https://aio.panphol.com/assets/images/community/6313_c89bad.png

ไขความลับ SEI Medical โอกาสเติบโตในตลาดเครื่องมือแพทย์ ปี 2568

P/E 6.99 YIELD 5.31 ราคา 2.26 (0.00%)

ไขความลับ SEI Medical โอกาสเติบโตในตลาดเครื่องมือแพทย์ ปี 2568

สวัสดีครับ ผมกานต์ ปุญญเจริญศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท SCI Medical จำกัด มหาชน และดิฉันวิภารัตน์ เคนชาติศรี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายและการตลาด

วันนี้ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่สละเวลาเข้ามารับฟังข้อมูลของ SCI Medical โดยมี 5 หัวข้อหลักที่จะอัปเดตให้ทราบ:

  1. Company and Business Overview
  2. อัปเดตผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ปี 2568
  3. แผนการดำเนินงานในปี 2568 จนถึงสิ้นปี
  4. โอกาสของบริษัท
  5. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A)

SCI Medical ดำเนินธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ให้กับลูกค้าทั่วประเทศ บริษัทเพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI เมื่อเดือนกันยายน 2567 โดยใช้ตัวย่อ "SEI" ราคา IPO อยู่ที่ 3.10 บาท ปัจจุบันราคายังยืนเหนือราคา IPO

จากการอัปเดตเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทได้แจ้งว่ามีการขยายกลุ่มสินค้า จากเดิมที่ทำธุรกิจเดิม ก็ขยายไปในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ใน Intensive Care Unit (ICU) โดยหลัก ๆ คือเครื่องช่วยหายใจที่ใช้ในแผนก ICU

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

ปัจจุบัน SCI Medical มี 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก:

  1. Neonatal Care
  2. Endoscope
  3. Surgery
  4. Laboratory
  5. Aesthetic
  6. Intensive Care Unit

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Neonatal Care คือของใช้สำหรับทารกแรกเกิด เช่น ตู้อบเด็ก เครื่องช่วยหายใจ เครื่องให้ความอบอุ่น เครื่องวัดตัวเหลือง และเครื่องฉายแสงรักษาเด็กตัวเหลือง

นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Endoscope (กล้องส่องตรวจ) เช่น กล้องส่องตรวจระบบทางเดินอาหาร, ทางเดินหายใจ และอื่น ๆ รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในห้องส่องตรวจ เช่น เครื่องล้างกล้องและน้ำยาล้างกล้อง

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในห้องผ่าตัดมีตั้งแต่เตียงผ่าตัด โคมไฟผ่าตัด อุปกรณ์ผ่าตัด และเครื่องมืออื่น ๆ

ในส่วนของเครื่องมือวิทยาศาสตร์ บริษัทจัดจำหน่ายเครื่องอบแห้งสุญญากาศที่ใช้ในการทำวัคซีนและยา ตู้บ่มเพาะเชื้อ ตู้อบสำหรับงานวิจัย และอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ทั่วไปที่ใช้ในห้องแล็บ

ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Aesthetic เน้นนวัตกรรมในการดูแลรูปร่างและการลดน้ำหนัก เช่น บอลลูนลดน้ำหนัก และนวัตกรรมการกระชับหนังหน้าท้อง

กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม ICU เน้นเครื่องช่วยหายใจที่ใช้ในแผนก ICU

บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์และตลาดมาในส่วนของตลาด ICU เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่เป็นบวก เช่น ขนาดของตลาดที่ใหญ่ โรงพยาบาลทั่วไปมีความต้องการใช้เครื่องช่วยหายใจในแผนก ICU มูลค่ารวมของตลาดอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท โดยเครื่องช่วยหายใจมีมูลค่าต่อปีประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท บริษัทมองว่าเป็นตลาดที่ใหญ่และเข้ามาในจังหวะที่ถูกต้อง หลังโควิดความต้องการเครื่องช่วยหายใจค่อย ๆ กลับมา

ปัจจุบันบริษัทได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตร จากปี 2567 ที่ทำงานร่วมกับพันธมิตรและซัพพลายเออร์ 17 แบรนด์ทั่วโลก ปัจจุบันได้ขยายเป็น 20 ซัพพลายเออร์ และตั้งเป้าว่าปี 2568 จะขยายพันธมิตรให้ถึงไม่ต่ำกว่า 25 ซัพพลายเออร์ทั่วโลก

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

สำหรับผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 มีดังนี้:

