บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
ASK โชว์ผลงาน Q1/2568: ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ลด แต่กำไรพุ่ง 767% จาก Q4!
P/E 13.23 YIELD 3.29 ราคา 7.30 (0.00%)
ASK โชว์ผลงาน Q1/2568: ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ลด แต่กำไรพุ่ง 767% จาก Q4!
1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**ในไตรมาส 1 ปี 2568 ASK มียอดปล่อยสินเชื่อใหม่ 4,257 ล้านบาท ลดลง 44% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปีที่แล้ว แต่เติบโต 14% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว
Total revenue อยู่ที่ 1,424 ล้านบาท ลดลง 14% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปีที่แล้ว และลดลง 7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปีที่แล้ว Total expense อยู่ที่ 1,243 ล้านบาท ลดลง 14% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปีที่แล้ว และลดลง 18% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปีที่แล้ว
กำไรสุทธิอยู่ที่ 146 ล้านบาท ลดลง 16% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปีที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้น 767% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปีที่แล้ว
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงมาตรฐานรถบรรทุกจากยูโร 3 เป็นยูโร 5 ซึ่งทำให้ผู้ผลิตบางรายยังไม่สามารถเพิ่มสายการผลิตได้ทันที นอกจากนี้ ความไม่มั่นใจของผู้ประกอบการจากสภาพเศรษฐกิจก็มีผลต่อยอดขายด้วย
2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**ASK มองเห็นโอกาสในการเพิ่ม Market share แม้ว่ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่จะยังไม่กลับไปเท่าเดิมเหมือนไตรมาส 1 ของปีก่อน นอกจากนี้ บริษัทยังมีโอกาสในการขยายสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับโซลาร์เซลล์ผ่าน BGL ซึ่งมีการเติบโตที่ดี
กลยุทธ์ของบริษัทคือการปรับโมเดลการให้สินเชื่อ โดยเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพในการชำระหนี้ และมีการติดตามหนี้อย่างใกล้ชิด
3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**ASK เผชิญกับความเสี่ยงจาก NPL ที่สูงขึ้น (7.20%) แม้ว่าจำนวน NPL จะลดลง แต่เนื่องจาก Portfolio หดตัว ทำให้ %NPL สูงขึ้น นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาครัฐ เช่น อัตราภาษี ก็เป็นความเสี่ยงที่ต้องติดตาม
ความเสี่ยงอีกด้านคือการแข่งขันในตลาดรถบรรทุกมือสอง ซึ่งผู้ประกอบการมีความระมัดระวังในการซื้อรถไปขาย ทำให้มีการต่อรองราคาที่สูงขึ้น
