่องของเราของบริษัทก็ถือว่ายังอยู่ในในเกณฑ์ที่ ที่ดีอยู่นะครับ

ROE และ ROA กันบ้างนะครับ ก็คือในส่วนของ Return on Equity นั้นก็ถือว่ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นนะครับจาก 8.42% มาเป็น ที่ 13.29% นะครับ แล้วก็รวมถึงตัว ก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 5.59% มาเป็น 8.59% ก็หลักๆแล้วก็มาจากในส่วนของกำไรที่เพิ่มขึ้นนะครับ เลยทำให้ในส่วนของตัว Return on Equity หรือ asset เองก็มีการปรับตัว เพิ่มขึ้นเช่นกันนะครับ

  1. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**

สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนะครับ ก็คงจะเป็นในเรื่องของการขยายสาขา นะครับ ซึ่ง เอ่อเราได้ Location อยู่ที่ เอ่อ Robinson ฉลอง แล้วก็ เอ่อ Lotus ภูเก็ต นะครับ ก็คือตรงสามกอง นะครับ ซึ่งก็ถือว่าเป็น Area ที่มี มี traffic ที่ค่อนข้างดีนะครับ ซึ่งในแง่ของการที่เราเปิดเนี่ย เอ่อเราก็ได้มีโอกาสคุยกับทางด้าน AIS นะครับ แล้วก็ในเรื่องของ เราก็มองว่าน่าจะเป็นพื้นที่ที่เราจะสามารถขยาย นะครับ ลงไปสู่ในพื้นที่ของ เอ่อ Consumer ทั่วไปแล้วก็ในแง่ของตัว Product นะครับ ที่มีความหลากหลายมากขึ้นนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของ Fiber นะครับ ซึ่งอันนี้ก็คิดว่าเป็นพื้นที่ที่เรา เอ่อ ให้ความสำคัญนะครับ เพราะฉะนั้นเนี่ยในแง่ของการที่เราจะเติบโตต่อไปนะครับ เพราะว่าในเรื่องของการที่เราจะเปิด เอ่อ ร้าน AIS เนี่ยนะครับ Franchise AIS เนี่ยมีโอกาสที่ค่อนข้างจะสูงมากกว่าเมื่อเทียบกับร้านของ Apple เพราะว่า ณ วันนี้ เอ่อ Location ที่สำหรับจะเปิดร้าน Apple เนี่ย วันนี้ก็ค่อนข้างจะหายากมากขึ้นนะครับ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ เอ่อ เป็น เอ่อ ส่วนภูมิภาค นะครับ ที่ต่างจังหวัดที่ไกลออกไปนะครับ แล้วก็ในแง่ของ เอ่อ ตัวกำลังซื้อของคนนะครับ ถ้าใน เทียบกับ เอ่อ ร้านของ AIS เนี่ยเราคิดว่ามันน่าจะมี potential แล้วก็การ invest เนี่ยจะไม่ ไม่มากเท่า นะครับ อันนี้ก็คือเป็นจุดอันนึงที่เรากำลังจะเดินหน้าไปนะครับ

สินค้า ตอนนี้ก็คืออย่างที่เรียนให้ทราบนะครับ ก็มีสินค้าตัวใหม่นะครับ ซึ่งเป็นตัว Highlight เลยซึ่งมันจะเข้ามาตอบโจทย์ในช่วงของ เอ่อ ใน ใน ไตรมาส 2 นี้ด้วยก็ครับ ก็คือเป็นช่วงของการเปิดเทอม นะครับ ซึ่งเราคิดว่า เอ่อ ตอนนี้ตัว iPad เองหรือตัว Mac เองนะครับ เอ่อ เป็น เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นนะครับ สำหรับเรื่องของการศึกษานะครับ แล้วก็คิดว่าตรงเนี้ยน่าจะเป็นโอกาสที่ของเราที่เราทำเพราะว่าเราเรา Cover ในเรื่องของการศึกษาได้ค่อนข้างเยอะแล้วก็ด้วยระบบหรือนโยบายของการ เอ่อ จำหน่ายผ่านออกไปอย่างที่หน้าร้านเนี่ย เอ่อ ก็มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการที่จะ ขายราคาเพื่อการศึกษาสำหรับเด็กมัธยม นะครับ หรือเด็กประถม อ่าอันนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีนะครับ เพราะฉะนั้นเนี่ยเราก็คิดว่า เอ่อ สิ่งที่เราจะได้ก็คือในเรื่องของ opportunity แล้วประกอบเมื่อกี้ เอ่อ ทางคุณทัยวัฒน์เนี่ย ได้ ได้เรียนให้ทราบแล้วว่า เออ เราได้เพิ่มจำนวนของ บริษัท ไฟแนนซ์เข้ามา นะครับ ซึ่งตรงเนี้ยก็มีผลที่ดีตอบรับที่ดีนะครับ ในแง่ของจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่ เอ่อ นักศึกษาได้มีโอกาสเข้ามานะครับ ในแง่ของการซื้อสินค้าเหล่านี้ นะครับ แล้วก็ เอ่อมันช่วยเพิ่มกำลังซื้อแล้วก็ผ่อนภาระของ ของตัว ตัวนักศึกษาเองนะครับ อันนี้ก็ถือว่าเป็น เป็นจุดที่ดีนะครับ สำหรับตัวเราเองนะครับ

