บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
NRF Oppday Summary
P/E -100.00 YIELD 0.00 ราคา 0.00 (0.00%)## NRF Oppday สรุปผลประกอบการปี 2568 ไตรมาส 1: เผชิญความท้าทาย สู่โอกาสเติบโตใหม่
สวัสดีครับ ต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ Oppday ไตรมาส 1 ประจำปี 2568 วันนี้ผม แดน CEO พร้อมด้วยคุณ CFO และคุณ COO จะมานำเสนอภาพรวมธุรกิจและผลประกอบการของ NRF ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ธุรกิจของเราได้รับผลกระทบทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบ ได้แก่:
**การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนำเสนอ:** มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอผลประกอบการเล็กน้อยในครั้งนี้
**ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย:** ผู้ฟังประกอบด้วยผู้ถือหุ้น, ผู้ถือหุ้นกู้, Stakeholder, และ Regulator
**อายุบริษัทในตลาด:** บริษัทฯ ยังมีอายุไม่มากนักในฐานะบริษัทมหาชน
**ความโปร่งใส:** มุ่งเน้นการนำเสนอข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ทั้งด้านดีและไม่ดี
ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับผลกระทบ:
สัดส่วนรายได้จากการผลิตและการขาย Ethnic Food เพิ่มขึ้นเกือบครึ่งหนึ่ง
Plant-based และอาหารสัตว์เลี้ยงยังคงมีสัดส่วน 25% ของรายได้
รายได้รวมลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งจะมีการอธิบายถึงสาเหตุต่อไป
การดำเนินงานของบริษัทฯ มุ่งเน้นไปที่:
การผลิตในประเทศไทย
การขายในยุโรป โดยเฉพาะในอังกฤษผ่านร้าน Supermarket ของเรา
โรงงาน Plant-based ที่เป็นการร่วมทุนกับ ปตท. มีความคืบหน้าช้า แต่ในแง่ของลูกค้าระดับโลก ถือว่าไปได้ดีและได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
บริษัทฯ มองเห็นโอกาสทางธุรกิจในหลายด้าน:
**ตลาดยุโรป:** EU มีการประกาศกระตุ้นเศรษฐกิจในด้าน Defense ด้วยงบประมาณ 1 Trillion ยูโร
**ข้อตกลง UK-EU:** นายกฯ อังกฤษได้ทำข้อตกลงกับ EU ซึ่งคาดว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาค Asian Restaurant และ Supermarket
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
บริษัทฯ กำลังเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายหลายประการ:
**ประเด็น ESG:** การเปลี่ยนแปลงนโยบายในสหรัฐฯ ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความสำคัญของการลงทุนใน ESG
**การผิดนัดชำระหนี้:** บริษัทฯ ไม่สามารถชำระหนี้หุ้นกู้ได้ตามกำหนด (20 เมษายน 2568) และชำระได้เพียงดอกเบี้ยบางส่วน
**ปัญหาการขาย Asset:** การขาย Asset ไม่เป็นไปตามแผน ทำให้ไม่สามารถ Matching กับการชำระหนี้ได้
**สภาพคล่อง:** การถูกดึงวงเงินสินเชื่อคืนจากสถาบันการเงินหลายแห่ง ทำให้สภาพคล่องของบริษัทฯ ขาดแคลน
ผลกระทบจากความเสี่ยง:
การผลิตไม่สามารถทำได้ตาม Order
Financial Ratio อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
บริษัทฯ มีแผนการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบดังนี้:
**เจรจาขยายอายุหนี้:** ประชุมผู้ถือหุ้นกู้เพื่อขอยืดอายุการชำระหนี้
**ปรับปรุงสภาพคล่อง:** ทำงานร่วมกับสถาบันการเงินที่มีอยู่, ขาย Asset (ถ้าทำได้), และดึงสภาพคล่องกลับมา
**ระดมทุนฉุกเฉิน:** พิจารณาการระดมทุนฉุกเฉินเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง
**Rebuild Balance Sheet:** ปรับปรุงงบการเงินให้ดูดีขึ้นในทุกไตรมาส
**แก้ไขปัญหางบ Audit:** ให้บริษัทที่ลงทุนปิดงบ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากมาตรฐานบัญชีที่ไม่สม่ำเสมอ
บริษัทฯ มุ่งเน้นการพึ่งพาตนเอง (Self-reliance) และรักษาความสัมพันธ์กับสถาบันการเงินที่ดี
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์และเป้าหมายในการเติบโตระยะยาวดังนี้:
**Focus on Core Business:** มุ่งเน้นการผลิตและขาย Ethnic Food
**Growth Mode:** กลับเข้าสู่โหมดการเติบโตอีกครั้ง
**ขยายธุรกิจ:** เข้าสู่ธุรกิจที่มีกำไรและอัตราการเติบโตสูง
**ตลาดยุโรป:** ใช้ประโยชน์จากโอกาสในตลาดยุโรป โดยเฉพาะในอังกฤษ
**TikTok:** ใช้ประโยชน์จาก TikTok เพื่อขยาย Market Share
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 54:38]
-
ภาพรวมปี 2568 คาดการณ์รายได้และการเติบโต
ตอบ: ยังไม่สามารถให้ Guidance ได้เนื่องจากต้องแก้ไขปัญหาสภาพคล่องก่อน หากแก้ไขได้ คาดว่าจะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก
-
แนวโน้มไตรมาส 2 ปีนี้เทียบกับปีก่อน
ตอบ: คล้ายกับ Q1 แต่ Q3 จะดีกว่า Q2 โดยรวม Q2 ยังมีปัญหาสภาพคล่อง ต้องมองครึ่งปีหลัง
-
เหตุผลที่ EBITDA ติดลบ
ตอบ: รายได้และ Gross Margin ลดลง, อัตราแลกเปลี่ยนมีผลกระทบ, และมี One-off จากการตั้งสำรองบัญชี
-
ภาพรวมอุตสาหกรรมในปัจจุบันและอนาคต
ตอบ: Bullish มากในอาหารเอเชีย เพราะคนทั่วโลกต้องการอาหารเอเชียมากขึ้น และอาหารสัตว์เลี้ยงก็เติบโตต่อเนื่อง
-
การดำเนินงานครึ่งปีหลัง
ตอบ: หากผู้ถือหุ้นกู้สนับสนุน คาดว่าจะกลับมาแข็งแรง
-
ผลกระทบนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ
ตอบ: หากภาษีของไทยถูกกว่าเวียดนามและจีน ไทยจะได้เปรียบ หากภาษีเท่ากัน จะไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่ความไม่แน่นอนทางการค้าและการเมืองส่งผลให้บริษัทใหญ่หันมามองไทยมากขึ้น
-
การรับมือกับภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ
ตอบ: เน้นการเติบโตในยุโรป, ขยายสาขา Retail, Focus on Core Business, และขยายตลาดในเอเชีย
-
แผนปี 2568 มีการลงทุนเพิ่มหรือไม่
ตอบ: ไม่มี นอกจากการขยาย Supermarket (หลักล้านบาท)
-
หุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระ
ตอบ: รุ่นแรก 700 ล้านบาท ขยายไปแล้ว รุ่นที่สองขยายไป 2 ปี (20 เมษายน 2570) แต่มีผิดนัดชำระ 15% (195 ล้านบาท) ทำให้ต้องชำระที่ 1,300 ล้านบาท
-
วันประชุมผู้ถือหุ้นกู้
ตอบ: 30 พฤษภาคมนี้ เรื่อง 195 ล้านบาท
สรุป:
NRF กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านสภาพคล่อง แต่ยังมีโอกาสเติบโตในตลาดยุโรปและเอเชีย บริษัทฯ มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และปรับกลยุทธ์เพื่อกลับสู่เส้นทางการเติบโตที่ยั่งยืน