https://aio.panphol.com/assets/images/community/6319_dba9c8.png

CRC โชว์ผลงาน Q1/68 เติบโตต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศ

P/E 16.38 YIELD 3.17 ราคา 18.90 (0.00%)

ตกลงครับ นี่คือสรุปผลการประชุม Oppday ของ CRC ประจำไตรมาส 1 ปี 2568 ครับ

CRC โชว์ผลงาน Q1/68 เติบโตต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศ

1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**

CRC ได้รับเกียรติจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการแถลงผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2568 โดยมีผู้บริหารเข้าร่วมให้ข้อมูล ได้แก่ คุณรามศิริรัตน์ พรสุธี ผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และการบริหารจัดการความเสี่ยง, คุณจินทิพย์ อรุณวิทย์ IR Director และคุณสุภลักษณ์ ปรมาภรณ์สวัสดิ์ IR Director

ธุรกิจของ CRC มีความยืดหยุ่นและสามารถรับมือกับทุกสถานการณ์ เนื่องจากมีหลาย format, หลาย platform และดำเนินการในหลายประเทศ ธุรกิจแบ่งเป็น 4 หมวดใหญ่ ได้แก่ Food, Hardline, Fashion และ Property โดยรายได้จากการขายจะถูกบุ๊กใน 3 ธุรกิจหลัก ส่วน Property เป็นรายได้จากค่าเช่าเป็นหลัก

กลุ่ม Food มี contribution ประมาณ 44% ของยอดขาย โดย operate ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม ในไทยเป็นผู้นำในเรื่อง Premium Supermarket เช่น Tops Food Hall, Tops Daily และ Tops Supermarket รวมถึงธุรกิจน้องใหม่ GO Wholesale ที่เพิ่งเปิดตัวปลายปี 2566 นอกจากนี้ยังมีธุรกิจ Health and Wellness และ Hypermarket ในเวียดนามภายใต้แบรนด์ Tops Market

Hardline contribute ประมาณ 30% ของยอดขายที่มาจากรายได้จากการขาย หลักๆ อยู่ในไทยและเวียดนาม โดย 90% มาจากประเทศไทย นำโดยธุรกิจอุปกรณ์ก่อสร้างภายใต้แบรนด์ไทยวัสดุ และ B&B Home รวมถึงกลุ่มธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้แบรนด์ Power Buy นอกจากนี้ยังมี Office Supply, Stationery และ E-book ส่วนในเวียดนามมีธุรกิจเดียวคือ Electronics ภายใต้ Segment Hardline

Fashion contribute ประมาณ 26% ของ port โดย operate ในไทยและอิตาลี ส่วนเวียดนามมีสัดส่วนค่อนข้างเล็ก มีธุรกิจที่เป็น Brand Business ของตัวเองภายใต้เครือ CMG และมีส่วนที่เป็น Supersports ด้วย

Property operate ทั้งในไทยและเวียดนาม ภายใต้แบรนด์ Robinson Lifestyle ในหัวเมืองรอง ซึ่งมีทั้ง Department Store และพื้นที่เช่า สำหรับในเวียดนามอยู่ภายใต้ Go! Mall ซึ่งมี Hypermarket และพื้นที่เช่าด้วยเช่นเดียวกัน

Omni Channel มี mix อยู่ที่ 20% และมีส่วนทั้ง B ส่วนที่เป็น Online และเป็น O2O Channel โดยลูกค้าสามารถสั่งซื้อของผ่าน Chat & Shop หรือ Line Application ได้

Loyalty Platform ของ CRC มีอยู่ใน 3 ประเทศ มีสมาชิกทั้งหมดประมาณ 31 ล้านคน

พื้นที่เช่าเพิ่มขึ้นประมาณ 3% อยู่ที่ประมาณ 7 แสนตารางเมตร ส่วนพื้นที่ขายอยู่ที่ประมาณ 3.7 ล้าน เพิ่มขึ้นประมาณ 6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**
  • การขยายสาขาของ GO Wholesale และ Tops Supermarket
  • การนำ Brand Business ที่ประสบความสำเร็จในไทยไปเปิดในเวียดนาม
  • การปรับปรุงสาขาใหญ่ของ Robinson Lifestyle และการเปิด Format ใหม่ๆ
  • 3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**

    เศรษฐกิจทั่วโลกยังคงเผชิญความท้าทายและความไม่แน่นอนจากนโยบายทางการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อ Supply Chain, การส่งออก, การนำเข้า และความเชื่อมั่นในการลงทุน นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางของสหรัฐฯ คงอัตราดอกเบี้ยไว้และคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตที่ชะลอตัวลงและเงินเฟ้อสูงขึ้น ทำให้ภาพรวมของ GDP ในหลายๆ ประเทศมีการปรับตัวลดลง