4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**ASK ใช้วิธีการปรับปรุงกระบวนการให้สินเชื่อ โดยเน้นการประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า และมีการติดตามหนี้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ บริษัทยังมีการปรับเปลี่ยนทีมงานติดตามหนี้ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกหนี้ที่เปลี่ยนไป
บริษัทมีการดำเนินการขายรถยึดเอง โดยร่วมมือกับ Dealer บางแห่งในการปรับปรุงสภาพรถและจัดทำสถานที่ขาย นอกจากนี้ ยังมีการโปรโมทแบรนด์ "เอเชียขายรถ" เพื่อให้ผู้ประกอบการรับรู้ถึงรถบรรทุกยูโร 3 ที่มีคุณภาพ
5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**ASK คาดการณ์ว่า Portfolio จะยังคงลดลงในไตรมาส 2 แต่คาดว่าสิ้นปีจะอยู่ที่ประมาณ 63,000 ล้านบาท ลดลง 5-6% บริษัทตั้งเป้าให้สินเชื่อใหม่เติบโต 5% แต่ในไตรมาส 1 ลดลง 44% และตั้งเป้าลด NPL ให้ต่ำกว่า 6% แต่ปัจจุบันยังอยู่ที่ 7.20%
บริษัทมองว่าธุรกิจเช่าซื้อรถบรรทุกจะฟื้นตัวได้หลังจากการตกลงเรื่องภาษี และมีการเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง โดยการดูแลลูกค้าที่มีอยู่ให้ดี และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น สินเชื่อโซลาร์เซลล์และรถกระบะเชิงพาณิชย์
6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session):** [เริ่ม Q&A นาทีที่ 42.47]-
**กำไร Q1 ดีขึ้น แสดงว่าบริษัทเริ่มดีขึ้นแล้วใช่ไหม และไตรมาสต่อๆ ไปจะดีขึ้นหรือไม่**
- ผู้บริหาร: Q1 ดีขึ้นจากการปรับตัว แต่ Q2 สถานการณ์ไม่เหมือนเดิม มีเรื่องนักท่องเที่ยว เรื่องผลผลิตการเกษตรที่เจอเรื่องส่งออก อาจมีแค่เรื่องก่อสร้างที่รัฐบาลวางไว้ที่อาจจะดี
-
**กลยุทธ์หลักของบริษัทในไตรมาส 2 จนถึงสิ้นปีมีอะไรบ้าง**
- ผู้บริหาร: ใน Q2 สถานการณ์เปลี่ยนเยอะ ต้องดูแลคุณภาพลูกหนี้ที่มีให้ดี ปรับกองที่เป็น NPL ให้เร็ว ปรับตัว SM ให้จ่ายเงินให้ได้ ของใหม่ที่เข้ามาต้องไม่เป็นภาระ พยายามดูโมเดลทุกเดือน ถ้ายังแทร็กแล้วยังจ่ายได้อยู่ก็ทำ แต่ถ้าเริ่มไม่ดีก็ต้องรีบปรับโมเดลการปล่อยทันที
-
**แนวโน้มการปล่อยสินเชื่อใหม่ในปีนี้เป็นอย่างไร**
- ผู้บริหาร: Q2 ไม่กี่วันมานี้ ผู้ผลิตรถอีกยี่ห้อที่ยังไม่ผลิต Euro 5 ก็มีการเปิดตัวแล้ว แต่จะเป็นรถใหญ่ พวกหัวลาก 10 ล้อ ส่วน 4 ล้อ 6 ล้ออาจจะต้องรอไปถึงปีหน้า กองนี้จะเริ่มขายใน Q3 แต่ด้วยสถานการณ์ผู้ประกอบการก็ต้องดูด้วยว่าพร้อมจะซื้อไหม เพราะช่วงนั้นอาจจะเจอเรื่องภาษีศุลกากร ต้องว่ากันเป็นรายๆ ไป แต่ในกลุ่มบาง Industry ที่เขาไม่กระทบ ขึ้นอยู่กับผู้จ้างกับผู้ว่าจ้าง ถ้าผู้จ้างต้องการรถใหม่มันก็ได้ซื้อ แต่ถ้าผู้ว่าจ้างไม่จำเป็นต้องใช้ถึงขนาดรถใหม่ ก็ทำให้รถเก่าที่เป็น Euro 3 ดีขึ้น