Financial Performance: Total revenues มี consistency ในการเติบโตจากปี 2567 เมื่อเทียบเป็น Year-on-Year มีการเติบโตจาก 76.83 ล้านบาท เป็น 147.62 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 92.15% แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของบริษัทในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง Business unit ใหม่ (ICU) สามารถ contribute ได้ 8% ทำให้ revenue ในไตรมาส 1/2568 มีอัตราการเติบโตเป็น All-Time High ในรายไตรมาส

Gross Profit และ Gross Profit Margin: มีการเติบโตจาก Year-on-Year ไตรมาส 1/2567 เติบโตมาที่ 100.07% โดยมีการเติบโตที่ 25.2 ล้านบาท และเติบโตสูงขึ้นอยู่ที่ 50.42 ล้านบาท โดยมี Gross Profit Margin อยู่ที่ 34.28% แสดงถึงความสำเร็จของบริษัทในการขยายสินค้าในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ทำให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในส่วนของกำไร ทำให้ปี 2568 มี Performance ในส่วนของไตรมาส 1 ที่ประสบความสำเร็จ

Net Profit และ Net Profit Margin: มี significant growth อยู่ที่ 406.83% Year-on-Year เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ในปี 2567 Net profit ตรงนี้มีการเพิ่มจาก 4.38 ล้านบาท เป็น 22.18 ล้านบาท เป็นผลพวงมาจากการที่มีรายได้เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการบริหารจัดการ ทำให้เกิด Economy of Scale และการบริหารในส่วนของทรัพยากรของบริษัทที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ควบคุมในส่วนของ expense ในส่วนของทั้งเซลล์และ operation

Strong Financial Position: ทั้งในส่วนของ asset, liability และ equity มีการปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากรายได้ของบริษัทที่สูงขึ้น โดยมี asset อยู่ที่ 504.31 ตรงนี้ก็มาจากการกับรายได้ สัมพันธ์กับรายได้ที่สูงขึ้น ซึ่งบริษัทก็จะมี เอ่อลูกหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นนะคะแล้วก็รวมไปถึงเกี่ยวกับ เอ่อเงินสดนะคะที่เพิ่มสูงขึ้นค่ะในส่วนของ liability แล้วก็ equity นะคะก็เช่นเดียวกันค่ะก็ปรับตัวสูงขึ้นสัมพันธ์กับรายได้ของบริษัทที่สูงขึ้นนะคะโดยในส่วนของ liability นะคะเราก็มีงานขายที่มากขึ้นจึงทำให้เรามีในส่วนของหนี้นะคะที่เราต้องซื้อจาก supply เพื่อไปทำให้เกิดการขายในในในส่วนของออเดอร์ที่ลูกค้านะคะสั่งมานะค

Key Financial Takeaway: Gross Profit Margin ของบริษัทอยู่ที่ 34.28% ของ revenue ซึ่งมีความสัมพันธ์กับค่าเฉลี่ยในส่วนของ revenue ของบริษัทอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน สอดคล้องกับ price strategy และต้นทุนในการบริหารในส่วนของสินค้า Cost of good sold แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีขีดความสามารถในการแข่งขัน ทัดเทียมกับคู่แข่งอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน สิ่งที่บริษัททำได้ outperform ก็คือในส่วนของ expense สามารถควบคุมในส่วนของ Low selling expense และ Lean ในส่วนของ administrative expense โดยมีเปอร์เซ็นต์ของ revenue เพียงแค่ในส่วนของ selling expense อยู่เพียงแค่ 8.9% และในส่วนของ administrative expense นะคะอยู่ที่ 6.4%ซึ่งตรงนี้ก็เกิดจากการที่เราสามารถใช้ทรัพยากร นะคะของบริษัทได้ อย่างคุ้มค่า รวมไปถึงการที่เราบริหารนะคะการ การทำงานเป็นแบ่ง เป็น business unit ค่ะทำให้สามารถสร้าง เอ่อ cost Economy of scale นะคะในการบริหารงานได้ดีค่ะแล้วก็ในส่วนสุดท้ายนะคะก็คือในส่วนของ Financial position นะคะบริษัทมีความเสถียรภาพนะคะในการบริหารนะคะ เอ่อปัจจัยเสี่ยงต่างๆนะคะจึงทำให้ไม่มี significant ในส่วนของ Financial ค่ะเอ่อที่มันกระทบนะคะเกี่ยวกับ profit หรือว่า revenue ของบริษัทคะก

สรุปไฮไลท์ของไตรมาส 1/2568:

  1. บริษัทมี revenue อยู่ที่ 147 ล้านบาท เป็น All-Time High รายไตรมาส
  2. Business unit ใหม่ (ICU) สามารถ contribute ได้ถึง 8% ของรายได้
  3. บริษัทสามารถสร้าง All-Time High ในส่วนของรายไตรมาสในส่วนของ Net profit อยู่ที่ 22.18 ล้านบาท