  1. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session):**
**[เริ่ม Q&A นาทีที่ 50:32]**

บริษัทมีความกังวลเรื่องใดใน 1-3 ปีนี้ มีวิธีการรับมืออย่างไรบ้าง ซึ่งอันนี้ก็เรียนตามตรงเลยจริงๆเลยก็คือว่าสิ่งที่เราคอนเซิร์นมากเลยคือ 3 ตัวเลยนะครับ อันที่ 1 คือภาวะเศรษฐกิจโดยรวมสำหรับประเทศไทยนะครับ แล้วเสร็จแล้วเอามาอันที่ 2 ก็คือเรื่องของสงครามการค้าระหว่างประเทศนะครับ แล้วอันที่ 3 ก็คือเรื่องของภาวะการเมืองในเมืองไทยนะครับ สำหรับวิธีการ handle ของเรา ณ วันนี้ ก็คือในเรื่องของการลงทุนเนี่ย เราพยายามที่จะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก นะฮะ อย่างมากเลย นะครับ ในเรื่องของการลงทุนเปิดสาขาใหม่ๆ ซึ่งอันนี้ผมคิดว่า เอ่อเราต้องพยายามก้าวผ่านพ้น เอ่อในช่วง 1-3 ปีข้างหน้านี้นะครับ แล้วก็วิธีการที่เราจะรับมือก็คือไป Focus ในร้านที่เรามีอยู่ทั้งหมดนะครับ โดยทำอย่างไรให้สามารถที่จะ เอ่อ อยู่รอดและสามารถทำกำไรได้นะครับ ซึ่งอันนี้เราก็คิดว่า เอ่อด้วยความที่เรายังมีฐานลูกค้าเดิมนะครับ ซึ่งเป็นฐานลูกค้าที่ยังมีกำลังซื้ออยู่นะครับ ซึ่งเราคิดว่าเราต้องพยายามที่จะต้องปลุกปั้นแล้วก็สร้าง เอ่อ ความสัมพันธ์ให้อันดีระหว่างเรากับลูกค้า นะครับ เพื่อให้ เอ่อยังคงรักษาฐานลูกค้าของเราอยู่ นะครับ อันนี้ก็คือเป็นสิ่งที่เราจะรับมือนอกเหนือจากเรื่องของการ การทำ Marketing อะไรต่างๆ ที่เอาไปนะครับ ซึ่งวันนี้ เราก็คิดว่าเราต้องพยายามที่จะหาเครื่องมือใหม่ๆ เข้ามานะครับ เพื่อที่จะมา เอ่อ ตอบสนองกับกลุ่มลูกค้าของเรานะครับ แล้วก็ตัว Business Opportunity ใหม่ๆ นะครับ แต่ใน ใน ในช่วงในปี 2 ปีเนี่ยเราก็คิดว่าเราขอดูบรรยากาศของทางด้าน เศรษฐกิจก่อนนะครับ เพราะว่า เอ่อ ข่าวที่ไหลกระแสออกมาก็คือในเรื่องของ เอ่อ เงิน แจก ดิจิทัล 10,000 บาท นะครับ ซึ่งอันนี้ผมก็เห็นว่ามันก็ยังอาจจะต้อง Delay กันออกไปนะครับ ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของ เอ่อ การที่จะ เอ่อ หาเงินจากที่ไหนมาเพื่อแจก นะครับ อันนี้ก็คงอาจจะต้องกังวลไปแต่เพียงแต่ว่าเราก็ตอบโจทย์เค้าในเรื่องของการที่ว่ามี มี Finance เข้ามามา มาตอบสนองกับเค้าทำให้เค้าสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ได้นะครับ ทีนี้อันที่ 2 บริษัทให้ความสำคัญกับเรื่องใดเป็นอันดับแรกในการดำเนินธุรกิจ เอ่อ สำหรับอันเนี้ยที่เราผ่านมาเลยนะครับ คือธุรกิจรีเทลเนี่ย เอ่อ เรายังคงต้องใช้คน นะฮะ เป็น เป็น เป็นปัจจัยสำคัญเลยนะครับ บริษัทจึงให้ความสำคัญเกี่ยวกับ พนักงานและบุคลากรของบริษัทนะครับ เพราะว่า กว่าเราจะทำให้เค้าเป็นคนที่เก่งและมีความสามารถขึ้นมาได้แล้วก็มีกลุ่มลูกค้าที่มีแฟนคลับของเขา นะครับ สิ่งเหล่านี้เป็น เป็นการใช้เวลาที่ นานนะครับ นานพอสมควรเลยเป็น เป็นปีน ๆ ดีกว่านะครับ ซึ่งเราก็คิดว่าตรงเนี้ย มัน มันเป็นสิ่งที่จะช่วยทำให้บริษัทเนี้ยมีความยั่งยืนนะครับ ถ้า ถ้าเราเริ่มต้นใหม่มามีการรับคนเข้ามาเนี่ย เราก็จะต้องสูญเสียเวลาไปกับเรื่องของการ ทำ Training การทำ Coaching อะไรต่างๆ ซึ่งผมคิดว่าตรงเนี้ยเรา เราน่าจะ เอ่อ มีความ ได้ ได้เปรียบนะครับ เพราะว่าจำนวนของเรายังอยู่ในไซส์ที่เราสามารถ manage ได้นะครับ แล้วก็ที่สำคัญที่สุดก็คือ เอ่อ อย่างไรก็ตามถ้าเราสามารถ Control เรื่องของค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้นะในเรื่องของคนแล้วก็เรื่องของการอบรมเนี่ย ผมก็คิดว่ามันก็จะซ้อนกลับมาในเรื่องของผลกำไรของบริษัท ถ้า เค้ามีความสามารถในการที่จะ เอ่อ ให้บริการแล้วก็ขายสินค้าให้กับลูกค้าได้นะครับ