-
**ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ในไตรมาส 1 ลดลงมาก ผลิตภัณฑ์ใดที่ลดลงมากที่สุด และมีผลิตภัณฑ์ใดที่ยอดปล่อยสูงขึ้นหรือไม่**
- ผู้บริหาร: ผลิตภัณฑ์หลักเรามันลดลงตามยอดขาย แต่ Q4 Market Share เราค่อนข้างลดลงสุด ตอนนี้ Q1 Market Share เราเริ่มเพิ่มขึ้น แต่จะเพิ่มขึ้นไปถึงไหนมันก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพลูกค้าที่จะเข้ามาซื้อด้วย ถ้ายังเป็นกลุ่มที่เรามอง/ประเมินว่าจ่ายค่าผ่อนได้ไม่ได้ เราก็คิดว่าไม่อยากเป็นภาระที่จะเอาเข้ามา
-
**รายได้ค่าประกันลดลงมาก มีแผนในการแก้ไขอย่างไร**
- ผู้บริหาร: ถ้ารายได้ค่าประกันจะเพิ่มขึ้นก็ต้องตามยอดขาย จริงๆ Q1 เราเพิ่มขึ้น ต่อเนื่องไปถึง Q2 Q3 Q4 ยอดพวกนี้มันจะเพิ่มขึ้น
- ผู้บริหาร: แต่ในส่วนที่เป็น Reinsurance เนี่ย อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับเราสามารถเข้าไปถึงผู้ประกอบการพวกนี้ได้หรือไม่ เพราะพวกนี้เขาทำกันมานานเกี่ยวกับเรื่องประกันภัย เขาจะต้องทำประกันทุกปีอยู่แล้ว เขาจะมีตัวแทนของเขาอยู่แล้ว อันนี้เราก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป ให้เวลากับทีมงานเขา
- ผู้บริหาร: แต่ของใหม่เนี่ยเป็นธรรมเนียมที่เขารู้ว่าเขาต้องทำผ่านธนาคารหรือสถาบันการเงินเป็นหลัก
-
**ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น และผลขาดทุนจากสินทรัพย์รอการขายลดลงมาก เกิดจากส่วนใด และสาเหตุใด และได้ และในไตรมาส 2 จะจะลดลงต่อเนื่องหรือไม่**
- ผู้บริหาร: ราคาซื้อเริ่มปรับตัวดีขึ้น อาจจะเป็นเพราะว่าของเริ่มน้อยลง
- ผู้บริหาร: เราก็มีการจัดการเกี่ยวกับการขาย โดยไม่ขายผ่านการประมูลเป็นอย่างเดียว มีการขายเอง มีการร่วมมือกับ Dealer ที่เป็นผู้ผลิต ในการเอารถไปปรับปรุงสภาพแล้วขาย
- ผู้บริหาร: ตอนนี้เราก็เริ่มจัดทำสถานที่ในการขาย โปรโมทแบรนด์ "เอเชียขายรถ" ขึ้นมาเพื่อให้ผู้ประกอบการรับรู้ว่าถ้าเกิดจะหารถใช้แล้วที่เป็น Euro 3 เนี่ย ลองมาดูที่นี่ มีทั้งรถ มีทั้งสินเชื่อ
-
**ปัจจุบันมีรถยึดในสต็อกกี่คัน เป็นรถปีใดมากที่สุด และหากขายรถยึดทั้งหมดจะต้องตั้งขาดทุนเพิ่มเท่าไหร่**
- ผู้บริหาร: ก็ราวๆ 2,000 กว่าคัน ปีก็ราวๆ 1-5 ปีเป็นส่วนใหญ่ครับ
- ผู้บริหาร: จริงๆ ไม่ต้องตั้ง ตั้งขาดทุนเพิ่มแล้ว เพราะว่าเราตั้งสำรองไปครบถ้วนแล้วนะครับ ประมาณ 30% นะครับ
-
**ปัจจุบันมีรถยึดเข้าเดือนละกี่คัน และขายได้ออกเดือนละกี่คัน**
- ผู้บริหาร: ตอนนี้เนี่ยรถยึดเราเนี่ยต่ำกว่า 200 คันต่อเดือน แล้วก็ขายออกเนี่ยก็เกินกว่า 200 คัน
-
