บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

TQM Alpha โชว์ผลงาน Q1/2568 เติบโตต่อเนื่อง พร้อมลุยประกันชีวิต New S-Curve ใหม่

TQM Alpha โชว์ผลงาน Q1/2568 เติบโตต่อเนื่อง พร้อมลุยประกันชีวิต New S-Curve ใหม่

สวัสดีท่านผู้ลงทุนทุกท่าน วันนี้ TQM Alpha นำเสนอผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 โดยได้รับเกียรติจากผู้บริหารมาให้ข้อมูล ได้แก่ ดร. นภัสสนันท์ พรรณิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณสมพร อัมไพสุทธิพงษ์ ประธานบริหารบัญชีและการเงิน (CFO) พร้อมด้วยคุณอริยา ศิลา นักลงทุนสัมพันธ์

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ผลประกอบการในไตรมาส 1 มีการเติบโตทั้งรายได้และกำไร โดยรายได้จากส่วนบริการ (Service) เติบโตเกือบ 3% (2.9%) และ Gross Profit, Net Profit เติบโตเช่นกัน

Gross Profit Margin และ Net Profit Margin ยังอยู่ในระดับตามเป้าหมายที่วางไว้ Gross Profit เกิน 50% และ Net Profit เกิน 20%

ปัจจัยหลักมาจากประกันรถยนต์ซึ่งยังเติบโตได้ดีกว่าตลาด โดยไม่ได้จับแค่ลูกค้ากลุ่มเดิม แต่ขยายไปยังกลุ่มรถปีเก่าและ Segment อื่นๆ นอกจากนี้ยังขยายไปยังตลาด Non-Motor (ประกันชนิดอื่นๆ)

บริษัทในเครือ Easy Lending ก็มีผลประกอบการเติบโตขึ้น แต่เน้นการบริหารความเสี่ยงในสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว

การเติบโตที่เห็นได้ชัดเจนคือประกันบ้านอยู่อาศัย หลังเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งโตมากกว่า 20-30% และมี Renewal Rate สูงกว่า 80%

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

โอกาสทางธุรกิจที่สำคัญคือการเข้าสู่ตลาดประกันชีวิตรายเดี่ยว ซึ่งมองว่าเป็น New S-Curve ของ TQM โดยจะเริ่ม Launch ได้ประมาณกรกฎาคม 2568 หลังจากระบบพร้อม

กลยุทธ์คือการใช้ฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่จำนวนมาก นำเสนอประกันชีวิตเพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองที่ครบวงจร

ร่วมมือกับ Partner เพื่อสร้างการเติบโตให้เร็วขึ้น และสร้าง Product ที่ Innovative ในตลาด

สร้างทีมขายให้มีความเข้าใจใน Product มากขึ้น

มี Life Digital Broker License แล้ว ซึ่งจะช่วยเสริมการขายผ่านช่องทาง Digital

Design Product ประกันชีวิตร่วมกับ Partner สำหรับลูกค้า TQM โดยเริ่มจากลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายก่อน

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

ความเสี่ยงหลักคือสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค

การแข่งขันในตลาดประกันวินาศภัยที่สูง โดยเฉพาะช่องทาง Online และ Offline

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

เน้นการบริหารความเสี่ยงในธุรกิจสินเชื่อ โดยโฟกัสที่ Segment ที่มีความเสี่ยงต่ำ

ลดกระบวนการทำงานที่ยืดเยื้อ และปรับปรุง Process ให้กระชับขึ้น โดยใช้เทคโนโลยี

Turn Skill พนักงานขึ้นไป เช่น การจ้างงานเป็นรายชิ้น (Variable Cost) แทนรายเดือน

ลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

เป้าหมายระยะยาวคือ Premium 50,000 ล้านบาท และรายได้เติบโต 5-10% ต่อปีโดยเฉลี่ย

เน้นการเติบโตใน 3 Pillar หลักคือ Insurance, Financial Solution, และ Technology Platform

ขยายการเติบโตในตลาดประกันบ้านอยู่อาศัย ซึ่งยังมี Penetration Rate ต่ำ (20%)

ใช้ประกันสุขภาพเป็นเรือธงในการขยายตลาดประกันชีวิต

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 40:27 ]

คำถามส่วนใหญ่เน้นไปที่กลยุทธ์การลงทุน, การบริหารจัดการ, และแนวโน้มในอนาคตของบริษัท โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้:

1. ความกังวลและความเสี่ยงใน 1-3 ปีข้างหน้า:
   • ผู้บริหารตอบว่าธุรกิจประกันได้รับผลกระทบน้อยเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นในช่วงเศรษฐกิจผันผวน โดย TQM ยังเติบโตได้ดีกว่าอุตสาหกรรม
   • เน้นการเติบโตในประกันบ้าน และควบคุมค่าใช้จ่าย
2. สิ่งที่ TQM ให้ความสำคัญเป็นสิ่งแรกในการดำเนินธุรกิจ:
   • ซื่อสัตย์ ยุติธรรม บริการเยี่ยม ตอบแทนสังคม และความยั่งยืน
3. ROI และ WACC ของโครงการลงทุน:
   • ROI และ WACC จะดูจากตัวโครงการที่ลงทุน
   • การซื้อธุรกิจไม่ได้ดูแค่ตัวเลข แต่ดู Synergy, โอกาส, และจังหวะเวลา
   • การทำ M&A จะต้องดูว่าธุรกิจนั้นอยู่ใน 3 Pillar หลักของ TQM หรือไม่ (Insurance, Financial, Technology)
   • จะพิจารณาธุรกิจที่เป็น Sunrise และมีศักยภาพที่จะช่วยให้ TQM เติบโตได้
4. นโยบายซื้อหุ้นคืนจะกระทบต่อการปันผลหรือไม่:
   • การซื้อหุ้นคืนจะทำให้บริษัทจ่ายปันผลในปริมาณหุ้นที่น้อยลง บริษัทจึงมีเงินเหลือมากขึ้น
   • นโยบายปันผลยังคงเดิม คือไม่ต่ำกว่า 50%
5. การลงทุนล่าสุดในการซื้อหุ้นบริษัทแห่งหนึ่ง 25% มูลค่า 70 ล้านบาท:
   • เป็นบริษัทบริหารจัดการหนี้ ซึ่งจะเสริม Financial Pillar ของ TQM
   • บริษัทนี้มีกำไรอยู่แล้ว และ TQM ซื้อมาในราคาที่ถูก
   • ไม่มี Risk และ Manage Risk ได้ดี
   • เน้นธุรกิจบริการเป็นส่วนใหญ่
6. กลยุทธ์ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดีกำลังซื้อไม่ดี:
   • ประกันภัยรถยนต์ (พรบ.) เป็นสิ่งบังคับที่ต้องซื้อ
   • มีเงินกู้ (Easy Lending) มาช่วยแบ่งเบาภาระลูกค้า
   • ภัยธรรมชาติทำให้คน Concern เรื่องประกันบ้าน
   • สังคมสูงวัย (Aging Society) ทำให้คน Concern เรื่องค่ารักษาพยาบาลและประกันสุขภาพ
   • ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
7. เป้าหมายตลาดประกันชีวิต:
   • ตั้งเป้าหลัง Take Off 15 เดือน จะมีเบี้ย 2,000 ล้านบาท
   • เป้าหมาย 5 ปี 5,000 ล้านบาท ยังคงเดิม
8. มองการแข่งขันตลาดประกันวินาศภัยในปีนี้:
   • การแข่งขันสูงเป็นเรื่องดี เป็นทางเลือกของผู้บริโภค
   • TQM ยังเน้น Service และครองความเป็นเจ้าตลาด
   • จะเน้นการเพิ่มตลาดตัวอื่นที่ไม่ใช่รถยนต์
9. รายได้หลักมาจากกลุ่มใด:
   • รายได้ 90% มาจาก Non-Life Insurance (วินาศภัย) และ 10% มาจาก Life Insurance (ชีวิต)
   • การเติบโตมาจากประกันบ้าน, ประกันรถ, และประกันสุขภาพที่มาจากวินาศภัย
   • COVID ทำให้บริษัทประกันภัยปิดตัว ทำให้คนย้ายประกัน
   • Q4 ยังเป็น High Season ของ New Business
   • ลูกค้าส่วนใหญ่ (70%) อายุ 35 ปีขึ้นไป ยังต้องการ High Touch
10. แผนการขยาย Capacity ของพนักงานขาย:
    • เน้นงาน Renew และเพิ่ม % การ Renew
    • พยายามทำทุกอย่างให้เป็น Automate แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ยังต้องการคนช่วย

โดยสรุป TQM Alpha ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1 ปี 2568 และมีแผนการเติบโตที่ชัดเจนในอนาคต โดยเน้นการขยายตลาดประกันชีวิต, การควบคุมค่าใช้จ่าย, และการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