**หัวข้อคำถาม-คำตอบ:** * **ความกังวลและวิธีรับมือ:** * กังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจไทย, สงครามการค้า, และการเมือง * รับมือด้วยการลงทุนอย่างระมัดระวังและโฟกัสที่ร้านเดิม * **ความสำคัญอันดับแรก:** * พนักงานและบุคลากร * เน้นการรักษาฐานลูกค้าเดิมและสร้างความสัมพันธ์ที่ดี * **ตัวเลข ROIC และ WACC:** * ROIC เฉลี่ยประมาณ 11% * WACC คำนวณอยู่ที่ประมาณ 7% * **ผลกระทบจากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต:** * ยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจน * อาจกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ไม่แน่ใจว่าจะนำไปซื้อสินค้าไอทีหรือไม่ * **มุมมองต่อธุรกิจช่วงนี้:** * เดือนเมษายนยังมีโมเมนตัมที่ดี * ขอประเมินสิ้นเดือนหรือต้นเดือนหน้าถึงจะชัดเจน * **ผลกระทบจาก Easy e-Receipt:** * ช่วยได้มาก * บริษัทปรับระบบเป็น e-Receipt หมดแล้ว * **แนวโน้มยอดขายไตรมาส 2:** * ยังเร็วเกินไปที่จะสรุป * ยอดขายช่วงต้นไตรมาสยังดี * **การบริหารค่าใช้จ่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์:** * ไม่ลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ * ทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มและใช้เงินทำโปรโมชั่น * บริหารจัดการค่าธรรมเนียมและจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด * **ผลกระทบจากกำลังซื้อที่ลดลง:** * ยังเร็วเกินไปที่จะสรุป * ยอดขายช่วงต้นไตรมาสยังดี * **แนวทางการบริหารค่าใช้จ่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ Shopee Lazada:** * ใช้ Strategy Pricing * ลดการลดราคาซัมเมอร์เซลล์ * ใช้เงินบางส่วนในการทำโปรโมชั่นร่วมกับ Shopee Lazada เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้คูปองส่วนลดได้ * **ผลกระทบจากกำลังซื้อที่ลดลงใน Quarter 2 ที่มีต่อ Same store growth ใน Q2:** * ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปภาพรวม เพราะเพิ่งเดินทางมาถึงครึ่งทางของไตรมาส * ช่วงต้นไตรมาส 2 ยอดขายยังคงเติบโต

สรุป: SPVI ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นทั้งการขยายสาขาและการเติบโตในตลาดออนไลน์ บริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

โพสต์ล่าสุด