**ตลาดและราคารถมือสองปัจจุบันเป็นอย่างไร**
- ผู้บริหาร: ตามที่ Track ดู จากการที่ประมูล แล้วก็การซื้อขายรถ จากเทียบจากของเดิมที่เราตาม Track เมื่อ 6 เดือนก่อน เปอร์เซ็นต์การขายนี่เราก็ดีขึ้น อัตราขาดทุนก็ลดลงตามภาพที่เห็น
- ผู้บริหาร: แสดงถึงการที่ว่าของอาจจะน้อย เริ่มน้อยลง ของใหม่ก็ถึงแม้จะมี Euro 5 แต่ก็ราคาแพง Euro 4 ถ้าเป็นหัวลาก หรือ 10 ล้อเนี่ย ตอนนี้ไม่มีของ ไม่ว่าเป็นอีกยี่ห้อหนึ่งหรืออีกยี่ห้อหนึ่งก็หมดแล้วไม่มี ก็เหลือแต่รุ่นที่ไม่ใช่เป็นที่ยึด เป็นที่นิยม ก็เล็กน้อย
-
**บริษัทมีแผนเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือทดแทนการปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกหรือไม่**
- ผู้บริหาร: ในส่วนนี้ เราก็มีเรื่องสินเชื่อที่เกี่ยวกับโซล่าเซลล์ ซึ่งทำผ่านทาง BGL ก็ค่อนข้างเติบโตดี
- ผู้บริหาร: แต่ในส่วนที่เป็นสินเชื่อเช่าซื้อ ก็ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์หลักอยู่ ในเรื่องรถบรรทุก เครื่องจักร
-
**ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงเกิดจากสาเหตุใด และจะสามารถลดลงมากกว่านี้ได้หรือไม่**
- ผู้บริหาร: จริงๆ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารก็ลดลงก็ไม่ ไม่ค่อยเยอะนะครับ เนื่อง ทีนี้ จะลด จะลดลงมากกว่านี้ได้รึเปล่า ก็คงจะลดลงมากกว่านี้ไม่ ไม่ค่อยได้นะครับ เพราะว่าส่วนใหญ่เนี่ยจะเป็น Fixed Cost อยู่ เช่นพวกเงินเดือนพนักงานนะครับ แล้วก็พวกค่าเช่าตึกต่างๆ นะครับ ก็ รวมๆ แล้วน่าจะมี Fixed Cost อยู่ประมาณเกือบๆ ประมาณ 80% นะครับ
-
**เครดิตคอร์สลดลงเกิดจากสาเหตุใด และไตรมาส 2 จะเป็นอย่างไร**
- ผู้บริหาร: สำหรับเครดิตคอร์ส ลดลงเนื่องจากเรามีการเก็บเงินที่ดีขึ้น สำหรับไตรมาส 2 ก็ ก็ยังคงคิดว่าน่าจะดีกว่าไตรมาสแรกนะครับ
-
**Portfolio ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ใน Q2 ยังมี ยังมีแนวโน้มที่จะลดลงหรือไม่ และคาดว่าสิ้นปีจะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่**
- ผู้บริหาร: ตอนนี้ก็ยังคงลดลงอยู่ ใน Q2 ก็คงจะยังคงลดลงอยู่ สิ้นปีคาดว่า Portfolio ก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 63,000 ล้านบาท นะครับ ก็ลดลงประมาณ 5-6% นะครับ
-
**รถมือหนึ่งจะกลับมาโตได้อีกหรือไม่ รถ Euro 5 เริ่มผลิตและขายได้บ้างหรือยัง**
- ผู้บริหาร: Euro 5 เนี่ยยี่ห้อหนึ่งขายแล้วนะครับ อีกยี่ห้อหนึ่งก็เปิดตัวแล้วนะฮะ กำลังรอดูยอดขายนี้อีก 2-3 เดือนข้างหน้า
- ผู้บริหาร: แต่ถามว่าปริมาณเยอะไหมนะฮะ ก็ยังไม่เยอะ ยังไม่ได้ซื้อขายกันในกลุ่มผู้ประกอบการที่อีกชั้นหนึ่ง ส่วนชั้นที่เขาใช้ Euro 5 เนี่ย ก็จะเป็นเรื่องของที่มาจากผู้ว่าจ้างโดยตรงเลยว่าต้องการรถใหม่ อันนี้ก็เริ่มมียอดขายครับ