Envision ของปี 2568 ที่ SCI Medical มีแผนจะทำให้บริษัทเติบโตขึ้น

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

แผนการดำเนินงานและกลยุทธ์ในปี 2568:

การขยายกลุ่มสินค้า: จากปีที่แล้วที่มี 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ขยายมาเป็น 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ตั้งเป้าที่จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ขึ้นอีกและแสวงหาความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ ทั่วโลก โดยตั้งใจว่าจะมีพันธมิตรเพิ่มเติม ภายในปีนี้รวมทั้งหมดจะไม่ต่ำกว่า 25 ราย เติบโตจากปี 2567 ที่ดำเนินธุรกิจร่วมกับ 17 พันธมิตร

ขยายธุรกิจในด้านวัสดุสิ้นเปลือง: ให้มีสัดส่วนมากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยง สินค้าวัสดุสิ้นเปลืองจะมีการจัดซื้อที่สม่ำเสมอมากกว่า

ธุรกิจการให้บริการ: ตั้งเป้าว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากการที่บริษัทมีการจัดจำหน่ายสินค้าเข้าไปในตลาดให้กับลูกค้ากลุ่มต่าง ๆ โดยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดหวังว่าการให้บริการ After-sale service กับเครื่องที่ได้จัดจำหน่ายไปอย่างต่อเนื่อง จะมีสัดส่วนปรับตัวมากขึ้น

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

ข้อสรุปในส่วนของ 2025 Envision: บริษัทมีความตั้งใจที่จะเติบโตในส่วนของ Top line โดยจากกลุ่มธุรกิจใหม่ที่ดำเนินงานเพิ่มเติม ประกอบกับกลุ่มธุรกิจเดิมที่ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าว่าในส่วนของ Top line จะเติบโต Double digit โดยที่ไม่ต่ำกว่า 20% ในปี 2568 นี้ ปีนี้เริ่มต้นได้ค่อนข้าง Strong ในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา มีผลการดำเนินธุรกิจเป็น All-Time High รายไตรมาส มีความเชื่อมั่นว่าจะรักษาโมเมนตัมนี้ต่อไปได้

ในส่วนของการเติบโตของธุรกิจการให้บริการ จะเติบโตในสัดส่วนที่สูงกว่า คือไม่ต่ำกว่า 30% พันธมิตรก็จะมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 25 รายทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันก็อยู่ในระหว่างเจรจาเพิ่มเติมอีกหลายราย

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

โอกาสในการดำเนินธุรกิจของบริษัท:

ยังมองว่าในปี 2568 และปีถัด ๆ ไป อุตสาหกรรมนี้ยังเป็น Positive Industry outlook ยังมองว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ยังมีความแข็งแกร่งในสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน แต่ทางด้านธุรกิจอุตสาหกรรมทางด้านการแพทย์หรือสุขภาพ มองว่าเป็นกลุ่มที่ค่อนข้าง Defensive มีความจำเป็นที่จะต้องใช้

Business Expansion Strategy: มีกลยุทธ์ที่จะเติบโตในอุตสาหกรรมนี้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ซึ่งเมื่อเทียบกับ Peer (คู่แข่ง) บริษัทก็ยังมี Size หรือ Scale ที่ค่อนข้างเล็ก ทำให้มองว่าเป็นโอกาสที่จะเติบโตได้อีกเยอะ

ปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจผ่าน 6 กลุ่มธุรกิจ แต่ถ้ามองในส่วนของแผนกต่าง ๆ ในโรงพยาบาล มีหลายสิบแผนก สะท้อนออกมาเป็นหลายสิบกลุ่มผลิตภัณฑ์ ที่สามารถเข้าไป Explore และสามารถเข้าไปแข่งขันได้

นอกเหนือจาก Size ของบริษัทที่มีขนาดเล็กที่ทำให้มีโอกาสเติบโต ยังมีโอกาสเติบโตได้จริง ๆ แล้วก็สะสมประสบการณ์ในธุรกิจนี้มา ทำให้มีความเข้าใจในส่วนของตลาดนี้อย่างเชิงลึก ดำเนินธุรกิจนี้มาใกล้เคียงจาก 40 ปีแล้ว

การที่อยู่ในวงการนี้มานาน เข้าใจกลยุทธ์ที่ทำให้บริษัทแสวงหาผลกำไรในอุตสาหกรรมนี้ได้ Financial Performance การที่จะมี Financial Performance ที่ดีในธุรกิจนี้ได้ มองว่ามีโครงสร้างที่เหมาะสม โครงสร้างเหมาะสมมีกลยุทธ์การทำงานที่เหมาะสม จนสะท้อนออกมาเป็นผลกำไร ให้กับบริษัทและนักลงทุนได้

