https://aio.panphol.com/assets/images/community/6469_db8ca9.png

NRF Oppday Summary

P/E -100.00 YIELD 0.00 ราคา 0.00 (0.00%)

## NRF Oppday สรุปผลประกอบการปี 2568 ไตรมาส 1: เผชิญความท้าทาย สู่โอกาสเติบโตใหม่

สวัสดีครับ ต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ Oppday ไตรมาส 1 ประจำปี 2568 วันนี้ผม แดน CEO พร้อมด้วยคุณ CFO และคุณ COO จะมานำเสนอภาพรวมธุรกิจและผลประกอบการของ NRF ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ธุรกิจของเราได้รับผลกระทบทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบ ได้แก่:

  • **การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนำเสนอ:** มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอผลประกอบการเล็กน้อยในครั้งนี้

  • **ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย:** ผู้ฟังประกอบด้วยผู้ถือหุ้น, ผู้ถือหุ้นกู้, Stakeholder, และ Regulator

  • **อายุบริษัทในตลาด:** บริษัทฯ ยังมีอายุไม่มากนักในฐานะบริษัทมหาชน

  • **ความโปร่งใส:** มุ่งเน้นการนำเสนอข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ทั้งด้านดีและไม่ดี

ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับผลกระทบ:

  • สัดส่วนรายได้จากการผลิตและการขาย Ethnic Food เพิ่มขึ้นเกือบครึ่งหนึ่ง

  • Plant-based และอาหารสัตว์เลี้ยงยังคงมีสัดส่วน 25% ของรายได้

  • รายได้รวมลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งจะมีการอธิบายถึงสาเหตุต่อไป

การดำเนินงานของบริษัทฯ มุ่งเน้นไปที่:

  • การผลิตในประเทศไทย

  • การขายในยุโรป โดยเฉพาะในอังกฤษผ่านร้าน Supermarket ของเรา

โรงงาน Plant-based ที่เป็นการร่วมทุนกับ ปตท. มีความคืบหน้าช้า แต่ในแง่ของลูกค้าระดับโลก ถือว่าไปได้ดีและได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

บริษัทฯ มองเห็นโอกาสทางธุรกิจในหลายด้าน:

  • **ตลาดยุโรป:** EU มีการประกาศกระตุ้นเศรษฐกิจในด้าน Defense ด้วยงบประมาณ 1 Trillion ยูโร

  • **ข้อตกลง UK-EU:** นายกฯ อังกฤษได้ทำข้อตกลงกับ EU ซึ่งคาดว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาค Asian Restaurant และ Supermarket

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

บริษัทฯ กำลังเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายหลายประการ:

  • **ประเด็น ESG:** การเปลี่ยนแปลงนโยบายในสหรัฐฯ ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความสำคัญของการลงทุนใน ESG

  • **การผิดนัดชำระหนี้:** บริษัทฯ ไม่สามารถชำระหนี้หุ้นกู้ได้ตามกำหนด (20 เมษายน 2568) และชำระได้เพียงดอกเบี้ยบางส่วน

  • **ปัญหาการขาย Asset:** การขาย Asset ไม่เป็นไปตามแผน ทำให้ไม่สามารถ Matching กับการชำระหนี้ได้

  • **สภาพคล่อง:** การถูกดึงวงเงินสินเชื่อคืนจากสถาบันการเงินหลายแห่ง ทำให้สภาพคล่องของบริษัทฯ ขาดแคลน

ผลกระทบจากความเสี่ยง:

  • การผลิตไม่สามารถทำได้ตาม Order

  • Financial Ratio อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

บริษัทฯ มีแผนการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบดังนี้:

  • **เจรจาขยายอายุหนี้:** ประชุมผู้ถือหุ้นกู้เพื่อขอยืดอายุการชำระหนี้

  • **ปรับปรุงสภาพคล่อง:** ทำงานร่วมกับสถาบันการเงินที่มีอยู่, ขาย Asset (ถ้าทำได้), และดึงสภาพคล่องกลับมา

  • **ระดมทุนฉุกเฉิน:** พิจารณาการระดมทุนฉุกเฉินเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง

  • **Rebuild Balance Sheet:** ปรับปรุงงบการเงินให้ดูดีขึ้นในทุกไตรมาส

  • **แก้ไขปัญหางบ Audit:** ให้บริษัทที่ลงทุนปิดงบ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากมาตรฐานบัญชีที่ไม่สม่ำเสมอ

บริษัทฯ มุ่งเน้นการพึ่งพาตนเอง (Self-reliance) และรักษาความสัมพันธ์กับสถาบันการเงินที่ดี

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์และเป้าหมายในการเติบโตระยะยาวดังนี้:

  • **Focus on Core Business:** มุ่งเน้นการผลิตและขาย Ethnic Food

  • **Growth Mode:** กลับเข้าสู่โหมดการเติบโตอีกครั้ง

  • **ขยายธุรกิจ:** เข้าสู่ธุรกิจที่มีกำไรและอัตราการเติบโตสูง

  • **ตลาดยุโรป:** ใช้ประโยชน์จากโอกาสในตลาดยุโรป โดยเฉพาะในอังกฤษ

  • **TikTok:** ใช้ประโยชน์จาก TikTok เพื่อขยาย Market Share

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 54:38]

  1. ภาพรวมปี 2568 คาดการณ์รายได้และการเติบโต

    ตอบ: ยังไม่สามารถให้ Guidance ได้เนื่องจากต้องแก้ไขปัญหาสภาพคล่องก่อน หากแก้ไขได้ คาดว่าจะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก

  2. แนวโน้มไตรมาส 2 ปีนี้เทียบกับปีก่อน

    ตอบ: คล้ายกับ Q1 แต่ Q3 จะดีกว่า Q2 โดยรวม Q2 ยังมีปัญหาสภาพคล่อง ต้องมองครึ่งปีหลัง

  3. เหตุผลที่ EBITDA ติดลบ

    ตอบ: รายได้และ Gross Margin ลดลง, อัตราแลกเปลี่ยนมีผลกระทบ, และมี One-off จากการตั้งสำรองบัญชี

  4. ภาพรวมอุตสาหกรรมในปัจจุบันและอนาคต

    ตอบ: Bullish มากในอาหารเอเชีย เพราะคนทั่วโลกต้องการอาหารเอเชียมากขึ้น และอาหารสัตว์เลี้ยงก็เติบโตต่อเนื่อง

  5. การดำเนินงานครึ่งปีหลัง

    ตอบ: หากผู้ถือหุ้นกู้สนับสนุน คาดว่าจะกลับมาแข็งแรง

  6. ผลกระทบนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ

    ตอบ: หากภาษีของไทยถูกกว่าเวียดนามและจีน ไทยจะได้เปรียบ หากภาษีเท่ากัน จะไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่ความไม่แน่นอนทางการค้าและการเมืองส่งผลให้บริษัทใหญ่หันมามองไทยมากขึ้น

  7. การรับมือกับภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ

    ตอบ: เน้นการเติบโตในยุโรป, ขยายสาขา Retail, Focus on Core Business, และขยายตลาดในเอเชีย

  8. แผนปี 2568 มีการลงทุนเพิ่มหรือไม่

    ตอบ: ไม่มี นอกจากการขยาย Supermarket (หลักล้านบาท)

  9. หุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระ

    ตอบ: รุ่นแรก 700 ล้านบาท ขยายไปแล้ว รุ่นที่สองขยายไป 2 ปี (20 เมษายน 2570) แต่มีผิดนัดชำระ 15% (195 ล้านบาท) ทำให้ต้องชำระที่ 1,300 ล้านบาท

  10. วันประชุมผู้ถือหุ้นกู้

    ตอบ: 30 พฤษภาคมนี้ เรื่อง 195 ล้านบาท

สรุป:

NRF กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านสภาพคล่อง แต่ยังมีโอกาสเติบโตในตลาดยุโรปและเอเชีย บริษัทฯ มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และปรับกลยุทธ์เพื่อกลับสู่เส้นทางการเติบโตที่ยั่งยืน

โพสต์ล่าสุด