- ผู้บริหาร: แต่ว่าจะกลับไปขายได้ตาม ตามที่เราเคยขายกันเมื่อปี 65 66 เนี่ย คาดว่าจะต้องรอดูเรื่องของ พวกสงครามการค้าเนี่ยจะทำให้มันมีดีขึ้นหรือแย่ลงนะครับ ใหม่ๆ ก็อาจจะมีการชะลอกัน แต่ผมว่าพอคลี่คลายเนี่ย ทุกอย่างมันก็น่าจะกลับมา เพียงแต่บางอย่างก็จะหายไป แต่บางอันมันก็จะกลับขึ้นมา
- ผู้บริหาร: เพราะฉะนั้นในช่วงนี้เราก็เตรียมตัวแค่ดูนะครับ แล้วก็ดูแลตัวเองให้แข็งแรงนะครับ แล้วก็ค่อยๆ ตอบสนองกับตลาดไปนะฮะ ทุกอย่างก็จะคลี่คลายกลับไปสู่ สู่จุดที่เคยเป็นนะครับ
-
**ต้นทุนทางการเงินในปีนี้จะลดลงหรือไม่ คาดว่าทั้งปีจะเป็นเท่าไหร่**
- ผู้บริหาร: ก็จริงๆ ต้นทุนทางการเงินก็จะต้องขึ้นอยู่กับว่า กนง. เนี่ยจะลดดอกเบี้ยอีกรึเปล่านะครับ ถ้าเกิดสมมุติว่าไม่ลดแล้วเนี่ย ต้นทุนทางการเงินก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ ประมาณ 3.4 นะครับ 3.4% ครับ
-
**บริษัทมีแผนการออกหุ้นกู้เพิ่มขึ้นหรือไม่ วงเงินเท่าไหร่และดอกเบี้ยเท่าไหร่**
- ผู้บริหาร: สำหรับไตรมาสที่ 2 เนี่ยคง คงจะยัง ไม่ ไม่ออกหุ้นกู้นะครับ เพราะว่าใน ไตรมาสที่ 2 เนี่ย เอ่อ เรายังมีการเพิ่มทุนแล้วก็เงินที่เข้ามาจากการเพิ่มทุนนะครับ
- ผู้บริหาร: แล้วอีกประการหนึ่งก็คือตอนนี้เนี่ยเราเก็บเงินค่างวดเนี่ยจากลูกค้าเนี่ยมากกว่าที่ปล่อยสินเชื่อออกไปเพราะฉะนั้นเนี่ยเราจะมีเงินเหลืออยู่ประมาณเดือนหนึ่งประมาณ 8-900 ล้านบาทนะครับ ก็คาดว่าเราจะออกหุ้นกู้อีกครั้งหนึ่งก็น่าจะประมาณไตรมาสที่ 3 นะครับ ก็วงเงินก็น่าจะอยู่สักประมาณ 2,000 ล้านบาทนะครับ ก็ 3 ปีนะครับ
- ผู้บริหาร: สำหรับดอกเบี้ย ณ ตอนนี้ เอ่อ เท่าที่เช็คดูเนี่ยก็อยู่ที่ประมาณ 3 ปีอยู่ที่ สำหรับเรตติ้ง A นะครับอยู่ที่ประมาณ 3.1 นะครับ 3.1%
-
**Market Share ตลาดรถบรรทุกของปัจจุบันของบริษัทอยู่ที่เท่าไหร่ค่ะ และบริษัทมีแนวทางในการรักษา Market Share อย่างไร**
- ผู้บริหาร: ปัจจุบันก็อยู่ราวๆ 20 นิดๆ นะครับ
- ผู้บริหาร: การรักษา Market Share เนี่ย จริงๆ แล้วก็ เราก็ จริงๆ ถ้าเพิ่ม Market Share มากๆ ก็อย่างที่เห็นอยู่นะครับมัน เอาลูกค้าทุกอย่างเข้ามานะฮะ มันก็จะดูแลไม่ได้นะ เพราะบาง บางอย่างเนี่ย เขา ก็ไม่มีความสามารถจะจ่ายนะ เพราะฉะนั้น เราแค่ดู Market Share ในจุดที่ว่าเราทำแล้วเราเก็บเงินได้ดีกว่านะ ผม ผม ผมคิดว่าเป็นจุดที่ดีที่สุดนะครับ
-