การที่บอกว่าโครงสร้างเหมาะสม ก็อย่างที่เรียน ในส่วนของการที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในนี้ ในอุตสาหกรรมนี้ ในส่วนของ Gross Profit Margin หรือว่าต้นทุนสินค้า เปรียบเทียบกันในอุตสาหกรรมแล้วคงไม่ได้แตกต่างกัน แต่คงต้องไปวัดกันที่ในส่วนของ Efficiency ของการดำเนินธุรกิจ

ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นผลประกอบการ โครงสร้างก็จะสะท้อนมาแบบนั้น ค่าใช้จ่ายก็จะควบคุมให้เป็นอย่างดี โครงสร้างก็จะบางส่วนที่ไม่จำเป็นก็จะพยายามจะ ลดออกไป Operations ต่าง ๆ ถ้ามีการ Outsource อาจจะทำให้ expense over run ได้ ตรงนี้อะไรที่ทำเองได้ก็จะทำเองหมด

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 45:54]

คำถาม: ในส่วนของแผนก ICU บริษัทตั้งเป้าไว้ที่กี่เปอร์เซ็นต์ของรายได้ สัดส่วนรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้

คำตอบ: เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ potential สูง แต่ดำเนินธุรกิจตรงนี้เป็นปีแรก ตั้งเป้าไว้ค่อนข้าง conservative contribution น่าจะอยู่ที่ประมาณ 8-12% ของรายได้รวมของบริษัท

คำถาม: สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันมีผลกระทบต่อธุรกิจอย่างไรบ้าง

คำตอบ: อุตสาหกรรมที่อยู่ค่อนข้าง defensive ต่อความผันผวนในสภาพเศรษฐกิจ แต่ก็มีผลกระทบบ้าง แต่เป็นผลกระทบที่สามารถบริหารจัดการได้ ตัวอย่างเช่น ในส่วนของคนไข้หรือจำนวนเคส ถ้าเป็นเคสที่ไม่ได้มีความเร่งรีบหรือความจำเป็นที่จะต้องเข้ารับธรรมจัดการอะไรเงี้ย ก็อาจจะมีคนไข้บางส่วนที่ delay ในส่วนของตรงนี้ไปก่อนในเรื่องของค่าใช้จ่าย แต่ก็เป็นสัดส่วนที่สามารถ manage ได้

คำถาม: ปีนี้มีแผนจะเพิ่มผลิตภัณฑ์หรือกลุ่มสินค้าอะไรใหม่ ๆ อีกบ้าง

คำตอบ: บริษัทเปิดรับโอกาสใหม่ ๆ ทั้งหมด คุยกับพันธมิตรหลายเจ้า กำลังอยู่ในช่วงเจรจาและแสวงหานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อมานำเสนอในตลาดในประเทศไทย ถ้าเรามองเดินเข้าไปในโรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลหนึ่งมีแผนกหลายสิบแผนก ตรงนั้นก็มองว่าเป็น opportunity เพราะว่าปัจจุบันดำเนินธุรกิจผ่าน 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์เอง

คำถาม: ปัจจัยหลักที่อยู่เบื้องหลังการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของกำไรสุทธิ เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปีที่ เมื่อเทียบปีต่อปีในไตรมาส 1 ปี 2568 คืออะไร

คำตอบ: ไตรมาสที่ผ่านมาเป็นไตรมาสที่บริษัทสามารถทำ All-Time High ทางด้านรายได้และในส่วนของกำไรสุทธิ การที่บริษัทสามารถขยายกลุ่มสินค้าและมีรายได้เพิ่มเข้ามาได้ ก็มองว่าเป็นการที่บริษัทสามารถใช้ leverage ในส่วนของ Economy of Scale ได้ เมื่อบริษัทมีรายได้พ้นจากในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เป็น fixed cost ขึ้นไปมาก ๆ ก็จะ contribute กลับมาเป็นกำไรอย่างมีนัยยะสำคัญมากขึ้น สามารถ leverage Economy of Scale ได้ และในขณะเดียวกันก็ต้องเรียนว่าบริษัทมีโครงสร้างการบริหารจัดการรายจ่ายที่ค่อนข้าง Lean

โดยสรุป SCI Medical มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1 ปี 2568 และมีแผนการเติบโตที่ชัดเจน โดยเน้นการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ การเพิ่มสัดส่วนวัสดุสิ้นเปลือง และการพัฒนาธุรกิจการให้บริการ บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน

โพสต์ล่าสุด