    ในประเทศไทย สภาพัฒน์เพิ่งเผยตัวเลขเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาส 1 ซึ่งเติบโตอยู่ที่ประมาณ 3.1% และปรับลด GDP ทั้งปีลดเหลือเพียงแค่ 1.8% ซึ่งอาจมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ และความไม่แน่นอนต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสงครามทางการค้า หรือจำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากจีนที่มีการฟื้นตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้

    เวียดนามยังคงมีความท้าทายในเรื่องการเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกา

    4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**

    บริษัทมีความระมัดระวังในการบริหารงาน การควบคุมค่าใช้จ่าย และการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อให้ผลตอบแทนที่ดีและรักษาสถานภาพทางการเงินให้มั่นคง เพื่อให้สามารถ deliver ทั้งในเรื่องของ Top Line และกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

    บริษัทมีหลาย format หลาย portfolio ทำให้มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวและรับมือได้ทุกสถานการณ์ ซึ่งทำให้แต่ละ Business Unit สามารถ deliver ในส่วนของ Top Line และ Bottom Line ได้

    5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**

    บริษัทตั้งเป้าที่จะเติบโตรายได้และยอดขายอยู่ที่ +4% ถึง +6% จากปีที่แล้ว โดยมีงบลงทุน (Capex) อยู่ที่ 17,000 - 19,000 ล้านบาท เพื่อขยายสาขา โดยเฉพาะในกลุ่ม Food และ Hardline ในไทยและเวียดนาม

    บริษัทยังคงเดินหน้าในการพัฒนาด้านความยั่งยืน ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบการดำเนินงานด้าน ESG (สิ่งแวดล้อม, สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี) ผ่านปรัชญาธุรกิจ CRC Care และตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2550

    6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session):** เริ่มต้นที่นาที 27:47
    1. **คาดการณ์ดอกเบี้ยบริษัทปีนี้:** คาดว่าจะลดลงจากไตรมาส 1 (2.8%) เป็น 2.6% ตลอดทั้งปี
    2. **สัดส่วน Private Label ของ Food Sector:** ในไทยอยู่ที่ 11% มีการเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปีก่อนหน้า GO Wholesale มี House Brand สัดส่วนประมาณ 9%
    3. **แผนการเปิด GO Wholesale:** เปิดไปแล้ว 3 สาขา จากเป้า 4 สาขา อีก 1 สาขาจะเปิดในช่วงครึ่งหลังของปี
    4. **Margin ของกลุ่มธุรกิจ Food ลดลง:** มีส่วนแบ่งกำไรลดลงจากการตัดธุรกิจ Grab ออกไป หากตัดส่วนแบ่งกำไรออก จะติดลบเพียง 3% GO Wholesale ที่เป็นธุรกิจใหม่มีผลต่อ Margin แต่ถือเป็นการลงทุนระยะยาว คาดว่าจะ Break Even และเติบโตได้ต่อเนื่อง
    5. **แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2:** เป็นช่วงหน้าฝน ซึ่งเป็น Seasonal Low ของ Retail คาดว่ายอดขายจากสาขาเดิมจะติดลบ Mid Single Digit แต่ในเดือนพฤษภาคมบางกลุ่มธุรกิจ เช่น อาหาร มี Trend ดีกว่าเมษายน คาดว่าปลาย Quarter หากฝนน้อยลง Traffic จะกลับมาดีขึ้น
    6. **พื้นที่เช่า:** รายได้ค่าเช่าในไทยโต 1-2% ในเวียดนาม (Local Currency) ก็เติบโต 1% มีการปรับปรุง Renovate สาขา Flagship ซึ่งจะแล้วเสร็จในช่วงครึ่งปีหลัง
    7. **GO Wholesale จะมีเปิดไซส์เล็กไหม:** ไซส์เล็กสุดที่เปิดคือ 8,000 ตร.ม. คาดว่าจะไม่มีไซส์เล็กกว่านี้
    8. **กลยุทธ์ด้านนักท่องเที่ยว:** ปรับแผนการตลาดตาม Season และสัญชาติของนักท่องเที่ยวที่เข้ามา
    9. **นโยบายภาษีของ Trump:** ผลกระทบโดยตรงไม่มาก เพราะไม่ได้ส่งออกไปอเมริกา รายได้หลักมาจากการบริโภคในประเทศ หากบาทแข็งเทียบ USD ต้นทุนนำเข้าจะลดลง ความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีอาจกระทบความเชื่อมั่นผู้บริโภค

    **หัวข้อคำถามและคำตอบ:**

    • คาดการณ์ดอกเบี้ย
    • สัดส่วน Private Label
    • แผนเปิด GO Wholesale
    • Margin ธุรกิจ Food ลด
    • แนวโน้ม Q2
    • พื้นที่เช่าเพิ่ม
    • GO Wholesale ไซส์เล็ก
    • กลยุทธ์นักท่องเที่ยว
    • ผลกระทบนโยบาย Trump

    โดยรวมแล้ว CRC ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนต่างๆ บริษัทยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุน การขยายธุรกิจ และการพัฒนาความยั่งยืน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป

    โพสต์ล่าสุด