**จากมุมมองผู้บริหารคาดว่าธุรกิจเช่าซื้อรถบรรทุกจะฟื้นตัวได้เมื่อใด**
- ผู้บริหาร: ขอดูหลัง เอ่อ ทาง การตกลงเรื่อง เรื่องภาษีนะ ซึ่ง เขาก็พยายามคุยกันใน ใน ช่วงที่เวฟ 90 วันนะฮะ เอ่อ ว่าจะเป็นภาพใดนะครับ แต่ระหว่าง สหรัฐ กับ จีนเนี่ย เขาก็ เอ่อ มีการคุยกันแล้วนะครับ ก็ ค่อนข้างต่อรองกันพอสมควรนะฮะ ซึ่งตัวนี้ก็มีผลโดยตรงเพราะว่าจีนเองก็ เอ่อ มีการผลิตที่ประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียก็หลายแห่งนะครับ อันนี้ก็ต้องไปดูผล ของการ เอ่อ อัตราภาษีนะ เพราะมันมีผลโดยตรงกับ ราคาที่จะขายแล้วก็กลับมาที่ต้นทุนว่าควรจะผลิตหรือไม่ควรผลิตนะ ซึ่งมันจะไปกระทบโดยอ้อมเกี่ยวกับการ แล้วควรผลิตที่เมืองไทยรึเปล่าอะไรอย่างเงี้ยนะฮะ โดยตรงนี่มันเห็นอยู่ บางทีก็หยุดเลยนะ ถ้าโดยอ้อมเนี่ยอาจจะโดน โรงงานปิดอะไรพวกนี้นะ แต่คิดว่าผมคิดว่ามันไม่น่าจะขนาดนั้นนะครับ ก็ น่าจะค่อย ค่อยๆ คลี่คลาย แต่บาง ต้องยอมรับว่าบางส่วนก็ต้อง จบไป แต่บางส่วนก็จะเกิดขึ้นมาใหม่นะครับ ซึ่ง ซึ่งเราถ้าพร้อมที่เราจะทำใหม่ เราก็จะได้ทำทันทีกับคนที่ไปได้ ส่วนใครที่ไปไม่ได้เราก็จะ ได้ เอ่อ เซตดาวน์กันไปอะไรประมาณนี้ใช่มั้ย แต่ถ้ารวมๆ ปล่อยตอนนี้แรงๆ เหมือนตลาดไม่เกิดอะไรขึ้นเนี่ยอาจจะ เราก็ต้องมา มาเคลียร์ตัวเองในอนาคตในขณะที่กำลังตลาดกำลังจะไปไกลๆ เราก็จะเสียโอกาสตรงนั้นนะครับ ตอนนี้ผมว่าเราพยายามดูแลตัวเองให้แข็งแรงนะครับ อันไหนที่เราจัดการได้ก็รีบจัดบ้านปัดกวาดให้เรียบร้อยนะครับ แล้วก็พร้อมที่จะ เอ่อ ทำใหม่ทันทีนะฮะ แล้วก็ดูแลเรื่องผลิตภัณฑ์ใหม่ เรื่องฟีเจอร์ไหนที่เรายังไปไม่ได้ทำหรืออะไรก็ค่อยๆ ทำไปนะฮะ ไม่ว่าจะเป็นอย่างที่เรียนไปนะฮะ เรื่องของ เอ่อ ลด ความเสี่ยงจากการขายขาดทุนโดยมีรัฐบาลค้ําประกันจาก เอ่อ รถบรรทุกที่ ที่อยู่ในขอบข่ายที่เขายอมค้ํานะครับ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ เอ่อ Financial Lease นะ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าเช่าซื้อในรถกลุ่มที่เราทำอยู่บางอันนะครับ หรือในกลุ่ม รถ กระบะที่เป็นรถไฟฟ้า ที่จะเกิดขึ้น เอ่อ ถ้าเกิดเข้ามาอยู่ในกลุ่มที่รัฐบาลค้ําประกันเราอาจจะต้องเข้าไปจัดการด้วยรึทำด้วยรึเปล่าเพื่อเพิ่มยอดนะ ยังมีนะฮะ ไม่ใช่ว่าเราจะหยุดนิ่งเพียงแต่ว่าทุกอย่างมันไม่ ยังไม่ชัดเจนก็ยังไม่อยากพูดอะไรในตรงนี้ แต่มันมีโอกาสหลายแห่งนะครับ เพียงแต่ว่า เอ่อ พูดไปตอนนี้ก็ เอ่อ ใช้เวลากับตรงนั้นมาดูแล สิ่งที่กำลังจะต้องจัดการใน Q2 Q3 ก่อนนะ เพื่อเตรียมพร้อมรับกับสิ่งที่มันอาจจะเลวร้ายรึเปล่า เราก็ต้องเตรียมตัวครับผมครับ
โดยสรุป ASK เผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม แต่ก็มีโอกาสในการเติบโตจากผลิตภัณฑ์ใหม่และการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน บริษัทกำลังมุ่งเน้นไปที่การบริหารจัดการความเสี่ยงและเตรียมพร้อมสำหรับการฟื้นตัวของตลาดในอนาคต